เผยมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. เสียงเอกฉันท์ ตีตกข้อกล่าวหา ร.ต.อ.สรรชัย บัวลาด เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีตำรวจภูธรตำบลพะวอ จังหวัดตาก-พวก กลั่นแกล้งผู้ต้องหาลักลอบค้ายาบ้าโดยมิชอบ เนื่องจากผลการไต่สวนข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่า กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตีตกข้อกล่าวหา ร้อยตำรวจเอกสรรชัย บัวลาด กับพวก เมื่อครั้งปฏิบัติหน้าที่ประจำสถานีตำรวจภูธรตำบลพะวอ จังหวัดตาก กับพวก กลั่นแกล้งดำเนินคดีโดยมิชอบ เนื่องจากผลการไต่สวนข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่า กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
คดีนี้ ป.ป.ช.ระบุพฤติการณ์ที่กล่าวหาว่ากระทำผิดโดยสรุป ว่า ร้อยตำรวจเอก สรรชัย บัวลาด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลพะวอ จังหวัดตาก ผู้รับผิดชอบ สำนวนคดีกล่าวหานายพงษ์เทพ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ สามีภรรยา ว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ร่วมกับพวก นำยาบ้ามาซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของบุคคลทั้งสอง ซึ่งประสบเหตุถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนสายตาก - แม่สอด จนเป็นเหตุให้คณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินภาคเหนือฟังข้อเท็จจริงที่พันตำรวจโท สมชัย บุญประเสริฐ และนายสุรศักดิ์ จันทวงศ์ คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทรัพย์สินตามคำสั่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ 2582/2546 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2546 และคำสั่งที่ 3074/2546 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2546 เสนอต่อที่ประชุมแล้วเห็นว่า ผู้ตายทั้งสองเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทำให้ถูกยึดทรัพย์สินประมาณ 20,000,000 บาท ตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ มอบหมายให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวน แล้วเห็นว่า ผู้ตายทั้งสองน่าจะไม่ใช่ผู้มียาเสพติดของกลางไว้ในครอบครอง อันจะเป็นเหตุให้ต้องถูกดำเนินคดีและถูกยึดทรัพย์ตามพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ตรวจสอบทรัพย์สินของสำนักงาน ป.ป.ส. เข้าข่ายเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ตายทั้งสอง
ผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ระบุดังนี้
1. กรณีกล่าวหาว่าร่วมกันกลั่นแกล้งนำยาเสพติด (ยาบ้า) ไปซุกซ่อนไว้ในรถยนต์ของนายพงษ์เทพ รู้คงประเสริฐ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ แล้วจัดทำเอกสารบันทึกตรวจยึดยาเสพติดของกลาง (ยาบ้า) อันเป็นเท็จ
จากการไต่สวนไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า ร้อยตำรวจเอก สรรชัย บัวลาด พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลพะวอ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก กับพวก ได้นำกล่องพัสดุไปรษณีย์บรรจุยาเสพติด (ยาบ้า) มาวางไว้ในรถยนต์คันเกิดเหตุเพื่ออำพรางคดีว่าเป็นของนายพงษ์เทพ รู้คงประเสริฐ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ การที่ร้อยตำรวจเอก สรรชัย บัวลาด กับพวก จัดทำบันทึกตรวจยึดระบุพบยาเสพติดของกลาง (ยาบ้า) ดังกล่าว เป็นการจัดทำเอกสารตามพยานหลักฐานที่มีการตรวจพบในที่เกิดเหตุ มิได้มีเจตนาจัดทำเอกสารอันเป็นความเท็จ
2. กรณีกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งทำสำนวนคดีอาญาที่ 267/2546 โดยมีความเห็นให้งดการสอบสวนในคดีที่นายอุทัย คำจาใส ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา (ไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิด) ในข้อหาฆ่านายพงษ์เทพ รู้คงประเสริฐ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ โดยเจตนา และกลั่นแกล้งทำสำนวนคดีอาญาที่ 268/2546 โดยมีความเห็นว่า นายพงษ์เทพ รู้คงประเสริฐ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ ผู้ตายทั้งสอง กระทำความผิดในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการไต่สวนปรากฏพยานหลักฐานว่า การทำสำนวนคดีอาญาทั้งสองสำนวนของพันตำรวจโท สมชัย บุญประเสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองตาก ช่วยราชการสถานีตำรวจภูธรตำบลพะวอ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ผู้ถูกกล่าวหา กับพวก ได้ใช้ดุลพินิจพิจารณาจากพยานหลักฐานที่รวบรวมได้ ไม่ปรากฏหลักฐานว่า การใช้ดุลพินิจสั่งคดีดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจโดยบิดเบือน อันมีลักษณะเป็นการจงใจเพื่อให้ผู้ตายทั้งสองได้รับความเสียหาย
3. กรณีกล่าวหาว่ากลั่นแกล้งตรวจสอบทรัพย์สินและยึดอายัดทรัพย์สินของนายพงษ์เทพ รู้คงประเสริฐ และนางอำไพพรรณ รู้คงประเสริฐ โดยมิชอบ
จากการไต่สวนปรากฏพยานหลักฐานว่า ในการตรวจสอบทรัพย์สินของสำนักงาน ป.ป.ส. ได้พิจารณาวินิจฉัยจากข้อเท็จจริงและเอกสารหลักฐานที่มีการรับฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายทั้งสองมีพฤติการณ์ลักลอบค้ายาเสพติดมาเป็นเวลานานและในที่เกิดเหตุยังพบยาเสพติด และตรวจพบว่าผู้ตายมีทรัพย์สินจำนวนมากแล้วเชื่อได้ว่า เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จึงมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินของผู้ตายไว้ก่อนเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินแต่ก็ได้ให้สิทธิแก่ทายาทของผู้ตายนำพยานหลักฐานเข้าชี้แจงพิสูจน์ที่มา การได้มาของทรัพย์สินว่า เป็นการได้มาโดยสุจริตไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดยาเสพติด หากทรัพย์สินส่วนใดที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้มาโดยสุจริตไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็จะพิจารณามีคำสั่งให้ยกเลิกการยึดและคืนทรัพย์สินในส่วนนั้นให้แก่ทายาท แต่หากไม่สามารถพิสูจน์การได้มาของทรัพย์สินได้ ก็จะมีคำสั่งยึดทรัพย์สินในส่วนนั้นตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินดังกล่าวถือเป็นกระบวนการตรวจสอบทรัพย์สินในทางแพ่งทั่วไปที่เจ้าของทรัพย์สินหรือทายาทมีหน้าที่ในการหาหลักฐาน มาพิสูจน์การได้มาของทรัพย์สินว่าได้มาโดยสุจริตไม่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประชุมพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 7 เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะอนุกรรมการไต่สวนว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่า ร้อยตำรวจเอก สรรชัย บัวลาด ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 พันตำรวจโท วีรเดช รัตนโชติทีปกร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 ดาบตำรวจ ไฉน อ่ำพันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 จ่าสิบตำรวจ ทะเวศ กาแก้ว ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 สิบตำรวจโท สังคม มอไธสง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 สิบตำรวจโท พงศ์กร ศิลปชัย ผู้ถูกกล่าวหาที่ 6 สิบตำรวจโท พูลศักดิ์ ทองเพ็ง ผู้ถูกกล่าวหาที่ 7 พันตำรวจโท สมชัย บุญประเสริฐ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 8 และนายสุรศักดิ์ จันทวงศ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 9 ได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา
ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป