ผู้เชี่ยวชาญจีนเตือนโลกระวังเหตุระบาดโควิดควบคู่ไข้หวัดใหญ่ ฤดูหนาวนี้ จี้ฉัดวัคซีนครอบคลุม ชี้ยุโรป-สหรัฐฯเจอไข้หวัดนกระลอกใหม่ ขณะรายงานเผยตัวเลขคนป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่งสูงกว่าตอนก่อนโควิดระบาด เป็นสัญญาณโควิดลดความรุนแรงลง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวในต่างประเทศว่าที่ประเทศจีน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้มีการออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของการป่วยพร้อมกันด้วยโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด-19 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในหน้าหนาวและเรียกร้องให้มีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรค
โดย นพ.เกา ฝู ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากสถาบัน Chinese Academy of Sciences ได้เรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังและฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคอย่างเร่งด่วน ซึ่งเขาได้อ้างอิงข้อมูลจากการระบาดในยุโรปว่ามีการระบาดของไข้หวัดนกในระลอกใหม่ และยังพบการแพร่ระบาดของทั้งไวรัส H5N1 อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งนี่มีความเสี่ยงว่าไวรัสนี้อาจแพร่สู่มนุษย์ได้
“ดังนั้น ความท้าทายที่เราต้องเผชิญในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลินี้ก็คือการแพร่ระบาดควบคู่ของไข้หวัดใหญ่และโควิด-19” นพ.เกากล่าว
ทั้งนี้ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของจีนกล่าวว่าในสัปดาห์นี้มีรายงานว่าในพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนนั้นพบว่ามีการระบาดของไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยระบาดนับแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สูงสุดเมื่อเป็นประวัติการณ์ในรอบ 5 ปี
“สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงสูงของการมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่โรงเรียน สถานรับเลี้ยงเด็ก และสถานดูแลผู้สูงอายุจะต้องดำเนินการรับมือเพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สุด” รายงานข่าวกล่าว
ส่วน พญ.ฉาง เหวินชิง หัวหน้าโครงการ Global Influenza Program ขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่านับตั้งแต่ช่วงหลังของครึ่งปี 2564 พบรายงานการระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ ส่งสัญญาฯอย่างชัดเจนเกี่ยวกับการระบาดด้วยอาการที่ไม่รุนแรงอันเนื่องมาจากไวรัสโควิด-19
โดยบางประเทศในซีกโลกใต้นั้นพบว่ามีอัตราการระบาดของไข้หวัดใหญ่สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนก่อนโควิดระบาด
พญ.ฉางกล่าวว่าดังนั้นจึงควรทุ่มเทความพยายามอย่างยิ่งกับการเฝ้าระวังการระบาดด้วยโรคทั้งสองแบบพร้อมๆกันแบบูรณาการ
ทั้งนี้ในประเทศจีนนั้นมีรายงานว่ามีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดยังคงล้าหลังอยู่
“ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถลดความเสี่ยงของการรักษาตัวในโรงพยาบาลสำหรับเด็กได้ 53 เปอร์เซ็นต์ และลดโอกาสในการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลสำหรับผู้สูงอายุที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องมากกว่า 40 เปอร์เซ็นต์”โดยผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และเด็ก เป็นกลุ่มที่มีความสำคัญอันดับแรกสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่” รายงานระบุ