ป.ป.ช.เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'สมพงษ์ ยูงทอง' อดีตรองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์มหาวิทยาลัยมหิดล ทุจริตจัดจ้างก่อสร้างห้องน้ำชาย ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุก 5 ปี - พวก 1 ราย โดน 2 ปี 16 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา นายสมพงษ์ ยูงทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีฝ่ายโครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์มหาวิทยาลัยมหิดล กับพวก คือ นางสาวจนนยา กวางแก้ว ทุจริตในการดำเนินการจัดจ้างก่อสร้างห้องน้ำชายนอกอาคาร ณ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตนครสวรรค์ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8, 9, 11 ประกอบ ปอ. มาตรา 86 และ พ.ร.ป ป.ป.ช. พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 192 ประกอบ ปอ. มาตรา 86 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2564
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาดังนี้
1. นายสมพงษ์ ยูงทอง จำเลยที่ 1 มีความผิดตามมาตรา 8 มาตรา 9 สำหรับการกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษตาม มาตรา 9
จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี
ให้นับโทษของจำเลยที่ 1 ต่อ จากโทษในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 67/2563 หมายเลขแดงที่ อท 16/2564 ของศาลนี้
2. นางสาวจนนยา กวางแก้ว จำเลยที่ 2 มีความผิดตามมาตรา 8 มาตรา 9 ประกอบ ปอ.มาตรา 86 สำหรับจำเลยที่ 2 ให้ลงโทษตามมาตรา 9 ประกอบ ปอ. มาตรา 86
จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี 16 เดือน
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลยทั้ง 2 ราย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบในกรณีที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษา
สำหรับพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 8 ระบุว่า ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ บริษัทจำกัดห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
มาตรา 9 ผู้ใดเป็นพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสีย เพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท152 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใด เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คุก 5 ปี! อดีตนายก อบต.หาดพันไกร ชุมพร ทุจริตเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ
- รอลงอาญา! คุก1 ปี 6 ด.อดีตผอ.ศูนย์วิจัยบำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่-พวก ทุจริตวิจัยหมูดำ
- คุกคนละ 2 ปี! 'พ.อ.-ร.อ' เรียกเงินอ้างฝากเข้ารับราชการทหาร - เคยโดนคดีฆ่านักธุรกิจหนุ่ม
- คุก 4 ปี 12 ด.! อดีตปลัด อบต.กุดน้อย ยักยอกเงินบริจาคกิจกรรมผู้สูงอายุ-อาหารกลางวันเด็ก
- ยืนโทษ! คุกคนละ 6 ด.อดีตนายก อบต.โพนโก สุรินทร์ -พวก คดีปลอมเอกสารจัดซื้อจ้าง
- คดีที่ 2! เงินทอนวัดศรีทรายมูล อดีตผอ.ส่วนพัฒนาบูรณะฯ โดนคุกอีก 3 ปี คืนเงิน 1.5 ล.
- คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตนายกเทศฯ วังกรด พิจิตร เรียกรับเงินส่วนแบ่งจ่ายโบนัส จนท.
- จาก 10 เหลือคุก 6 ปี 8 ด.! แก้โทษ อดีตนายก อบต.กมลา ภูเก็ต ทุจริตสร้างเขื่อน-กุโบร์
- รอลงอาญา! คุก 2 ปี 6 ด. อดีตนายกเทศฯ ศรีสัชนาลัย ทุจริตเบิกค่าปฏิบัติงานวันหยุดราชการ
- ป.ป.ช.ขอฎีกาสู้! ยืนโทษรอลงอาญาคุก 2 ปี 6 ด. นายกอบต.ทับช้าง ผิดระเบียบจ้างงานศูนย์ฯเด็ก
- จำคุก1 ปี / 6 ด.! 'พวก' อดีตนายกอบต.คลองตัน สมุทรสาคร เบิกจ่ายค่าแว่นตามิชอบ