คุกคนละ2 ปี! อดีตรองปลัดฯนายม-สามี คดีฉ้อโกงอ้างชื่อบิ๊กสถ.เรียกค่าขนมถนนยางฯ ยุค'บิ๊กตู่'

เขียนวันที่

วันพฤหัสบดี ที่ 20 กรกฎาคม 2566 เวลา 09:35 น.

เขียนโดย

isranews

Hits

13969 views

picpppckkkedscxsasaasaassa20 7 66

เผยความคืบหน้าคดีเรียกรับเงินแลกสัญญาทำถนนยางพาราฯ ยุค 'ประยุทธ์' อ้างชื่อบิ๊กสถ. ค่าขนม ล่าสุด ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด พิพากษาลงโทษ จำคุก อดีตรองปลัดเทศบาลตำบลนายม-สามี คนละ 2 ปี ในความผิดฐานฉ้อโกงก่อนยื่นหลักทรัพย์ได้ประกันตัวสู้คดีต่อศาลอุทธรณ์ - ผู้รับเหมาเตรียมส่งข้อมูล ป.ป.ช.สอบเพิ่ม

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณี นางสาวรักษยา แสงฤทธิ์ ผู้บริหารบริษัททราฟฟิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในพื้นที่ภาคอีสาน เข้าร้องเรียนสำนักข่าวอิศรา ในช่วงกลางปี 2562 ว่า ถูกปลัด อบต.แห่งหนึ่ง และคนใกล้ชิด อ้างชื่อผู้บริหารระดับสูงในกรมหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย เรียกรับเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทน จากการเข้าไปได้รับงานโครงการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นวงเงินเกือบ 60 ล้านบาท โดยจำนวนเงิน 60 ล้านบาทดังกล่าวนี้คิดเป็น 15% จากจำนวนงานโครงการที่ตกลงกันไว้ประมาณเกือบ 400 ล้านบาท อ้างเป็นค่าขนม แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับไม่ได้จำนวนงานโครงการครบตามที่ตกลงกัน ได้งานเพียงแค่ครึ่งเดียว และไม่ยอมคืนเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทนส่วนเกินกว่า 39 ล้านบาทให้ ซึ่งปัจจุบันมีการยืนเรื่องเรียนไปยังหน่วยงานตรวจสอบหลายแห่งเข้าให้มาสอบสวนเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว และยังฟ้องฉ้อโกงอีกหลายคดี

picmonewswswsw3 3 64

หิ้วเงินสดๆ ไปจ่าย! แฉ ปลัด อบต. เรียก 60 ล. แลกสร้างถนนยางฯ - อ้างให้ 'อธิบดี' ด้วย

ล่าสุด นางสาวรักษยา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2566 ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ 348/2564 และคดีหมายเลขแดงที่ อ2202/2564 ที่ตนเป็นโจทก์ ฟ้องห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) โรงรับจำนำทรัพย์ชวนชม จำเลยที่ 1 นางพัชรากร กุลรัตนจินดา อดีตรองปลัดเทศบาลตำบลนายม ทำหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนายม อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ จำเลยที่ 2 นายชัยรัชต์พงษ์ กุลรัตนจินดา จำเลยที่ 3 ร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกง โดยอ้างว่านายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะอนุมัติโครงการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราให้

โดย ศาลจังหวัดร้อยเอ็ด มีคำพิพากษาว่า นางพัชรากร กุลรัตนจินดา จำเลยที่ 2 และนายชัยรัชต์พงษ์ กุลรัตนจินดา จำเลยที่ 3 (สามีนางพัชรากร) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83

จำคุกคนละ 2 ปี

คำพิพากษา อ.348-2564 ป.พัช

คดีนี้เป็นการฟ้องร้องการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 คือการหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงนั้นต้องเป็นการกล่าวอ้างถึงข้อเท็จจริงในอดีตหรือปัจจุบัน ศาลฯ ระบุว่า เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าบทสนทนาผ่านทางแอพพลิเคชั่น LINE ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 นั้น มีรายละเอียดของโครงการขอรับงบอุดหนุนเฉพาะกิจ ซึ่งมีรายการเกี่ยวกับการก่อสร้างถนนผิวจราจร ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ และอำเภอในจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยอ้างว่านายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะอนุมัติโครงการให้ และยังมีข้อความว่านายขจร ศรีชวโนทัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จะลงนามให้ในโครงการก่อสร้างในส่วนราชการดังกล่าวบทสนทนาถึงแม้ไม่มีข้อความเชื้อเชิญหรือสามารถช่วยเหลือหรืออ้างว่าจะนำเงินค่าตอบแทนไปแบ่ง แต่การกระทำของจำเลยที่ 2 มีการทวงถามเงินหลายล้านบาทและส่งรายละเอียดงบประมาณให้โจทก์ทราบ ให้รีบโอนเงินถือเป็นการริเริ่มสร้างเรื่องดังกล่าว โจทก์ไม่มีส่วนรู้เห็นมาก่อนย่อมแสดงว่าจำเลยมีเจตนาใช้กลอุบายให้หลงเชื่อ

