ฟังความอีกด้าน บ.สยามพันธุ์วัฒนา ผู้รับจ้างโครงการอ่างเก็บน้ำ 'น้ำปี้' 1.65 พันล้าน ยันไม่ได้ทิ้งงาน แต่กรมชลประทานไม่ยอมอนุมัติแบบก่อสร้างของบริษัท จนเป็นเหตุทำให้เวลาผ่านไปนานจนต้องยกเลิกสัญญา
สืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับเป็นคดีพิเศษ กรณีเอกชนทำสัญญากับกรมชลประทานในรับจ้างก่อสร้างงานชลประทานหลายโครงการทั่วประเทศ มีพฤติการณ์ในการเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางค่อนข้างมาก และไม่สามารถดำเนินงานได้ตามสัญญา โดยมีข้อมูลระบุว่าโครงการดังกล่าวคือ โครงการก่อสร้างเขื่อนหัวนาและอาคารประกอบอื่นในโครงการอ่างเก็บน้ำ น้ำปี้ จ.พะเยา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ กำหนดราคากลางที่ 2,589 ล้านบาท เอกชนรายนี้เสนอราคาที่ 1,650 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลาง 939 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 57 ของราคากลาง หลังจากทำสัญญากับหน่วยงานและได้รับการเบิกจ่ายเงินตามสัญญาประมาณ 505 ล้านบาท เมื่อสิ้นสุดสัญญากลับดำเนินงานก่อสร้างได้เพียงร้อยละ 20 และทิ้งงานในที่สุด อันเป็นเหตุให้รัฐเกิดความเสียหาย
โดยกรมชลประทานได้ชี้แจงว่าในส่วนของเงินจำนวน 505 ล้านบาทดังกล่าวขณะนี้กำลังมีกระบวนการเก็บเงินที่เป็นส่วนของการเบิกจ่ายล่วงหน้าไปแล้วประมาณ 200 ล้านบาท หลังจากที่หักเงินไปได้แล้ว 40 กว่าล้านบาท ขณะที่เงินที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทผู้รับจ้างที่ทำงานได้ร้อยละ 20 นั้นจะอยู่ที่ 300 ล้านบาท
ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้ติดต่อไปยังบริษัทสยามพันธุ์วัฒนา บริษัทผู้รับจ้างเพื่อขอให้ชี้แจงข้อมูลอีกด้านหนึ่ง โดยทางฝ่ายกฎหมายของบริษัทสยามพันธุ์วัฒนาได้ชี้แจงกับสำนักข่าวอิศราว่า จากกรณีดังกล่าวนั้นต้องขอชี้แจงในส่วนของรายละเอียดของเอกสารเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) มีส่วนที่อนุญาตให้บริษัทผู้รับจ้างสามารถดำเนินการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของงานก่อสร้างต่างๆให้มีความเหมาะสมกับสภาพท้องที่ได้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทได้ดำเนินการทำแบบแปลนก่อสร้างใหม่เสนอไปยังที่ปรึกษากรมชลประทานแล้วนับตั้งแต่ช่วงปี 2561 โดยผู้มีอำนาจในกรมชลประทานยังไม่ได้ลงนามอนุมัติแบบตามที่บริษัทได้เสนอเลย แต่กลับมีหนังสือทวงถามความคืบหน้า บอกว่ามีการดำเนินการล่าช้ามายังบริษัท และต่อมาก็มีการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้นตามที่ปรากฎเป็นข่าว
ฝ่ายกฎหมายของบริษัทสยามพันธุ์วัฒนาชี้แจงต่อไปโดยเน้นย้ำว่า ทางบริษัทไม่ได้ทิ้งงานแต่อย่างใด แต่เนื่องจากว่าไม่ได้มีการตอบกลับมาจากทางฝ่ายกรมชลประทานในเรื่องของการแก้ไขแบบก่อสร้างที่เหมาะสม จนเป็นเหตุทำให้เวลาล่วงเลยไป ซึ่งจากกรณีดังกล่าวนั้นทางบริษัทกำลังดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรมชลประทานที่ไม่ยอมอนุมัติแบบจนเป็นเหตุทำให้มีการยกเลิกสัญญาเกิดขึ้น