เผยแพร่ความคืบหน้าผลคดีกล่าวหา 'วิเชียร พรหมพิราม' อดีตนายกเทศมนตรีเมืองศรีสัชนาลัย สุโขทัย ทุจริตเบิกจ่ายเงินค่าปฏิบัติงานวันหยุดราชการ เสาร์ - อาทิตย์ ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบภาค 6 พิพากษาลงโทษ จำคุก 2 ปี 6 เดือน แต่ได้รอลงอาญา - ป.ป.ช.ขออุทธรณ์สู้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่ความคืบหน้าคดีกล่าวหา นายวิเชียร พรหมพิราม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย ทุจริตการเบิกจ่ายเงินค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการปกติ วันหยุดราชการ วันหยุด วันเสาร์ - อาทิตย์ ในโครงการซ่อมแซมตลาดพื้นบ้านและงานประเพณีสรงน้ำโอยทานสงกรานต์ศรีสัชนาลัย ประจำปี 2561 ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 , 157 และ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 มาตรา 123/1 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช. พ.ศ.2561 มาตรา 192 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาว่า นายวิเชียร พรหมพิราม จำเลยมีความผิดตามมาตรา 151 พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172
การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 151 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามมาตรา 90
จำคุก 5 ปี และปรับ 100,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามมาตรา 78
คงจำคุก 2 ปี 6 เดือน และปรับ 50,000 บาท
ไม่ปรากฎว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 3 ปี ให้คุมความประพฤติจำเลยเป็นเวลา 2 ปี กำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง และให้ทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง ตามมาตรา 56 หากไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29 , 30
ยกคำร้องขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของผู้ร้องค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ
ทั้งนี้ คดีนี้ยังไม่สิ้นสุด จำเลย มีสิทธิต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก
เบื้องต้น คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีการประชุมเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566 ได้พิจารณาแล้วมีมติเห็นควรอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6
สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
อ่านข่าวในหมวดเดียวกัน
- คุก 5 ปี! อดีตนายก อบต.หาดพันไกร ชุมพร ทุจริตเบิกจ่ายเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพ
- รอลงอาญา! คุก1 ปี 6 ด.อดีตผอ.ศูนย์วิจัยบำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่-พวก ทุจริตวิจัยหมูดำ
- คุกคนละ 2 ปี! 'พ.อ.-ร.อ' เรียกเงินอ้างฝากเข้ารับราชการทหาร - เคยโดนคดีฆ่านักธุรกิจหนุ่ม
- คุก 4 ปี 12 ด.! อดีตปลัด อบต.กุดน้อย ยักยอกเงินบริจาคกิจกรรมผู้สูงอายุ-อาหารกลางวันเด็ก
- ยืนโทษ! คุกคนละ 6 ด.อดีตนายก อบต.โพนโก สุรินทร์ -พวก คดีปลอมเอกสารจัดซื้อจ้าง
- คดีที่ 2! เงินทอนวัดศรีทรายมูล อดีตผอ.ส่วนพัฒนาบูรณะฯ โดนคุกอีก 3 ปี คืนเงิน 1.5 ล.
- คุก 3 ปี 4 ด.! อดีตนายกเทศฯ วังกรด พิจิตร เรียกรับเงินส่วนแบ่งจ่ายโบนัส จนท.
- จาก 10 เหลือคุก 6 ปี 8 ด.! แก้โทษ อดีตนายก อบต.กมลา ภูเก็ต ทุจริตสร้างเขื่อน-กุโบร์