“...ถามว่ากลัวไหม ทุกคนกลัวหมด แต่วันนี้ไม่กลัวแล้ว โดนให้หลังชนฝา ทุกคนพอหลังชนฝา ทุกคนต้องสู้ใช่หรือไม่ แล้วจะไม่ชนที่มันรังแกออก ผลักคนที่รังแกออก แล้วจะทำอย่างไร ถามว่าวันนี้เขาอาจใช้อิทธิพล อาจมีเพื่อนพ้อง มีเงินเยอะแยะ แต่ ‘นาย’ ของเขาจะปกป้องคนผิดหรือ ทุกคนมีนายหมด มีเพื่อนพ้องหมด แล้วถามว่าเพื่อนพ้องปู ผู้ใหญ่ของปู ครอบครัวของปูเขาจะไม่ชนให้เหรอ มันต้องแลกกันไป ความกลัวหมดไปตั้งแต่วันที่เขาทำให้เราหลังชนฝา เราไม่มีทางเดิน เราเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไม่ได้ ต่อให้ชนได้แค่ไหน...”
................................................
เรียกว่าเวลานี้ชื่อของนักธุรกิจสาวอย่าง น.ส.รักษยา แสงฤทธิ์ ผู้บริหารบริษัท ทราฟฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กำลังได้รับการจับตาจากสาธารณชนอย่างมาก
พลันที่ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตการก่อสร้างถนนยางพารา โดยเข้าร้องเรียนกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า ถูกปลัด อบต.ในจังหวัดแห่งหนึ่ง และคนใกล้ชิด อ้างชื่อผู้บริหารระดับสูงในกรมหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย เรียกรับเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทน จากการเข้าไปได้รับงานโครงการก่อสร้างถนนดินซีเมนต์ผสมยางพาราของรัฐบาล เป็นวงเงินเกือบ 60 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% จากจำนวนงานโครงการที่ตกลงกันไว้ประมาณเกือบ 400 ล้านบาท แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว กลับไม่ได้จำนวนงานโครงการครบตามที่ตกลงกัน ได้งานเพียงแค่ครึ่งเดียว และไม่ยอมคืนเงินค่าเปอร์เซ็นต์ตอบแทนส่วนเกินกว่า 39 ล้านบาทให้
ปัจจุบัน น.ส.รักษยา ยื่นเรื่องเรียนไปยังหน่วยงานตรวจสอบหลายแห่งเข้าให้มาสอบสวนเรื่องนี้เป็นทางการแล้ว และดำเนินการฟ้องฉ้อโกงอีกหลายคดี โดยสำนักข่าวอิศราเคยนำเสนอข้อมูล พยานหลักฐาน และคำให้สัมภาษณ์บุคคลผู้เกี่ยวข้องไปแล้วก่อนหน้านี้
(อ่านประกอบ : ฟางเส้นสุดท้าย! ไข 3 ปัจจัย ทำไม 'ผู้รับเหมา' ดับเครื่องชน 'แฉ' ขบวนการทุจริตถนนยางฯ, หิ้วเงินสดๆ ไปจ่าย! แฉ ปลัด อบต. เรียก 60 ล. แลกสร้างถนนยางฯ - อ้างให้ 'อธิบดี' ด้วย, (คลิป) ชัดๆ 'แฉ' ขบวนการทุจริตถนนยางฯ จ่ายค่าขนม ปลัดอบต. 60 ล.-อ้างให้ 'อธิบดี' ด้วย, แชทไลน์ทวงค่าขนม-เช็คโรงรับจำนำ 39 ล.! เปิดหลักฐานคดีทุจริตถนนยางฯ เหตุเกิด 'อำนาจเจริญ')
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า น.ส.รักษยา หรือ ‘ปู’ นักธุรกิจสาวจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือรายนี้ มิได้เข้ามาจับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแต่แรก แต่เรียกได้ว่าเป็นการจับพลัดจับผลูเข้ามาในแวดวงรับเหมาก่อสร้างแบบไม่ได้ตั้งใจ?
“ก่อนหน้านี้ปูเปิด หจก.แห่งหนึ่ง ทำธุรกิจขายเจลเวอรี่ ขายเครื่องเพชร ต่อมามีเพื่อนคนหนึ่งยืมชื่อ หจก.เราไปใช้เพื่อรับงานจาก อบต.แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ภาคอีสาน เราไว้ใจเลยให้ยืมชื่อไป สุดท้ายเพื่อนทิ้งงาน และติดต่อไม่ได้อีก เราจึงต้องเข้าไปพบนายก อบต.เพื่อไปรับผิดชอบ และเริ่มงานรับเหมาครั้งแรก โดยการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กให้ อบต.แห่งนั้น”
คือบทสนทนาที่เธอเล่าให้สำนักข่าวอิศราฟังผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก่อนฉายภาพความหลังตอนเริ่มต้นธุรกิจให้ฟังว่า สาเหตุที่เราไปทำ เพราะเราไม่อยากให้ หจก.ของเรา ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเจลเวอรี่มาประมาณ 16-17 ปี ต้องติดแบล็กลิสต์ เป็นผู้ทิ้งงาน เราเลยจำเป็นต้องเข้าไปทำให้เรียบร้อย หลังจากนั้นนายก อบต.เริ่มเห็นใจเรา เพราะเราเข้าไปแก้ปัญหางานครั้งนั้นแบบไม่ได้อะไรเลย แถมขาดทุน เพราะเราทำอย่างดี ครบถ้วนตามสเปกทุกอย่าง กระทั่งมีการว่าจ้างเราดำเนินการอีกหลายครั้ง และได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจ
“เราเลยเอาผลงานในส่วนนั้นมาปูทาง มาใช้ขึ้นเรื่อย ๆ จากงานงบ 5 แสนบาท ขึ้นมาเรื่อยเป็นตัวละ 1-2 ล้านบาท และขึ้นไปเรื่อย ๆ อีก นี่คือที่มาที่ไปของเรา”
เธอบอกอีกว่า หลังจากนั้นยังคงทำธุรกิจเจลเวอรี่อยู่ แต่มาเปิดบริษัทใหม่อีกแห่งคือ บริษัท ทราฟฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อทำงานด้านรับเหมาก่อสร้างโดยเฉพาะ แบ่งแยกกันชัดเจน ส่วนธุรกิจเจลเวอรี่ปัจจุบันปิดตัวลงไปแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้เลยมาจับงานด้านรับเหมาก่อสร้างอย่างเดียว
เธอเล่าว่า การทำธุรกิจจริง ๆ ต้องได้กำไรอยู่แล้วอย่างน้อยประมาณ 10% และเราเป็นคนทำงานเอง ไม่เคยจ้างช่วง ไม่เคยจ้างซับคนอื่น เราเลยได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วยกว่าคนอื่นเรา และเราทำงานตรงสเปกหน่วยงานรัฐที่ว่าจ้างเราทุกอย่าง หากพบว่างานไหนน่าจะมีปัญหาเราจะเชิญสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ประจำท้องที่นั้น ๆ เข้ามาตรวจรับงานพร้อมเราและหน่วยงานของรัฐเลย เราไม่ปล่อยผ่าน และป้องกันการถูกกลั่นแกล้งด้วย
“สไตล์ของเราคือทำงานเดินหน้าอย่างเดียว ไม่มีการกลับไปแก้ไขทีหลัง แต่เคยโดนกลั่นแกล้งบ้างเหมือนกันเล็กน้อย เรากลับไปแก้งานให้เต็มที่ ครบถ้วนทุกอย่าง”
เธอบอกว่า ท้ายที่สุดบริษัท ทราฟฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานอย่างมาก เช่น จ.ร้อยเอ็ด มีการขึ้นป้ายบริษัทเธอที่ศาลากลาง ลักษณะว่าเป็นบริษัทที่มีเครดิตดีกว่าเจ้าอื่น ได้รับความไว้วางใจให้ทำงาน เพราะงานไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยถูกร้องเรียนตรวจสอบ ทำให้ทุกหน่วยงานมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าบริษัทเรามีความชัดเจน
เมื่อฉายภาพความเป็นไปธุรกิจเสร็จเรียบร้อย หลายคนคงคิดภาพไม่ออกว่าไลฟ์สไตล์ชีวิตส่วนตัว เธอสะสม ‘รถสปอร์ตหรู’ ไว้อย่างน้อย 4 คัน และมีความชื่นชอบในกิจกรรมด้านความเร็วนี้อย่างมาก
(ภาพประกอบ น.ส.รักษยา จากเฟซบุ๊กส่วนตัว)
“คืออย่างนี้ เราเป็นคนชอบขับรถแต่เด็กเลย เด็กประมาณ 7-8 ขวบ เราขับรถปิกอัพได้แล้ว ต้องเข้าใจว่าแต่ก่อนบ้านเราทำธุรกิจหลายแขนง เช่น โรงงานตากมันเส้นสำปะหลัง ทำปั๊มน้ำมัน ทำโรงไม้ เราเกิดที่ จ.สกลนคร และโตมากับรถปิกอัพของครอบครัว หลังจากนั้นจึงมีความรู้สึกว่าชอบขับรถอย่างมาก เมื่อเรียนหนังสือก็ไปทำงาน ตอนทำงานก็เก็บเงินทุกอย่าง เพื่อซื้อรถ โดยเฉพาะรถสปอร์ตที่เราชื่นชอบมานานแล้ว เพราะเคยเห็นรถประเภทนี้ในโทรทัศน์ มีการแข่งขันกัน เราจึงใฝ่ฝันว่าอยากจะได้ จึงทำงานเก็บเงินอย่างเดียวเพื่อซื้อรถสปอร์ต”
เธอบอกอีกว่า นอกจากซื้อรถสปอร์ตมาขับแล้ว เธอกับกลุ่มเพื่อนยังจัดตั้งชมรมรถสปอร์ตในไทยอีกหลายชมรม เช่น McLaren Club Thailand, SO-GT Club และ Lamborghini Thailand เป็นต้น โดยมีเพื่อนหลายหลายกลุ่ม ทั้งนักธุรกิจ หรือดารานักแสดงก็มี แต่เธอคือผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มเหล่านี้ที่ขับรถสปอร์ต ส่วนมากจะรวมตัวกันในช่วงวันเสาร์เพื่อหาทริป วันเดย์-วันไนต์ นอนคืนหนึ่งแล้ววันอาทิตย์กลับ วันจันทร์-ศุกร์ทำงานต่อ เพราะส่วนมากเป็นนักธุรกิจ ไม่ค่อยมีเวลาว่างนานขนาดนั้น
น.ส.รักษยา เล่าอีกว่า หลังจากเริ่มจับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแล้ว ก็ไม่ค่อยมีเวลามากนัก แต่เริ่มแตกไลน์ทางธุรกิจบ้าง เพราะคิดว่า เงินต้องมี ‘หลายตะกร้า’ ถ้าตระกร้าหนึ่งหมด ยังไปเอาอีกตระกร้าได้ การทำธุรกิจจึงจะไม่มีความเสี่ยง ดังนั้นเลยเริ่มทำร้านอาหาร เปิดอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด พื้นที่ 5-6 ไร่ แบ่งโซนเป็นห้องคาราโอเกะ ร้านไวน์ ขายเบียร์นำเข้าจากต่างประเทศ เป็นต้น นอกจากนี้ยังเปิดมิวสิคฮอลล์ จุได้ประมาณ 1,600 คน เคยนำศิลปินเบอร์ต้น ๆ ของไทยมาเล่นแล้วมากมาย
เมื่อมีหลายธุรกิจ เธอจึงต้องแบ่งกันกับ ‘แฟน’ โดยธุรกิจหลักคือรับเหมาก่อสร้างเธอจะดูแลเอง ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ‘แฟน’ จะเป็นคนดูแล
ส่วนสาเหตุสำคัญที่หลายคนสนใจว่า นักธุรกิจสาวแบบเธอ ร่ำรวยจากการทำรับเหมาก่อสร้าง มีรถสปอร์ตขับ จัดทริปขับรถเที่ยวแทบทุกสัปดาห์ ไฉนต้องมา ‘เปิดหน้าชน’ กับหน่วยงานรัฐ
“มันถึงจุดที่เราเบรกแตก เราพร้อมจะชน ชนแรงหรือไม่แรง อยู่ที่ว่าเราจะหักให้โดนอะไร”
เธอท้าวความย้อนไปว่า ตอนดำเนินโครงการรับเหมาก่อสร้างถนนยางพารา จนเกิดประเด็นปัญหาร้องเรียน (ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงานไปแล้วนั้น) หลังจากนั้นจึงเข้าไปพบกับ ผู้บริหารระดับสูงกรมหนึ่งในกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอเคลียร์ปัญหา แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ได้รับความสนใจ นอกจากนี้ยังเคยเข้าไปพบกับปลัด อบต.ในจังหวัดแห่งหนึ่งที่มีปัญหา เพื่อขอเคลียร์เช่นเดียวกัน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงเหมือนเดิม และที่สำคัญถูกท้าทายด้วยว่า อยากทำอะไรก็ทำ แถมยังถูกเขาฟ้องแพ่งเรียกเงินคืนอีก เงินเราก็ไม่ได้ ยังถูกเรียกเงิน รู้สึกว่าแบบนี้มันเกินไป มันโดนรังแก
“คุณไม่เคลียร์เงินคืนไม่พอ ยังเรียกเงินเราอีก มันต้องลุกขึ้นมาแล้ว เราควรจะสู้เพื่อปกป้องสิทธิของเราที่มี ไม่ใช่ให้คนอื่นมารังแก เห็นว่าเราไม่พูด ไม่ทำ ไม่ตอบโต้ เราเงียบ ยิ่งหาเรื่องทุกวัน คนเรามันมีจุดเบรกแตก ทุกคนมีจุดเบรกแตกกันทั้งนั้น”
“ผู้ใหญ่ในกรมนั้นบอกว่า เราติดหนี้เขา ไม่ใช่เขาติดหนี้เรา มันเลยทำให้เบรกตรงนี้แตก ตอนแรกเราจะชนแค่ขอเคลียร์เงิน แต่เขากลับไม่เคลียร์ ท้าทายเราทุกอย่าง บอกว่าทำเลย ทั้งผู้ใหญ่ในกรม ทั้งปลัด อบต. ท้าทายบอกจะทำอะไรก็ทำ เราเลยบอกผู้ใหญ่ในกรมนั้นไปว่า ถ้าต่อไปปูทำอะไรลงไป ต้องขอโทษท่านไว้ก่อนด้วย ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้”
เธอบอกว่า ในเมื่อพวกเขาไม่คิดจะแก้ปัญหาอะไร แต่กลับปฏิเสธบอกว่าไม่รู้เรื่อง พอโดนแบบนี้ไม่มีอะไรจะพูดต่อ เราไม่มีทางเลือก นอกจากชนให้เต็มที่
ประเด็นถัดมาที่น่าสนใจคือ นักธุรกิจอย่างเธอไม่เกรงกลัวอิทธิพลของหน่วยงานรัฐเลยหรือ แตกต่างจากนักธุรกิจทั่วไปที่พยายามจะเคลียร์กันให้จบ ไม่อยากให้เรื่องถูกออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะ?
