‘วิทยา แก้วภราดัย’ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มองการโหวตนายกรัฐมนตรีต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปมโหวตนายกฯซ้ำขัดข้อบังคับที่ 41 หรือไม่ก่อน ย้ำ 36 สส.ไม่มีเสียงแตก
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 8 สิงหาคม 2566 วันที่ 8 สิงหาคม เวลา 16.00 น.ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีการประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) และสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 9 สิงหาคม โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ผู้บริหารพรรค และสส.ของพรรคเข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมว่า วันนี้เป็นการประชุม สส.พรรคตามปกติ โดยจะมีการประชุมทุกวันอังคาร เพื่อเตรียมการในการประชุมสภา โดยประเด็นหลัก เช่น การติดตามตรวจสอบงบประมาณการจ่ายเงินของหน่วยงานต่าง ๆ และเรื่องของญัตติในสภาฯ โดยเป็นการเตรียมความพร้อมของสส.ที่จะหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนและสส.ที่จะหารือในสภาฯ
@โหวตนายกฯ รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีว่า มีการหารือด้วยหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าจะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่าจะพิจารณาอย่างไรในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นเรื่องของพรรคที่เตรียมตัวจะเป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตามตนคิดว่าในสัปดาห์หน้าก็น่าจะยังไม่สามารถทำอะไรได้ และจะต้องรอไปก่อน ส่วนแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้เห็นว่าเป็นไปได้หมดทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นสลับขั้ว หรือถอยกลับก็ทำได้หมด แต่คิดว่าช่วงนี้เว้นระยะไปก็จะเป็นการดีทั้งให้ผู้ที่เตรียมตั้งรัฐบาลได้เตรียมตัว และประชาชนก็จะได้พักด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดเห็นอย่างไรกับการที่พรรคภูมิใจไทยได้ไปหารือร่วมกับพรรคเพื่อไทย นายวิทยา กล่าวว่า สถานการณ์แบบนี้เห็นว่าไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนที่ไปดื่มช้อคมิ้นต์กัน ผ่านมาก็ไม่มีความคืบหน้า ครั้งนี้ก็น่าจะเหมือนเดิม เพราะเห็นว่ามีแค่ 212 เสียงจึงไม่น่าจะใช่ เพราะการจะตั้งรัฐบาลได้ จะต้องมีการพูดเรื่องนโยบายเงื่อนไขให้จบ ถ้าไม่คุยแล้วมาบอกว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกันจึงคิดว่าไม่น่าจะสามารถจัดตั้งได้
นายวิทยา กล่าวถึงการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า พรรคจะต้องรอสัญญาณจากหัวหน้าพรรคก่อน แต่ตอนนี้หัวหน้าพรรคยังไม่ได้ส่งสัญญาณอะไร และยืนยันว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมี 36 เสียง ไม่มีเสียงแตกเพราะทุกคนหวังว่า จะทำพรรครวมไทยสร้างชาติให้เป็นสถาบันพรรคการเมือง ถ้าจะไปไหนก็จะต้องไปทั้งพรรค และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็มีแนวคิดเป็นสถาบันพรรคการเมืองเช่นกัน คงไม่คิดว่าจะมาล้วงคนของชาวบ้านไปเหมือนกัน
@’เอกนัฎ’ เปิดแผน รทสช. สู้ทั้งใน-นอกสภาฯ
ขณะที่นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า แม้การเลือกตั้งจะจบลงไปแล้ว แต่ รทสช.ไม่เคยหยุดเดินหน้าภารกิจสร้างพรรคด้วยทุนประเดิม ที่ได้รับจากการเลือกตั้งกว่า 4.7 ล้านเสียงเป็นจุดเริ่มต้น
“ในสภา รทสช. ยืนหยัดปักหลักต่อสู้ด้วย สส. 36 คน ที่เรามี เสนอชื่อรองประธานสภาฯแข่งกับตัวแทนจากพรรคก้าวไกล จนได้ 105 เสียงมาสนับสนุน แสดงจุดยืน คัดค้านการแก้ไข ม.112 ในวันโหวตนายกฯ ได้ร่วมอภิปรายและโหวตไม่เห็นชอบคุณพิธา อย่างตรงไปตรงมา” เลขาธิการพรรคกล่าวตอนหนึ่ง
นายเอกนัฎ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ พรรคยังปฏิเสธการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่จะนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมือง สร้างปัญหาให้กับประเทศ ประกาศอย่างเปิดเผยชัดเจน ว่าจะไม่ส่งแคนดิเดตนายกฯ ไปแข่งขันเพื่อช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลในสภาพที่มีเสียง สส. ไม่ถึงครึ่ง
ส่วนงานนอกสภา รทสช. ได้รวบรวมสมาชิกรุ่นใหม่ที่มีความสามารถ มีความตั้งใจ เข้ามาร่วมกันทำงานการเมืองกับพรรค เพื่อเข้ามาช่วยปรับโฉม ปรับวิธีคิด เปลี่ยนวิธีการทำงานของพรรคให้ทันสมัย (Modernize) ทันต่อการเปลี่ยงแปลง และ Disruption ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สร้างเครือข่ายเชื่อมโยงกับกองเชียร์ สมาชิก และเริ่ม Reach Out ออกไปรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั่วประเทศ สื่อสารผ่านทุกช่องทาง ทุกภาษา อย่างมีประสิทธิภาพ
“รทสช. จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ เรามองไปถึงอนาคตภายภาคหน้า ที่พรรคฯ จะต้องเติบโตแข็งแรงขึ้นไปเรื่อยๆ ด้วยความร่วมมือของพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็น สส. ทีมงาน สมาชิกพรรคฯ และที่สำคัญที่สุด ประชาชนที่ให้การสนับสนุนพรรคฯ ไม่แตกแถว ไม่แยกกลุ่ม เดินหน้าไปพร้อมกันครับ” เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าวในท้ายที่สุด