'อ.ต.ก.'หารือ'กฤษฎีกา'ตีความบทลงโทษ'รองผู้อำนวยการ'เซ็นรับข้าวตกเกรด สมัยเป็น'หน.คลัง'

‘อ.ต.ก.’ หารือ ‘กฤษฎีกา’ ตีความบทลงโทษ รักษาการ ‘รองผู้อำนวยการ อ.ต.ก.’ กรณีเซ็นรับข้าวสารตกเกรดเข้าโกดัง สมัยเป็น ‘หัวหน้าคลังสินค้า’ เมื่อปี 55

....................................

จากกรณีที่เมื่อเดือน ก.พ.2565 ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางภัคจิรา โรจนกฤตย์ รักษาการรองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จำนวน 2 คดี ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ

กรณีนางภัคจิรา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้าเมื่อปี 2555 ลงนามรับรองข้าวสารที่ส่งเข้าไปเก็บคลังสินค้าห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญสนม หลังที่ 1 และหลังที่ 3 ว่า เป็นข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ข้าวสารดังกล่าวไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐาน สร้างความเสียหายให้ อ.ต.ก. กว่า 346.58 ล้านบาท (อ่านประกอบ : ฟ้องศาลคดีทุจริตฯ!‘บิ๊ก อ.ต.ก.’เซ็นรับ‘ข้าวเน่า’เข้าโกดัง ตอนเป็น‘หัวหน้าคลัง’สูญ 346 ล.)

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังมีหนังสือไปถึง อ.ต.ก. เพื่อให้ดำเนินการลงโทษทางวินัยกับนางภัคจิรา

ต่อมานายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ระบุว่า ได้เสนอให้บอร์ด อ.ต.ก. พิจารณาดำเนินการทางวินัยกับนางภัคจิราแล้ว แต่เนื่องจากมีประเด็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับฐานความผิด ระหว่างฐานความผิดตามข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กับฐานความผิดตามข้อบังคับของ อ.ต.ก. ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดของนางภัคจิรา จึงต้องหารือกับ ป.ป.ท. เพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับฐานความผิดก่อน นั้น

ล่าสุด นายพีรพันธ์ คอทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกรรมการ อ.ต.ก. ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) กรณีการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับนางภัคจิรา ว่า หลังจาก ป.ป.ท. ได้วินิจฉัยว่านางภัคจิรามีการกระทำความผิด เมื่อครั้งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคลังสินค้า และส่งเรื่องมายัง อ.ต.ก. ให้พิจารณาลงโทษทางวินัยกับนางภัคจิราแล้ว ผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ได้เสนอเรื่องดังกล่าวมาให้บอร์ด อ.ต.ก. พิจารณา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ป.ป.ท. ไม่ได้ชี้ว่านางภัคจิรากระทำทุจริตร้ายแรง เพียงแต่ชี้ว่าประพฤติผิดวินัยร้ายแรง อ.ต.ก. จึงต้องมาพิจารณาว่าจะดำเนินการลงโทษอย่างไร และทาง อ.ต.ก. ได้ส่งเรื่องไปสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ตีความว่า การพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับนางนางภัคจิรา ตามที่ ป.ป.ท. ชี้มานั้น จะดำเนินการได้หรือไม่ และอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายไปฟ้องคดีต่อศาลปกครอง ซึ่งมีหลายกรณีที่หน่วยงานต้องคืนตำแหน่งให้กับผู้เสียหาย

ขณะที่ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งหนังสือแจ้งมายัง อ.ต.ก. แล้ว โดยตอบกลับมาว่าให้ อ.ต.ก. นำคำถามเดียวกับที่ได้ถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไปสอบถามกับ ป.ป.ท. ก่อน หาก ป.ป.ท.ตอบกลับมาอย่างไร ให้ อ.ต.ก. ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้ง พร้อมทั้งให้แนบหนังสือของ ป.ป.ท. ไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาด้วย

“ป.ป.ท.ไม่ได้ชี้ว่านางภัคจิราทุจริตร้ายแรง ซึ่งถ้าเป็นข้าราชการทั่วไป ถ้าใช้ key word (คำสำคัญ) ว่า ทุจริตร้ายแรง หน่วยงานก็ต้องมาพิจารณาตามระเบียบของหน่วยงานว่า จะไล่ออก ปลดออก หรือดำเนินการตามชั้นโทษไป แต่เคสของนางภัคจิรา ป.ป.ท.ชี้ว่า ประพฤติผิดวินัยร้ายแรง พอมี key word อย่างนี้ จึงต้องไปศึกษาดูว่า ในอดีตที่ผ่านมาแต่ละส่วนราชการมีบทลงโทษอย่างไร

เพราะมีหลายกรณีที่หน่วยงาน ดำเนินการตาม ป.ป.ท. ชี้มา ปรากฏว่าคนที่ถูกลงโทษก็ไปฟ้องศาลปกครอง เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาในชั้นกฎหมายระหว่างกฎหมาย ป.ป.ท. และกฎหมายของหน่วยงานรัฐ เราจึงเห็นว่าควรส่งเรื่องให้กฤษฎีกาตีความว่า กรณีที่ ป.ป.ท.ส่งหนังสือมานั้น อำนาจของ ป.ป.ท. ครอบคลุมให้ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจดำเนินการได้หรือไม่ เพื่อป้องกันการที่ผู้เสียหายไปฟ้องศาลปกครอง ซึ่งหลายกรณีที่หน่วยงานต้องคืนตำแหน่งให้เขา

และขณะนี้กฤษฎีกามีหนังสือแจ้งกลับมายัง อ.ต.ก. แล้ว ซึ่งกฤษฏีกาบอกว่า ให้นำคำถามที่ อ.ต.ก. ถามกับกฤษฎีกาไปถามกับ ป.ป.ท.ก่อน เมื่อ ป.ป.ท.มีหนังสือตอบกลับมาแล้ว ก็ให้ทำหนังสือไปยังกฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง พร้อมทั้งแนบหนังสือของ ป.ป.ท.ไปด้วย อย่างไรก็ดี อ.ต.ก.คงไม่ไปสอบสวนเพิ่มว่าเคสนี้เป็นอย่างไร โดยจะยึดตามผลการสอบสวนของ ป.ป.ท.เป็นหลัก” นายพีรพันธ์ ระบุ

สำนักข่าวอิศรารายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าคดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางภัคจิรา ต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ นั้น ในส่วนคดีหมายเลขดำที่ อท 32/2565 ศาลฯนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์วันที่ 15 พ.ย.2565 และนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย วันที่ 17 พ.ย.2565 และคดีหมายเลขดำที่ อท 33/2565 ศาลฯนัดสืบพยานฝ่ายโจทก์วันที่ 16 พ.ย.2565 และนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย วันที่ 18 พ.ย.2565

อ่านประกอบ :

เปิดคำฟ้อง 2 คดี! ‘บิ๊ก อ.ต.ก.’เซ็นรับ‘ข้าวไม่ได้คุณภาพ’ ตอนเป็นหัวหน้าคลัง-สูญ 346 ล.

จ่อลงโทษทางวินัย ‘บิ๊ก อ.ต.ก.’ เซ็นรับ ‘ข้าวตกเกรด’ เข้าโกดัง สมัยเป็น ‘หัวหน้าคลัง’

ทรัพย์สิน 63 ล.'ปณิธาน มีไชยโย'นั่งผู้อำนวยการ อ.ต.ก.สะสมทองคำแท่ง-พระเครื่องเพียบ

ฟ้องศาลคดีทุจริตฯ!‘บิ๊ก อ.ต.ก.’เซ็นรับ‘ข้าวเน่า’เข้าโกดัง ตอนเป็น‘หัวหน้าคลัง’สูญ 346 ล.

รัฐบาลเผยโครงการจำนำข้าวเหลือรอระบายกว่า 2 แสนตัน ขาดทุนไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าน

ฉบับเต็ม! พฤติการณ์-มติทางการ ป.ป.ช.ชี้มูล‘กิตติรัตน์-อดีตบิ๊ก อคส.’คดีข้าวบูล็อค

ป.ป.ช.อัพเดต 15 คดีสำคัญ ข้าวจีทูจีภาค 2 ลากถึงปี 65 ปาล์มอินโดฯ-โรลส์รอยซ์เสร็จปีนี้

'วิษณุ'ไม่กังวลคำสั่งศาล ปค.เพิกถอน'ปู'ชดใช้คดีข้าว-ยันอายัดยังไม่ถึง 100 ล.