“กลัวมั้ย ทุกคนมีสิทธิกลัว แต่สิ่งที่มากกว่าความกลัวคือเราโดนกลั่นแกล้ง มันทำให้คำว่ากลัวหายไปเลย”
เธอเล่าอีกว่า ถามว่ากลัวไหม ทุกคนกลัวหมด แต่วันนี้ไม่กลัวแล้ว โดนให้หลังชนฝา ทุกคนพอหลังชนฝา ทุกคนต้องสู้ใช่หรือไม่ แล้วจะไม่ชนที่มันรังแกออก ผลักคนที่รังแกออก แล้วจะทำอย่างไร ถามว่าวันนี้เขาอาจใช้อิทธิพล อาจมีเพื่อนพ้อง มีเงินเยอะแยะ แต่ ‘นาย’ ของเขาจะปกป้องคนผิดหรือ ทุกคนมีนายหมด มีเพื่อนพ้องหมด แล้วถามว่าเพื่อนพ้องปู ผู้ใหญ่ของปู ครอบครัวของปูเขาจะไม่ชนให้เหรอ มันต้องแลกกันไป
“ความกลัวหมดไปตั้งแต่วันที่เขาทำให้เราหลังชนฝา เราไม่มีทางเดิน เราเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไม่ได้ ต่อให้ชนได้แค่ไหน”
น.ส.รักษยา ระบุด้วยว่า ข้อเท็จจริงเรื่องนี้เลยคำว่า ‘เรียกเงินคืน’ ไปแล้ว แต่เป็นการ ‘ทวงศักดิ์ศรี’ กลับมามากกว่า
“อยากได้ศักดิ์ศรีคืนกลับมา เขามากลั่นแกล้งคนไม่มีทางสู้ คือปูไม่มีทางสู้พวกคุณได้เลย ถามหน่อยปูไปทำอะไรให้ แต่กลับถูกรุมยำ ทั้งที่เราทำตามปกติ แล้วมารังแกคนไม่มีทางสู้มันถูกเหรอ ทำธุรกิจคนเดียว ขาวสะอาดทุกอย่าง ตรวจสอบได้หมด แต่พวกท่านมีศักดิ์ศรีกันหรือไม่ พวกท่านต้องคิด ผู้ใหญ่ในเมืองไทยต้องคิดแล้วว่ามันคืออะไร ผู้บังคับบัญชาต้องคิดว่าลูกน้องทำอะไรให้เกิดขึ้นแบบนี้”
เธอบอกด้วยว่า การเมืองเธอไม่เคย ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใคร เป็นนักธุรกิจที่ทำธุรกิจจริง ๆ ทำงานตรงไปตรงมา นี่คือสาเหตุที่กล้าชน เพราะธุรกิจเราไม่มีเงื่อนงำ ตรวจสอบได้ทั้งหมด ไม่เคยทำอะไรที่ผิด ชีวิตขาวสะอาด ไม่เคยห่วง ทุกสิ่งที่ทำไป เพราะว่าถูกรังแก
“ธุรกิจของปูนับ 1 มาด้วยตัวเอง จาก 1 บาท จนตอนนี้ 1 พันบาท มันก็เป็นอย่างนี้”
ทั้งหมดคือฉากชีวิตของ ‘ปู’ น.ส.รักษยา ผู้บริหารบริษัท ทราฟฟิก อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้เปิดหน้า ‘ท้าชน’ บิ๊กหน่วยงานรัฐ เปิดโปงขบวนการทุจริตก่อสร้างถนนยางพาราอยู่ในตอนนี้
ส่วนบทสรุปเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เธอทิ้งท้ายว่า “เราเปิดหน้าไปแล้ว ฟีดแบ็กหลังจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่เราทำไปแล้ว ไม่กังวล”
ข้อเท็จจริงทั้งหมดคงต้องรอหน่วยงานของรัฐเข้าไปตรวจสอบ และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องออกมาชี้แจงให้กระจ่างชัดกันต่อไป!
อ่านประกอบ :
รวมรายได้ล่าสุด 1,013 ล้าน! ข้อมูล 3 เอกชนกลุ่มเดียวกัน ขายสารทำถนนยางรบ.'บิ๊กตู่'
'กก.-ผู้ถือหุ้น' กลุ่มเดียวกัน! เปิดข้อมูล3 บ.ขายน้ำยางทำถนนพาราฯ -กยท.ยันไม่มีล็อคสเปค
เปิดแผนงานกองทัพ ใช้งบ 2.5 พันล. ทำถนนยางพารา-ให้กยท.ประมูลก่อนขายต่อ อปท.
เจาะคำสั่งเกษตรฯ ตั้งคกก.รับรองสารผสมถนนยาง-ก่อนเจอปม3 บ.'กก.-ผู้ถือหุ้น' กลุ่มเดียวกัน
'สุทิน'แจงรูปแบบฮั้วซื้อน้ำยางทำถนนบิ๊กตู่หมื่นล.- ชี้เป้า กยท. เจาะจงรับรอง 3 บริษัท
ส่องกูเกิลดูที่ตั้ง 3 บ.ขายสารผสมถนนยาง! พนง.แจงเครือเดียวกัน มีสิทธิ์ขอยื่นรับรองคุณภาพ
เปิดตัวผู้บริหาร3บ.ขายน้ำยางทำถนนบิ๊กตู่หมื่นล.-ไขข้อมูล 'สุทิน' ใครกันแน่เสียผลปย.?
รมว.เกษตรฯ สั่ง-กยท.ประกาศทันที! แพร่ชื่อ 2 บ.ขายน้ำยางทำถ.พาราใหม่ อยู่สุพรรณ-ชลบุรี
ท้า'สุทิน'ฟ้องหากพบปมฮั้ว! 'เฉลิมชัย' การันตีบ.สารผสมยางไร้ปัญหา แต่ให้เพิ่มอีก10 แห่ง
ตามไปดู หจก.ตัวแทนขายสารผสมยางร้อยล้าน! ร่วมใช้ที่อยู่เดียวบ.อื่นย่านบางเขน
หารือ 'บิ๊กตู่'สั่งทบทวน23 ส.ค.นี้! กยท.ปัดไม่มีหน้าที่ตรวจบ.ขายสารผสมยางกลุ่มเดียวกัน
ใช้บ้านคนรู้จักรับพัสดุ-ตัวจริงอยู่อำนาจเจริญ! เผยโฉม บ.ตัวแทนขายสารผสมถนนยางร้อยล.
โชว์คลิปตรวจ 2 บ.ตัวแทนขายสารผสมถ.ยาง'บิ๊กตู่' ไขปมตั้งปีเดียว โกยงานกองทัพ-กรมชล258ล.?
‘บิ๊กตู่’สั่ง กยท. ทบทวน 3 เอกชนผลิตสารผสมน้ำยาง ลั่นถ้าเจอทุจริตต้องหาคนผิด
เบ็ดเสร็จ17 สัญญา! 'อิศรา' สอบพบ บ.กลุ่มตัวแทนสารผสมถนนยาง แข่งงานกรมชลฯ พร้อมกัน
สาวลึก! กรมชลฯ ซอย 17 ส. ซื้อน้ำยาง บ.ตัวแทนสารผสม - สุ่มตรวจเจอกลุ่มเดียวกันแข่งงานด้วย
ประกาศกรมชลฯ หราห้ามมีผลปย.ร่วมกัน! หลักฐานมัด บ.ตัวแทนแข่ง e-bidding ขายสารผสมถนนยางฯ
โจทย์ใหญ่ปัญหาผูกขาด! เปิดแผนประเมินความเสี่ยงถนนยาง ก่อน มท.ดันโครงการ ‘1หมู่บ้าน1กม.’
กำนันบ่อสุพรรณเจ้าของ! เปิดตัว บ.ซีโก้ฯ ผู้ขายสารผสมรายใหม่-คู่ค้า 'กยท.' ทำถนนยางมะตอย
เจาะ บ.ไทยอีสเทิร์นฯ 1 ใน 2 ผู้ขายสารผสมยางรายใหม่ แจ้งรายได้ 424 ล. กำไร 43.7 ล.
ใครเป็นใคร! สำรวจข้อมูล 5 บ. รอผล ก.เกษตรฯ รับรองมาตรฐานน้ำยางทำถนนบิ๊กตู่หมื่นล.
เช็คชื่อ 11 บ.ผ่านรับรองคุณภาพขายสารผสมถนนยาง 'บิ๊กตู่' - คู่กรณีกยท.ได้ด้วย 2 แห่ง
แห่งที่ 12 ! บ.ขายสารผสมถนนยาง รบ. 'บิ๊กตู่' - เพิ่งจดทะเบียนตั้ง ต.ค.62
บ.ขายสารถนนยางรบ.'บิ๊กตู่' แห่งที่13 อยู่เชียงราย-แจ้งงบการเงินไม่มีรายได้ ขาดทุน 4.5 พัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/