ขณะนี้ยังรออยู่! ดีเอสไอ จี้กรมป่าไม้ร้องทุกข์คดีป่าบางขนุน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเร็ว หลังพบบุกรุกเพิ่ม อีกทั้งเร่งคดีรุกที่วิทยาลัยเทคนิคถลางกว่า 100 ไร่ พร้อมบอกกรมป่าไม้ ต้องทำความชัดเจนว่าพื้นที่ได้รับอนุญาตอยู่ตรงบริเวณใด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้ากรณีเอกชนอ้างสิทธิบุกรุกพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขนุนกว่า 100 ไร่ สืบเนื่องมาจากพื้นที่ดังกล่าว กรมอาชีวศึกษา (สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา) ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน ฯ เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยเทคนิคภูเก็ต แห่งที่ 2 (วิทยาลัยเทคนิคถลาง) เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2539 จากกรมป่าไม้
ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะรับผิดชอบสำนักคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันว่าวิทยาลัยเทคนิคถลาง ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้ใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประโยชน์ทางการศึกษาและอนุรักษ์พื้นที่ป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน เนื้อที่ 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา (ตามแผนที่สังเขปแนบท้ายประกาศกรมป่าไม้ฯ)
สำหรับประชาชนรายอื่น ๆ ที่มีการเข้าครอบครองพื้นที่ กรมป่าไม้ยืนยันว่า ไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นผู้บุกรุก เข้ามาหลังประกาศเขตป่าคุ้มครอง ปี 2488 อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศยืนยันแล้ว
กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการบุกรุก ยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน และที่ดินของรัฐ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และประมวลกฎหมายที่ดิน ที่มีหรืออาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน กระทบต่อสภาพแวดล้อมและทรัพยากรสำคัญของชาติ มีความซับซ้อน จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเป็นพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเป็นไปตามรายละเอียดของลักษณะของการกระทำความผิดตามที่คณะกรรมการคดีพิเศษประกาศกำหนด ตามประกาศ กคพ.(ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้รับเรื่องดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อสืบสวนสอบสวนและพิสูจน์ความผิด เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พร้อมประสานและเร่งรัดกรมป่าไม้ มอบหมายเจ้าหน้าที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยเร็ว และจะดำเนินการลงพื้นที่เพื่อตรวจสภาพและยึดพื้นที่เกิดเหตุทั้งหมด ทั้งนี้หากปล่อยให้บุคคล หรือนายทุน บุกรุกเพื่อประโยชน์ส่วนตัว อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อรัฐได้
“ผมมีจุดยืนในเรื่องของการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน สองประเด็น ประเด็นแรก กรมป่าไม้ ต้องทำความชัดเจนพื้นที่แนวเขตวิทยาลัยเทคนิคถลางให้ชัด พื้นที่ที่ได้รับอนุญาต กว่า 142 ไร่ อยู่ตรงบริเวณใด และ ประเด็นที่สอง กรมป่าไม้ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนดคีพิเศษ กรณีเป็นผู้บุกรุกรายอื่น ก่อนหน้านี้เคยประสานงานไปกับรองอธิบดีกรมป่าไม้ ได้รับการยืนยันว่า จะรีบดำเนินการขณะนี้ยังรออยู่” ร.ต.อ.ปิยะ กล่าว
อ่านประกอบ:
- อธิบดี DSI มาเอง! ลุยสอบกรณีรุกที่ดิน ว.เทคนิคถลาง-สวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต
- ดีเอสไอรับแล้วคดีพิเศษ! ปั้นเอกสาร ทป.4 รุกที่ดิน ว.เทคนิคถลาง-สวนป่าบางขนุน
- คาดเสียหายเกิน 100 ไร่! อธิบดี DSI สั่งลุยสอบปม ทป.4 รุกที่วิทยาลัยฯถลาง-ป่าบางขนุน
- เผยยอด ทป.4 ป่าบางขนุน 310 แปลง -กลุ่มอนุรักษ์ข้องใจศูนย์ดำรงธรรมสอบวิทยาลัยฯถลาง
- เปิด ทป.4 เนื้อที่ 8 ไร่ คดีรุกป่าบางขนุน ภูเก็ต - ขรก. นักการเมือง 10 คน ลงชื่อสำรวจ
- ปั้นเอกสารทป.4 ฮุบป่าบางขนุน ภูเก็ต! DSI แถลงเบื้องหลังปมรุกที่ดินวิทยาลัยฯถลาง(มีคลิป)