อีกทั้ง เงินที่จำเลยอ้างว่าเป็นเงินค่าน้ำยาง เกิดจากกลอุบายของจำเลยที่ 2 เพื่อให้โจทก์ได้รับการรับรองจากบริษัทจำเลยที่ 3

ขณะเดียวกัน สัญญากู้ยืมเงิน จำเลยเบิกความเลื่อนลอยไม่มีหลักฐานสนับสนุนใดๆ พิจารณาการถอนเงินออกมาหลายครั้งและเว้นระยะห่างพอสมควร ซึ่งหากซื้อที่ดินจริงต้องทราบราคาที่จะซื้อและถอนเงินออกในคราวเดียว ไม่จำเป็นต้องทยอยถอนและเป็นภาระดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น

นอกจากนี้ จำเลยอ้างว่าคำฟ้องโจทก์ขาดอายุความ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์สอบถามนายสุทธิพงษ์ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2563 เกี่ยวกับโครงการ นายสุทธิพงษ์ ปฏิเสธ ถือว่าโจทก์เข้าใจว่าถูกจำเลย 2 และ 3 หลอกลวง ประกอบกับจำเลยไม่ถามค้านให้เห็นเป็นอย่างอื่น คดีฟ้องวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 จึงยังไม่พ้นกำหนด 3 เดือน

ดังนั้น การนำสืบของจำเลย ล้วนแต่ไม่น่าเชื่อถือและไม่มีน้ำหนักมาหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ จำเลยที่ 2 และ 3 ร่วมกันกระทำความผิดโดยทุจริต ศาลฯ จึงพิพากษาจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 จำคุกคนละ 2 ปี

ขณะที่คดีนี้ ไม่ได้ปรากฏชื่อ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยด้วยแต่อย่างใด

picvvolikujyh3 3 64

@ นางสาวรักษยา แสงฤทธิ์ ผู้บริหารบริษัททราฟฟิคอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

นางสาวรักษยา กล่าวว่า หลังศาลฯ มีคำพิพากษาดังกล่าว จำเลยทั้งสองราย ได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว และขอสู้คดีต่อในชั้นอุทธรณ์ ซึ่งศาลฯ ให้ประกันตัวไป

" ส่วนการดำเนินการของดิฉัน ในวันนี้ (20 ก.ค.2566) จะนำส่งคำพิพากษาศาลฯ ที่ตัดสินลงโทษจำเลยทั้ง 2 คน ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อนำไปใช้ประกอบเป็นหลักฐานในคดีการเรียกรับสินบนที่มีการยื่นเรื่องให้สอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้" นางสาวรักษยาระบุ

ผู้สื่อสำนักข่าวอิศรา รายงานว่า กำลังอยู่ระหว่างติดต่อขอสัมภาษณ์ นางพัชรากร กุลรัตนจินดา และนายชัยรัชต์พงษ์ กุลรัตนจินดา เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงอีกด้านแล้ว หากสามารถติดต่อและได้รับคำชี้แจงจะนำมาเสนอให้สาธารณชนรับทราบต่อไป ขณะที่คดีนี้ ยังไม่สิ้นสุด นางพัชรากร กุลรัตนจินดา และนายชัยรัชต์พงษ์ กุลรัตนจินดา มีสิทธิ์ต่อสู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ในชั้นศาลที่สูงกว่านี้ได้อีก

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ศาลแพ่ง จ.ร้อยเอ็ด ได้มีคำตัดสินให้นางสาวรักษยา ชนะคดีกู้ยืมเงิน ซึ่งมีจำเลยคือนายชัยรัชต์พงษ์ กุลรัตนจินดา ขณะที่ทาง น.ส.รักษยา ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราว่าหลังจากศาลแพ่งมีคำตัดสินได้มีการนำคำพิพากษาโดยสรุปส่งไปให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว

courttcccccrc

อ่านเรื่องในหมวดเดียวกัน :

ประเด็นเรื่องการผูกขาด

#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage