‘รัฐบาล’ รับข้อเสนอ ‘กสม.’ แนะแก้ปมไล่ชาวบ้านออกจาก ‘ที่ดิน ส.ป.ก.’ ออกทับพื้นที่ป่า ให้ ‘หน่วยงานรัฐ’ คำนึงถึงผลกระทบ-ต้องเยียวยาประชาชนด้วย
......................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานรัฐ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้แจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
สำหรับสาระสำคัญของข้อเสนอแนะฯ ดังกล่าว กสม. ระบุว่า ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 249 (3) กสม. พิจารณาตามหน้าที่และอำนาจแล้วเห็นว่า แม้ กสม. เคยมีข้อเสนอแนะ ที่ 1/2560 ลงวันที่ 25 เม.ย.2560 ต่อ ครม. เพื่อแก้ไขปัญหากรณีราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการทวงคืนผืนป่า ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 64/2557 ลงวันที่ 14 มิ.ย.2557 และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 66/2557 ลงวันที่ 17 มิ.ย.2557 แล้ว แต่ยังพบปัญหาการจัดการที่ดินของหน่วยงานของรัฐอันอาจกระทบต่อสิทธิในที่ดินทำกินของประชาชน
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นสมควรเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบหรือคำสั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน โดยในส่วนของคณะรัฐมนตรีขอเสนอให้ดำเนินการ ดังนี้
1.ควรทบทวนการบังคับใช้โยบายตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 31/2560 ลงวันที่ 23 มิ.ย.2560 เรื่อง การใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ เนื่องจากเป็นคำสั่งที่ขัดต่อวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม โดยควรจัดพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีรายได้น้อย หรือเกษตรกรก่อน
2.หากมีความจำเป็นต้องดำเนินโครงการตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติดังกล่าวต่อไป และมีความจำเป็นที่จะต้องคำเนินการเพิกถอนหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชนในพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกิดจากปัญหาการทับซ้อนระหว่างพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมหรือกลุ่มประชาชน ที่ทำกินอยู่ในเขตพื้นที่เตรียมประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแล้ว ขอให้ดำเนินการโดยมีกระบวนการชี้แจงความจำเป็นแก่ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ และจัดประชุมระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ใขเยียวยาให้ได้ข้อยุติก่อน ตามแนวทางตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 851/2555 ที่ได้เสนอต่อรัฐสภาพิจารณา
ขณะที่กระทรวงเกษตรฯได้พิจารณาข้อเสนอแนะฯ ของ กสม. โดยได้ร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ได้ข้อสรุป ดังนี้
1.ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการทบทวนการบังคับใช้นโยบายตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 31/2560 สั่ง ณ วันที่ 23 มิ.ย.2560 เรื่องการใช้ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ
ที่ประชุมมีมติให้คงไว้ซึ่งคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 31/2560 สั่ง ณ วันที่ 23 มิ.ย.2560 แต่เห็นควรให้มีการพิจารณาการใช้คำสั่งดังกล่าว โดยให้ใช้เฉพาะในบางพื้นที่ และเป็นกิจการที่ได้รับอนุญาตก่อนวันที่คำสั่งมีผลใช้บังคับเท่านั้น
นอกจากนี้ ควรพิจารณาอนุญาตเป็นรายกรณี เพื่อให้การบริหารจัดการที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม และหากกิจการที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุดสัญญาสัมปทานแล้วควรนำพื้นที่นั้นกลับมาดำเนินการจัดให้แก่เกษตรกรต่อไป
2.ข้อเสนอแนะกรณีมีความจำเป็นต้องเพิกถอนหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมที่เกิดจากปัญหาการทับซ้อนระหว่างพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรดำเนินการดามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 851/2555
ที่ประชุมมีมติให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับข้อนระหว่างป่าสงวนแห่งชาติกับพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินเป็นกรณีที่ควรดำเนินการเร่งด่วน เนื่องจากความไม่ชัดเจนของพื้นที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ เห็นควรให้แต่ละหน่วยงานคำนึงถึงผลกระทบและการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 851/2555 อย่างเคร่งครัด