ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ตีตกข้อกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ รอบ 2 “สุวัฒน์ จารุมณีโรจน์” ซี 8 อดีตเจ้าหน้าที่สรรพากร พันคดีทุจริตคืนภาษี 4 พันล้าน หลังรอบแรกโดนชี้มูลรวยผิดปกติกว่าพันล้านบาท โดนศาลสั่งยึดทรัพย์ไปแล้ว 591 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนน 7 เสียง ตีตกข้อกล่าวหา นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ อดีตนักวิชาการสรรพากรชำนาญการพิเศษ ซี 8 สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 27 คดีร่ำรวยผิดปกติครั้งที่ 2 ที่สืบเนื่องมาจากคดีทุจริตการคืนเงินภาษีมูลค่า 4 พันล้านบาท ของกรมสรรพากร (มีนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร เป็นผู้ถูกกล่าวหา และถูกชี้มูลผิดไปก่อนหน้านี้)
สำหรับคดีร่ำรวยผิดปกติของนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ครั้งนี้ เป็นการถูกกล่าวหาเป็นครั้งที่ 2 โดยสืบเนื่องจากการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหาครั้งแรกคณะอนุกรรมการไต่สวน ในคดีหมายเลขคดีดำที่ 87 - 2 - 001/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 026 - 2 - 2/2559 โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงโดยนำข้อมูลและพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหา นายศุภกิจ ริยะการ สรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22 และนายพายุ สุขเขียวสด สรรพกรพื้นที่สมุทรปราการ กับพวก อนุมัติคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จมาประกอบ การพิจารณาการไต่สวนข้อเท็จจริงด้วย
จากการไต่สวนของคณะอนุกรรมการไต่สวนดังกล่าว ปรากฏข้อเท็จจริงว่า มีกลุ่มบริษัทและกลุ่มบุคคลขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบด้วยกฎหมายจำนวน 28 ราย โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถูกกล่าวหาและบุคคลที่เกี่ยว จำนวน 415,897,041.98 บาท โดยได้โอนเงินจำนวนดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝาก จำนวน 3 บัญชี ประกอบด้วย
1.บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี บางประกอก เลขที่บัญชี 636-2-1179X-X ชื่อบัญชี นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ รวมเป็นเงิน 409,455,447.83 บาท
2.บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาวัดไทร เลขที่บัญชี 704-2-4436X-X ชื่อบัญชี นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ รวมเป็นเงิน 683,172.80 บาท
3.บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สาขาติวานนท์ 8 เลขที่บัญชี 465-2-1479X-X ชื่อบัญชีนายธนัช ปฏิมาวดี รวมเป็นเงิน 5,758,421.35 บาท
นอกจากนี้จากการไต่สวน คณะอนุกรรมการไต่สวนได้ไต่สวนข้อเท็จจริงว่า นอกจากทรัพย์สินที่ได้มาโดยทุจริตแล้วข้างต้นแล้ว ผู้ถูกกล่าวหายังมีทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีเหตุ อันควรสงสัยว่าร่ำรวยผิดปกติอีกเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย เงินฝากในธนาคารต่างๆ ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ ที่อยู่ในชื่อของผู้ถูกกล่าวหา และบุคคลอื่นที่ถือครองทรัพย์สินแทนผู้ถูกกล่าวหา และได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินที่ได้มาโดยทุจริตและทรัพย์สินอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้น โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ ทั้งที่อยู่ในชื่อตน คู่สมรส และบุคคลอื่น รวมมูลค่า 1,050,866,061.47 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 591,969,808.13 บาท ต่อมาศาลแพ่งธนบุรีได้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ พ1164/2559 คดีหมายเลขแดงที่ พ816/2561 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 พิพากษาให้ทรัพย์สินมูลค่า 596,420,139.21 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน หากไม่อาจบังคับเอาแก่ทรัพย์สินดังกล่าว หรือทรัพย์สินดังกล่าวมีมูลค่าไม่เพียงพอ ให้บังคับเอาแก่ทรัพย์สินของ ผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในอายุความสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 83 คำขออื่นให้ยก
เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า เงินที่นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ โอนเงินให้นายสุรพล เมฆะอำนวยชัย เพื่อลงทุนซื้ออาคารพาณิชย์นั้น เป็นเงินของนายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ตลอดจน เงินจำนวนอื่นที่นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ โอนเงินให้นายสุรพล เมฆะอำนวยชัย ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปก่อนแล้ว ประกอบกับจากการตรวจสอบทรัพย์สินของ ผู้ถูกกล่าวหาโดยคณะกรรมการไต่สวนในคดีนี้ ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหามีทรัพย์สินอื่นเพิ่มเติมอีกแต่ประการใด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 7 เสียง เห็นว่า จากการไต่สวนปรากฏว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 472 16/2559 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 ได้มีมติว่า นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติ (คดีหมายเลขดำที่ 87 - 2 -001/2558 คดีหมายเลขแดงที่ 026 - 2 -2/2559) โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ รวมมูลค่า 591,969,808.13 บาท ต่อมาศาลแพ่งธนบุรี และศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินแล้ว
โดยจากการไต่สวนในครั้งนี้ไม่ปรากฏว่า นอกจากที่ศาลได้มีคำพิพากษาแล้ว นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา ยังมีรายการทรัพย์สินอื่นที่มากผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นมากผิดปกติอีก กรณีจึงยังฟังไม่ได้ว่า นายสุวัฒน์ จารุมณีโรจน์ ผู้ถูกกล่าวหา ร่ำรวยผิดปกติตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ยกเหตุอันควรสงสัยในคดีนี้ ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง
- ป.ป.ช.สอบซ้ำ‘สุวัฒน์’ซี 8 รวยผิดปกติ พันคดีคืนภาษี 4.3 พันล.เคยโดนยึดแล้ว600 ล.
- ป.ป.ช.ฟัน‘ซี 6’มหิดลรวยผิดปกติ 29 ล.-สามีแจง'อิศรา'ปัดทุจริต ไม่รู้จัก‘วีรยุทธ’
- 5 ปีคดีคืนภาษีฉาว 4.3 พันล. ป.ป.ช. ฟัน 3 ขรก.สรรพากรก่อน'สาธิต'โดนรวยผิดปกติ
- เชือดรายสอง‘ซี 8’สรรพากร! ป.ป.ช.ชี้มูลรวยผิดปกติเฉียด 600 ล.พันคดีคืนภาษี
- ป.ป.ช.ฟัน‘สาธิต’รวยผิดปกติ 700 ล.ส่ง อสส.ฟ้องศาลฯให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
- โชว์ทรัพย์สิน‘สาธิต’ป.ป.ช.ชงยึดคืนแผ่นดิน 714 ล.-ทองคำแท่ง 607 ล. หุ้น-เงินฝากลูกเมีย
- ให้คนก๊วน‘วีรยุทธ’ซื้อ! เบื้องหลังอายัดทองคำ‘สาธิต’ก่อนถูกชงยึดคืนแผ่นดิน 714 ล.
- อัพเดท ไล่เชือด ขรก.พันคดีทุจริตคืนภาษี 4.3 พันล. ไฮไลต์ สอบยึดทรัพย์ ‘อดีตอธิบดี’
- ป.ป.ช.ไต่สวน 5 ขรก.สรรพากรร่วม'วีรยุทธ'คดีคืนภาษี 4.3 พันล. สมุทรปราการ