วาระปรับโครงสร้างฯค้างบอร์ด! 'ปธ.กสทช.'ปิดประชุมกะทันหัน-กก.ทวงปลด'ไตรรัตน์'พ้นรักษาการ

nbtc 10 08 23 pic new

‘ประธาน กสทช.’ สั่งปิดประชุม 'กะทันหัน' หลังความเห็นถกวาระปรับโครงสร้าง ‘สำนักงาน กสทช.’ ไม่ได้ข้อยุติ ขณะที่ บอร์ด กสทช. ‘เสียงข้างมาก’ ทวงถามเซ็นคำสั่งปลด ‘ไตรรัตน์’ พ้นตำแหน่งรักษาการเลขาธิการฯ

.........................................

แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา กรรมการ กสทช. 4 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,ศ.ดร.พิรงรอง รามสูต ,รศ.ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย และ รศ.ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ได้ทวงถาม ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เรื่อง การลงนามคำสั่งเปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช.

เนื่องจากก่อนหน้านี้ ที่ประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งที่ 13/2566 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ได้มีมติเสียงข้างมากให้ นายภูมิศิษฐ์ มหาเวศน์ศิริ รองเลขาธิการ กสทช. ปฏิบัติหน้าที่รักษาการเลขาธิการ กสทช. แทน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล

อย่างไรก็ตาม ประธาน กสทช. ยืนยันว่า จะยังไม่ลงนามคำสั่งตามมติที่ประชุม กสทช.ครั้งที่ 13/2566 พร้อมทั้งระบุว่าอำนาจในการแต่งตั้งรักษาการเลขาธิการ กสทช. เป็นของประธาน กสทช. เท่านั้น

นอกจากนี้ ในระหว่างการหารือฯ ที่ประชุมได้หยิบยกบันทึกข้อความของนายภูมิศิษฐ์ ที่ขอให้ที่ประชุม กสทช. วินิจฉัยชี้ขาดกรณีการปฏิบัติตามมติ กสทช. ครั้งที่ 13/2566 เรื่อง การเปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ กสทช. ซึ่งเป็นมติที่ผ่านการรับรองโดยที่ประชุม กสทช.แล้ว เนื่องจากนับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.2566 จนถึงปัจจุบัน นายไตรรัตน์ยังคงปฏิบัติหน้าที่และลงนามในหนังสือ คำสั่งและประกาศสำคัญต่างๆ ในฐานะรักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. อยู่ตามเดิม

พร้อมทั้งหยิบยกระเบียบคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ว่าด้วยการรักษาการแทน การปฏิบัติการแทน และการปฏิบัติงานเฉพาะอย่างแทนในตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. และพนักงานของสำนักงาน กสทช. พ.ศ.2555 ข้อ 16 ที่ระบุว่า “ในกรณีที่มีปัญหาในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้เลขาธิการเสนอ กสทช. เพื่อพิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาด คำวินิจฉัยของ กสทช. ให้เป็นที่สุด”

แต่ ประธาน กสทช.ปฏิเสธที่จะให้ที่ประชุมพิจารณาลงมติในเรื่องดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่มีการบรรจุวาระนี้ในการประชุมครั้งนี้ และแม้ว่าที่ประชุมจะแย้งว่า เรื่องนี้เป็นวาระติดตามการดำเนินการตามมติบอร์ด กสทช. ซึ่ง ประธาน กสทช.ก็ไม่ยินยอมอีก และได้ระบุว่า วาระเรื่องติดตามมติ กสทช. นั้น จะต้องเป็นวาระที่พิจารณาในช่วงท้ายของการประชุม หลังจากวาระเสนอเพื่อพิจารณาอื่นๆ ทั้งหมดจบหมดแล้ว

อย่างไรก็ดี หลังจาก ประธาน กสทช.ชี้แจงแล้ว ได้มีกรรมการ กสทช. เสนอขอให้สลับวาระเรื่องการติดตามการดำเนินการตามมติบอร์ด กสทช. ขึ้นมาพิจารณาก่อนได้หรือไม่ แต่ประธาน กสทช. ไม่ยินยอมที่จะสลับวาระ และระบุว่าเป็นอำนาจของประธาน กสทช. เท่านั้น ในการสลับวาระอื่นขึ้นมาพิจารณา

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 13/2566 มีมติเสียงข้างมากเห็นชอบให้เปลี่ยนตัวรักษาการเลขาธิการ จากนายไตรรัตน์ เป็นนายภูมิศิษฐ์ เนื่องจากการที่นายไตรรัตน์ถูกคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง 4 ใน 6 เสียงตัดสินว่าอาจจะมีความผิดจากกรณีอนุมัติเงินสนับสนุนบอลโลก 600 ล้านบาท และไม่ปฏิบัติตามกฎมัสต์แคร์รี่ (Must Carry) จึงควรมีการสอบสวนทางวินัยและหยุดปฏิบัติหน้าที่ในช่วงระหว่างนั้น

@ประธานสั่งปิดประชุม หนีลงมติวาระปรับโครงสร้างสำนักงานฯ

แหล่งข่าวยังระบุว่า ในการประชุม กสทช.ครั้งนี้ ที่ประชุมฯมีวาระพิจารณา เรื่อง การปรับโครงสร้างสำนักงาน กสทช. ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราตำแหน่งบุคลากร และงบประมาณของสำนักงาน กสทช. แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงการลงมติ ประธาน กสทช. ได้ขอให้ไปทบทวนมติของ กสทช. ในเรื่องเดียวกันเมื่อปี 2562 ซึ่งเป็นมติบอร์ดชุดที่แล้วด้วย และย้ำว่าจะต้องใช้เสียงกรรมการไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 เพื่อพิจารณาใหม่ตามข้อ 45 ระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมฯ

ทำให้ที่ประชุมฯได้อภิปรายเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง โดย พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กรรมการ กสทช. ในฐานะประธานคณะทำงานการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงาน กสทช. ได้อธิบายความหมายของการทบทวนมติ และการพิจารณาใหม่ ว่า ไม่เข้ากับในกรณีนี้ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงโครงสร้างสำนักงาน กสทช. เป็นการมอบหมายโดยมติ กสทช. เพื่อปรับปรุงบทบาทของสำนักงานฯไปสู่การเป็นสำนักงานที่กำกับดูแลกิจการการสื่อสารในลักษณะหลอมรวม

ดังนั้น จึงไม่ใช่การหยิบยกประเด็นซึ่งที่ประชุมมีมติแล้วขึ้นมาพิจารณาใหม่ และไม่ต้องใช้เสียงกรรมการไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 แต่อย่างใด อีกทั้งหากเรื่องดังกล่าวเป็นไปตามที่ประธาน กสทช. กล่าวอ้างว่าเป็นไปตามข้อ 45 ของระเบียบฯแล้ว การออกประกาศหรือระเบียบต่างๆที่ผ่านมา จะต้องเป็นโมฆะทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาไม่ได้มีการทบทวนมติของประกาศหรือระเบียบเก่า ก่อนที่จะมีมติเห็นชอบประกาศหรือระเบียบใหม่

จากนั้น กรรมการ กสทช. 4 ราย ได้แก่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ ,ศ.ดร.พิรงรอง ,รศ.ดร.ศุภัช และ รศ.ดร.สมภพ ได้เสนอประธาน กสทช. ว่า ควรให้มีการลงมติตาม ข้อ 41(1) ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมฯ แต่ ประธาน กสทช. ไม่ยินยอม และยืนยันว่าจะต้องการทบทวนมติของบอร์ด กสทช. ชุดที่แล้วในเรื่องนี้ ซึ่งจะต้องใช้เสียงมากกว่า 2 ใน 3 ในขณะที่กรรมการ กสทช. ทั้ง 4 ราย ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ประธาน กสทช.เสนอ

ประธาน กสทช. จึงเสนอว่า ให้ส่งเรื่องนี้ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตีความ แต่กรรมการ กสทช. เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะกรณีนี้เป็นระเบียบภายในที่ กสทช. มีความเชี่ยวชาญมากที่สุด และเมื่อที่ประชุมยังมีความเห็นแย้งกัน ประธาน กสทช. จึงขอพักการประชุม แม้ว่ากรรมการ กสทช. เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการขอพักการประชุมก็ตาม โดยประธาน กสทช.ได้ประกาศพักการประชุม 20 นาที และเดินออกจากห้องประชุม ก่อนจะนั่งรถออกไปจากสำนักงานฯ

“ในระหว่างที่ กสทช. บางคนออกไปพัก นั้น นพ.สรณ ได้กลับเข้ามาในที่ประชุม และกล่าวใส่ไมโครโฟนว่า ขอปิดการประชุม ก่อนจะรีบรุดออกจากที่ประชุม และนั่งรถที่จอดรออยู่ออกไปจากสำนักงานทันที ทำให้ กรรมการ กสทช.ที่เหลือในห้องงงไปตามๆกัน เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในการประชุมกสทช.มาก่อน” แหล่งข่าวระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ ที่ประชุม กสทช. ครั้งที่ 17/2565 เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2565 มีมติเห็นชอบให้มีการปรับโครงสร้างสำนักงานฯ และแต่งตั้งคณะทำงานปรับโครงสร้างสำนักงาน กสทช. ต่อมาที่ประชุม กสทช.นัดพิเศษ ครั้งที่ 4/2566 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.2566 มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างสำนักงานฯ และให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อแนวทางการปรับปรุงโครงสร้างสำนักงานฯ ตามที่ประธานคณะทำงานฯ เสนอ

ต่อมาวันที่ 26 เม.ย.2566 คณะกรรมการ กสทช. และผู้บริหาร กสทช. ได้ประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างสำนักงานฯ และได้นำร่างการปรับโครงสร้างสำนักงาน กสทช. ที่ปรับปรุงแล้ว เสนอให้ที่ประชุม กสทช.พิจารณาในวันที่ 26 มิ.ย.2566 แต่การพิจารณาวาระดังกล่าวถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลา 2 เดือน จนกระทั่งเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม กสทช. ในวันที่ 9 ส.ค.2566

ขณะที่ ข้อ 41 (1) ของระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมฯ ระบุว่า “กรณีเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดเกี่ยวกับการใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม มาตรา 27 (19) (23) และ (25) หรือเป็นกรณีการบริหารจัดการภายในตามความในมาตรา 58 ให้ใช้เสียงข้างมากของกรรมการผู้มาประชุม”

อ่านประกอบ :

เกิดการดื้อ-ขัดขืน! ‘ประธาน กสทช.’รวบอำนาจสั่ง‘พนง.’เบ็ดเสร็จ อ้างปย.สูงสุดต่อประเทศชาติ

ยังไม่ลงมติเลือกใคร! 8ผู้สมัครฯโชว์วิสัยทัศน์ชิงตำแหน่ง‘เลขาธิการ กสทช.’-‘พีระกันต์’ไม่มา

ปลด'นพ.ประวิทย์'พ้นที่ปรึกษาฯ'ปธ.กสทช.'-พบเคยเป็น'อนุกรรมการฯ'สอบค่าซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก

เลขานุการ'ปธ.กสทช.'แจงยกเลิกประชุมบอร์ดผ่าน'กรุ๊ปไลน์' เป็นไปตามคำพิพากษา'ศาลปค.สูงสุด'

กสทช.เดือด! ปมยกเลิกประชุมบอร์ดกะทันหัน ชี้‘ปธ.’ป่วย แต่มอบ‘กรรมการ’คนอื่นทำหน้าที่แทนได้

ส่อผิดม.157! โชว์หนังสือ4กสทช. เตือน‘สรณ’หักมติบอร์ด ปมปลด‘ไตรรัตน์’พ้นรักษาการ-ตั้งสอบฯ

ก่อน'ปธ.'หักมติบอร์ด!เปิดวาระลับ กสทช.โหวต 2 รอบปลด'ไตรรัตน์'พ้น'รักษาการเลขาธิการ-ตั้งสอบฯ'

ยกเลิกคำสั่งสอบฯตัวเอง!‘ไตรรัตน์’ล้ม‘คกก.สอบสวน’ปมลิขสิทธิ์บอลโลก-ย้ายใหญ่ผู้บริหาร กสทช.

พร้อมรับผิดชอบเอง!‘ประธาน กสทช.’เมินมติบอร์ด ป้อง‘ไตรรัตน์’นั่งรักษาการฯ หลัง 4 กก.ท้วง

อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนกม.!เปิดผลสอบฯปมลิขสิทธิ์บอลโลก ก่อน‘บอร์ด กสทช.’ปลด‘ไตรรัตน์’พ้นรักษาการ

‘ไตรรัตน์’ยังนั่งรักษาการ! เลขานุการ‘ปธ.กสทช.’ยันไม่มีคำสั่งปลด-ห่วงพนง.กระด้างกระเดื่อง