ป.ป.ช.เผยแพร่ผลคดีกล่าวหา 'พันเอก มนูญ หรือสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร' อดีตรองผอ.กองแผนโครงการกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก-พวก เรียกรับเงินบุคคลภายนอกอ้างสามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหารได้ ล่าสุด ศาลทหารกรุงเทพ พิพากษาลงโทษ จำคุกคนละ 2 ปี หลังรับสารภาพ - นับโทษต่อคดีเก่า เคยโดนคดีฆ่านักธุรกิจหนุ่มที่กาฬสินธุ์ ปมแบ่งเงินขายที่ดินไม่ลงตัว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา พันเอก มนูญ หรือสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองแผนและโครงการกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก กับพวก คือ ร้อยเอกกิตติภพ เครือใย เรียกรับเงินจากบุคคลภายนอกโดยอ้างว่าสามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหารได้ ปลอมและใช้เอกสารปลอม ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2563
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2566 ศาลทหารกรุงเทพ มีคำพิพากษาว่า พันเอก มนูญ หรือสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร จำเลยที่ 1 และ ร้อยเอกกิตติภพ เครือใย จำเลยที่ 2 มีความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ให้ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คนละ 4 ปี
ลดโทษที่จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา อันเป็นเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลงคนละกึ่งหนึ่ง
คงให้จำคุกจำเลยที่ 1 และ จำเลยที่ 2 ไว้มีกำหนดคนละ 2 ปี
โทษจำคุกของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ให้นับต่อจากโทษจำคุกตามคดีหมายเลขแดงที่ 384 - 385/2561 ของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่มีให้หักวันคุมขังในคดีนี้ตั้งแต่วันที่ศาลประทับฟ้องจนถึงวันก่อนวันที่ศาลพิพากษาเนื่องจากวันคุมขังทับซ้อนกับโทษจำคุกในคดีตังกล่าว
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 16 ส.ค.2566 ได้พิจารณาแล้ว มีมติเห็นชอบในการที่อัยการสูงสุด (อสส.) จะไม่อุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว
สำหรับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 123 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่ง หรือหน้าที่นั้นเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีหรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้ ในช่วงปี 2559 เคยปรากฏข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว นายสิทธิ์ฐิคมน์ ภัทรเมธาพร หรือ พ.อ.มนูญ ภัทรเมธาพร อดีตนายทหารสังกัดกระทรวงกลาโหม และ นายกิตติภพ เครือใย หรือ ร.อ.กิตติภพ เครือใย อดีตนายทหาร ประจำกระทรวงกลาโหม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณทางขึ้นผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ หลังร่วมกันก่อเหตุฆ่า นายภาสพล รัตนยาธิคุณ นักธุรกิจชาวกรุงเทพมหานคร ที่จ.กาฬสินธุ์ (อ้างอิงข่าวจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/253094)
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คุก 5 ปี! อดีตนายก อบต.หาดพันไกร ชุมพร ทุจริตเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ
- รอลงอาญา! คุก1 ปี 6 ด.อดีตผอ.ศูนย์วิจัยบำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่-พวก ทุจริตวิจัยหมูดำ