พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดี DSI สั่งอนุมัติเลขสืบคดีปม ใช้ เอกสาร ทป.4 รุกพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง-สวนป่าบางขนุน จ.ภูเก็ต แล้ว เตรียมลงพื้นที่เดือน ต.ค.นี้ เบื้องต้นคาดเสียหายเกิน 100 ไร่ มูลค่านับ 100 ล. กำชับให้ดำเนินการรอบด้านเป็นธรรมทุกส่วนใช้เทคโนโลยีช่วยด้วย
.....................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานความคืบหน้าประเด็นผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคถลาง จังหวัดภูเก็ต ร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรณีที่ดินของวิทยาลัยฯซึ่งได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าใช้ประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าบางขนุน จำนวน 142 ไร่เศษ ถูกกลุ่มบุคคลเข้าบุกรุกโดยอ้างสิทธิการครอบครองที่ดินตามเอกสารแบบบันทึกการใช้ที่ดินของบุคคลในพื้นที่ป่าไม้ (แบบ ทป.4) เบื้องต้นดีเอสไอคาดว่า มีการออก เอกสาร ทป.4 โดยมิชอบด้วยกฎหมายและทำเป็นขบวนการ ขณะที่ นายเชิดชัย ไมดุเก็ม ชาวบ้าน ต.สาคู อ.ถลาง ร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ว่า ผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคถลาง ล้อมรั้วแล้วรุกล้ำที่ดิน ทป.4 ของตนเอง ตามที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 พ.ต.อ.อัครพล บุณโยปัษฎัมภ์ รองอธิบดีดีเอสไอ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนการบุกรุกพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง และ สวนป่าบางขนุน จังหวัดภูเก็ตแล้ว หลังได้รับรายงานว่า พื้นที่ที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่โดยชอบร้อยกว่าไร่ และมีการใช้พื้นที่เพื่อสิ่งปลูกสร้างหรือพัฒนาไปแล้วประมาณ40 ไร่ แต่เมื่อเข้าไปสำรวจพื้นที่ใช้สอยที่เหลือ พบการปักหมุดของบุคคลรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่วิทยาลัยซึ่งอาจจะเป็นผู้มีอิทธิพล จึงมีการเข้าร้องเรียนขอให้ดีเอสไอตรวจสอบ
“อธิบดีดีเอสไออนุมัติเป็นเลขสืบแล้วและคาดว่าเร็วนี้ๆ พนักงานสอบสวนจะลงพื้นที่ตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอ ที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าไม้ที่ดินของรัฐ ซึ่งในกรณีนี้ความเสียหายน่าจะเกิน 100 ไร่ และน่าจะมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคถลางได้ใช้พื้นที่ในสวนป่าบางขนุนและพบว่าพื้นที่สวนบางป่าขนุนซึ่งมีทั้งหมด 5,000 ไร่ อาจจะมีพฤติกรรมเดียวกับพื้นที่ของวิทยาลัยเทคนิคถลาง ดีเอสไอจึงรับได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนทั้งหมด"
ขณะที่แหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา ว่า นายเจตนา เหมมุน ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข้อมูลอาชญากรรมและการข่าว กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีบันทึกถึงผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า คณะเจ้าหน้าที่ร่วมกับนายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม 4 ภาคใต้ ผู้แทนจากวิทยาลัยเทคนิคถลาง ได้รวบรวมข้อมูลและร่วมตรวจสอบพื้นที่ที่มีการร้องเรียน สรุปได้ว่า เดิมป่าสงวนแห่งชาติป่าบางขนุน เป็นป่าคุ้มครองเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2488 ตามพระราชกฤษฎีกำหนดป่าบางขนุนในท้องที่ตำบลท่ามะพร้าวและตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตให้เป็นป่าคุ้มครอง พ.ศ.2488 โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ.2481 จำนวนเนื้อที่ 5,000 ไร่ อีกทั้งยังมีสภาพเป็นสวนป่าอีกด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2507 ได้มีประกาศกระทรวงฉบับที่217(พ.ศ.2507) ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและสงวนป่า พ.ศ.2481(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2497 กำหนดให้ป่าคุ้มครองป่าบางขนุนเป็นป่าสงวน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2507 และ เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2538 นายมนตรี พงษ์พานิช ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ได้อนุมัติให้กรมอาชีวศึกษาในขณะนั้นใช้พื้นที่ สวนป่าบางขนุน จำนวน เนื้อ 142 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวาเพื่อจัดการศึกษา ซึ่งเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2552 คณะเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ นำโดยนายสุทน ดวงฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต นายประยุทธ เสี้ยวยิ้ม นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ จากกรมป่าไม้ และ เจ้าหน้าที่ป่าไม้จากสวนป่าบางขนุน เจ้าพนักงานป่าไม้จากสำนักจัดการป่าไม้ที่ 12 กระบี่ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคถลาง และพบการบุกรุกพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงบันทึกไว้และกำชับให้วิทยาลัยฯดูแลพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตและพื้นที่ข้างเคียงอย่างเข้มงวดและหากพบการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทันที
ขณะที่ นายเชิดชัย ได้แสดงตัวยืนยันการบุกรุกโดยการใช้ เอกสาร ทป.4 ร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต แต่เจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมกลับมีหนังสือสั่งการให้ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามสั่งการ ส่งผลให้นักอนุรักษ์และเครือข่ายผู้ปกครองไม่เข้าใจพฤติกรรมการสั่งการว่า เข้าข่ายปกป้องผู้บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติสวนป่าบางขนุน หรือไม่ อย่างไร เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตไม่ได้มีการตรวจสอบที่มาของ ทป.4 และความคืบหน้าและข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตในอดีต
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ขณะนี้ คณะพนักงานสอบสวนจากกองคดีทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม และกองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เตรียมความพร้อมและเริ่มสืบสวนพยานเอกสารต่างๆ ก่อนและคาดว่าจะสามารถลงพื้นที่สวนป่าบางขนุนได้ในกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยอธิบดีดีเอสไอกำชับให้มีการสืบสวนแบบรอบครอบรอบด้านและให้ความเป็นธรรมทุกส่วนโดยใช้เทคโนโลยีช่วยด้วย
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:
เผยยอด ทป.4 ป่าบางขนุน 310 แปลง -กลุ่มอนุรักษ์ข้องใจศูนย์ดำรงธรรมสอบวิทยาลัยฯถลาง
เปิด ทป.4 เนื้อที่ 8 ไร่ คดีรุกป่าบางขนุน ภูเก็ต - ขรก. นักการเมือง 10 คน ลงชื่อสำรวจ
ปั้นเอกสารทป.4 ฮุบป่าบางขนุน ภูเก็ต! DSI แถลงเบื้องหลังปมรุกที่ดินวิทยาลัยฯถลาง(มีคลิป)
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage