“…ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นหัวหน้าคลังสินค้า มีความรู้ และประสบการณ์เรื่องข้าว รู้อยู่แล้วว่า ข้าวที่นำมาส่งที่คลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 เป็นข้าวที่ไม่ผ่านคุณภาพทางกายภาพ และไม่ได้มาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ได้ละเลยหรือละเว้นในการทำหน้าที่ ไม่ตรวจสอบ ควบคุม กำกับ ดูแล การตรวจสอบข้าวสารให้ถูกต้อง ก่อนนำเข้าเก็บในคลังสินค้า…”
................................
สืบเนื่องจากกรณีที่เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 3 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ภัคจิรา โรจนกฤตย์ รักษาการรองผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และพวก ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 จำนวน 2 คดี
ในข้อหาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตฯ และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต
เนื่องจากเมื่อปี 2555 ภัคจิรา ซึ่งในขณะนั้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า ได้ลงนามรับรองข้าวสารที่ส่งเข้าไปเก็บคลังสินค้าห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญสนม หลังที่ 1 และหลังที่ 3 ว่า เป็นข้าวที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ข้าวสารดังกล่าวไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด
ส่งผลให้ อ.ต.ก. และรัฐบาล ได้รับความเสียเป็นเงินรวม 346.58 ล้านบาท ขณะที่ศาลฯมีกำหนดนัดโจทก์และจำเลยตรวจเอกสารหลักฐานในวันที่ 17 มิ.ย.2565 นั้น (อ่านประกอบ : ฟ้องศาลคดีทุจริตฯ!‘บิ๊ก อ.ต.ก.’เซ็นรับ‘ข้าวเน่า’เข้าโกดัง ตอนเป็น‘หัวหน้าคลัง’สูญ 346 ล.)
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) จึงขอสรุปรายละเอียดคำฟ้องของอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามกรทุจริต 1 ภาค 3 ที่ได้ยื่นฟ้อง ภัคจิราและพวก ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ดังนี้
คดีแรก คดีหมายเลขดำที่ อท 32/2565
พนักงานอัยการบรรยายฟ้องว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2554 ครม.มีมติเห็นชอบมาตรการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ทุกท้องที่ทั่วประเทศ โดยมอบหมายให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์กรตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เป็นผู้ดำเนินการรับจำนำข้าวเปลือกจากเกษตรกร
แต่เนื่องจาก อคส. และ อ.ต.ก. ไม่มีสถานที่เก็บรักษาข้าวเปลือก จึงฝากเก็บข้าวเปลือกไว้กับโรงสี โดยทำสัญญาฝากเก็บ แปรสภาพ และจัดจำหน่ายกับโรงสี และทำสัญญาเช่าคลังสินค้า ขณะที่ อคส.และ อ.ต.ก. ได้แต่งตั้งให้พนักงานเป็น ‘หัวหน้าคลังสินค้า’ เพื่อออกใบประทวนสินค้า และทำหน้าที่ดำเนินการต่างๆที่ อคส.และ อ.ต.ก.ได้รับมอบหมาย
สำหรับคดีนี้ อ.ต.ก. ได้ทำสัญญาเช่าคลังสินค้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 3 เพื่อเก็บรักษาข้าวสารที่รับมอบจากโรงสีต่างๆ ซึ่งแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 แล้วนำเข้าเก็บในคลังสินค้า
และ อ.ต.ก. ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท เอเชีน เพสคอนโทรล แอนด์ อินสเปคชั่น จำกัด ให้ทำการตรวจสอบและรับผิดชอบคุณภาพ ชนิด และน้ำหนักข้าวสารในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ตามสัญญาเลขที่ กธข. 3.1/2555 (นาปี 2554/55) ลงวันที่ 26 ต.ค.2554
ขณะเกิดเหตุ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานการตลาด 6 สำนักงาน อ.ต.ก. จังหวัดนครราชสีมา สังกัด อ.ต.ก. ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 3 จ.สุรินทร์ ตามคำสั่ง อ.ต.ก.ที่ 52/2555 ลงวันที่ 22 มี.ค.2555
มีหน้าที่และความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามระเบียบ อ.ต.ก. ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการรับมอบ การเก็บรักษา การจ่ายข้าวสาร พ.ศ.2544 ,ระเบียบ อ.ต.ก. ว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ลงวันที่ 27 ก.ค.2554 และระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมีหน้าที่แจ้งบริษัทผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าวให้รมยาตามกำหนดในสัญญา หากมีปัญหาเร่งด่วนที่ต้องวินิจฉัย สั่งการ ให้รายงานต่อผู้อำนวยการฯโดยตรง และเมื่อดำเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ให้พนักงานที่ได้รับแต่งตั้งกลับไปปฏิบัติงานต้นสังกัดตามเดิม
ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) จึงเป็นพนักงานตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 4 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ระหว่างวันที่ 9 มี.ค.2555 ถึงวันที่ 9 ม.ค.2556 ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นพนักงานของ อ.ต.ก. อันเป็นองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ อ.ต.ก. และรัฐบาลไทยได้รับความเสียหา หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
โดย ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล และตรวจสอบชนิด คุณภาพ น้ำหนัก และปริมาณของข้าวสาร ก่อนนำเข้าเก็บรักษาในคลังสินค้าหรือไซโล ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการสร้างความเสียหายให้แก่ อ.ต.ก. โดยมีจำเลยที่ 2 ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก ก่อนและขณะกระทำความผิด
กล่าวคือ เมื่อโรงสีคู่สัญญาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวที่รับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้ ได้ทำการแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารตามคำสั่ง และได้นำข้าวสารส่งคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 3
จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพ น้ำหนักและปริมาณข้าวสาร ตามสัญญาจ้างฯ เพื่อส่งเก็บคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 3 ได้รับรองในใบรับมอบข้าวสารและรับรองน้ำหนักข้าวที่ส่งมอบเข้าคลังสินค้า (ขส.1)
และ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นหัวหน้าคลังสินค้าได้ลงชื่อในแบบดังกล่าว รับรองว่าข้าวสารที่ร่วมกันตรวจสอบที่รับมอบจากโรงสีต่างๆว่า เป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 มีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด และตามสัญญาจ้างตรวจสอบคุณภาพ น้ำหนักและปริมาณข้าวสาร
ทั้งที่ความจริงแล้ว ข้าวสารที่จำเลยที่ 2 ทำการตรวจสอบ และ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) มีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแล ร่วมตรวจสอบ และรับรองว่าเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 นั้น มีการตรวจพบว่า เป็นข้าวเมล็ดแดง ข้าวเมล็ดเหลือง ข้าวเมล็ดเสีย ข้าวเมล็ดหักที่ไม่ผ่านตะแกรงเบอร์ 7 และปลายข้าวชีวัน ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน
และมีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด เป็นข้าวที่ไม่ผ่านคุณภาพทางกายภาพ และไม่ได้มาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทยตามท้ายประกาศของกระทรวงพาณิชย์ฯ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 314.11 ล้านบาท
ดังนั้น การกระทำของ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นหัวหน้าคลังสินค้า มีหน้าที่ในการกำกับดูแลพนักงานตรวจสอบคุณภาพข้าว เพื่อให้การส่งมอบและรับข้าวสารดังกล่าวเป็นไปตามระเบียบ สัญญา คำสั่งที่เกี่ยวข้อง และการกระทำของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพข้าวสารให้เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงพาณิชย์ฯ
จึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยระเบียบของ อ.ต.ก. ว่าด้วยการรับมอบ การเก็บรักษา การจ่ายข้าวสาร พ.ศ.2544 และสัญญาที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นๆ
การกระทำของ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ดังกล่าว จึงเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ อ.ต.ก. รวมทั้งรัฐบาลไทย รวมเป็นเงิน 314.11 ล้านบาท โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สนับสนุน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2557 คณะทำงานชุดตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าว ชุดที่ 38/2557 ได้เข้าตรวจสอบข้าวในคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 3 จ.สุรินทร์ โดยได้ตรวจสอบปริมาณและเก็บตัวอย่างข้าว จำนวน 11 ตัวอย่าง
ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เพื่อตรวจพิสูจน์
โดยผลการตรวจพิสูจน์และวิเคราะห์ ปรากฏว่าข้าวอมมะลิ 100% ชั้น 2 จำนวน 8 ตัวอย่าง ไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน และไม่มีควรมีสภาพเช่นที่ตรวจพบ และจากระยะเวลาการเก็บรักษาแล้ว ไม่ควรมีสภาพดังที่ตรวจพบ จึงถือได้ว่าเป็นข้าวที่มีคุณภาพไม่ตรงตามมาตรฐาน ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ทำให้ อ.ต.ก. ได้รับความเสียหาย 314.11 ล้านบาท
ต่อมา อ.ต.ก. ได้มอบอำนาจให้หัวหน้ากองกฎหมาย อ.ต.ก. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ทำการสอบสวนเบื้องต้น และได้มอบสำนวนการสอบสวนให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ทำการสอบสวนเบื้องต้น
จากนั้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2559 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตามพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 มาตรา 30 และคณะกรรมการ ป.ป.ท.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีนี้ และได้ทำการไต่สวนโดยชอบแล้ว
ทั้งนี้ ในชั้นไต่สวน จำเลยทั้ง 2 ให้การปฏิเสธ และระหว่างการสอบสวน จำเลยทั้ง 2 ไม่ถูกควบคุมตัว
คดีที่สอง คดีหมายเลขดำที่ อท 33/2565
พนักงานอัยการบรรยายฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุคดีนี้ ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารงานการตลาดระดับ 6 สำนักงาน อ.ต.ก. จังหวัดสุรินทร์ สังกัด อ.ต.ก. ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ ตามคำสั่ง อ.ต.ก.ที่ 20/2555 ลงวันที่ 3 ก.พ.2555
โดยระหว่างวันที่ 21 ก.พ.2555 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 23 มิ.ย.255 เวลากลางวันต่อเนื่องกัน ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นพนักงาน อ.ต.ก. อันเป็นองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ อ.ต.ก.และรัฐบาลไทยได้รับความเสียหาย หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
และเป็นพนักงาน อ.ต.ก. อันเป็นองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล และตรวจสอบชนิด คุณภาพ น้ำหนัก และปริมาณของข้าวสาร ก่อนจะนำเข้าเก็บรักษาในคลังสินค้าหรือไซโล ได้ใช้อำนาจในหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่ อ.ต.ก. โดยมีจำเลยที่ 2 และที่ 3 ช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวก ก่อนและขณะกระทำความผิด
กล่าวคือ เมื่อโรงสี คู่สัญญา ที่ได้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวที่ได้รับฝากเก็บข้าวเปลือกไว้ ได้ทำการแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นเข้าวสารตามคำสั่ง และได้นำเข้าสารส่งคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 จังหวัดสุรินทร์
ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นหัวหน้าคลังสินค้า มีความรู้ และประสบการณ์เรื่องข้าว รู้อยู่แล้วว่า ข้าวที่นำมาส่งที่คลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 เป็นข้าวที่ไม่ผ่านคุณภาพทางกายภาพ และไม่ได้มาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ฯ ได้ละเลยหรือละเว้นในการทำหน้าที่ ไม่ตรวจสอบ ควบคุม กำกับ ดูแล การตรวจสอบข้าวสารให้ถูกต้อง ก่อนนำเข้าเก็บในคลังสินค้า
อีกทั้ง ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ได้อาศัยโอกาสที่ตนมีหน้าที่นั้น ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริตร่วมกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 นำข้าวท่อนหอมมะลิ จำนวน 2,062.5 ตัน คิดเป็นเงิน 32.57 ล้านบาท ซึ่งเป็นข้าวที่ไม่ถูกต้องตรงตามมาตรฐาน เข้าไปเก็บในคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 จ.สุรินทร์
ภัคจิรา (จำเลยที่ 1) ซึ่งเป็นพนักงาน อ.ต.ก. จึงปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
และเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ อ.ต.ก. รวมทั้งรัฐบาลไทย รวมเป็นเงิน 32.57 ล้านบาท โดยมีจำเลยที่ 2 และที่ 3 เป็นผู้สนับสนุน
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 6 ก.ค.2557 คณะทำงานชุดตรวจสอบคุณภาพและปริมาณข้าว ชุดที่ 34/2557 ได้เข้าตรวจสอบข้าวในคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญพนม หลังที่ 1 จ.สุรินทร์
โดยได้ตรวจสอบปริมาณและเก็บตัวอย่างข้าว ส่งสำนักงานคณะกรรมการตรวจข้าว สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และห้องปฏิบัติการดีเอ็นเอ เทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เพื่อตรวจพิสูจน์ โดยผลการตรวจพิสูจน์และวิเคราะห์
ผลการวิเคราะห์ปรากฏว่าข้าวท่อนหอมมะลิ เลขถุง 323 รหัสตัวอย่าง 32105301509201 และเลขถุง 322 รหัสตัวอย่าง 32105301509204 จากการตรวจสอบทางกายภาพ มีส่วนผสมเกินกว่ามาตรฐาน คือ พบว่ามีข้าวหักที่มีความยาวไม่ถึง 5 ส่วน และไม่ผ่านตะแกรงเบอร์ 7 ซึ่งตามมาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 10%
ต่อมา อ.ต.ก. ได้มอบอำนาจให้หัวหน้ากองกฎหมาย อ.ต.ก. เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม ทำการสอบสวนเบื้องต้น และได้มอบสำนวนการสอบสวนให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นท้องที่เกิดเหตุ ทำการสอบสวนเบื้องต้น
จากนั้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2559 ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตามพ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2551 มาตรา 30 และคณะกรรมการ ป.ป.ท.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงคดีนี้ และได้ทำการไต่สวนโดยชอบแล้ว
ทั้งนี้ ในชั้นไต่สวน จำเลยทั้ง 3 ให้การปฏิเสธ และระหว่างการสอบสวน จำเลยทั้ง 2 ไม่ถูกควบคุมตัว
เหล่านี้เป็นสาระสำคัญของคำฟ้องที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 3 ยื่นฟ้อง ภัคจิรา โรจนกฤตย์ รักษาการรองผู้อำนวยการ อ.ต.ก. ซึ่งถูก ‘กล่าวหา’ ว่ากระทำความผิดในสมัยที่ทำหน้าที่เป็น ‘หัวหน้าคลังสินค้า’ โดยลงนามรับมอบข้าวสาร ‘ไม่ได้คุณภาพ’ เข้าเก็บในคลังสินค้า ห้างหุ้นส่วนจำกัด สินเจริญสนม หลังที่ 1 และหลังที่ 3 เมื่อกว่า 10 ที่แล้ว หรือเมื่อปี 2555
อย่างไรก็ดี การยื่นฟ้องคดีของอัยการดังกล่าว คดียังไม่ถือเป็นที่สุด ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดจากศาล
อ่านประกอบ :
จ่อลงโทษทางวินัย ‘บิ๊ก อ.ต.ก.’ เซ็นรับ ‘ข้าวตกเกรด’ เข้าโกดัง สมัยเป็น ‘หัวหน้าคลัง’
ทรัพย์สิน 63 ล.'ปณิธาน มีไชยโย'นั่งผู้อำนวยการ อ.ต.ก.สะสมทองคำแท่ง-พระเครื่องเพียบ
ฟ้องศาลคดีทุจริตฯ!‘บิ๊ก อ.ต.ก.’เซ็นรับ‘ข้าวเน่า’เข้าโกดัง ตอนเป็น‘หัวหน้าคลัง’สูญ 346 ล.
รัฐบาลเผยโครงการจำนำข้าวเหลือรอระบายกว่า 2 แสนตัน ขาดทุนไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้าน
ฉบับเต็ม! พฤติการณ์-มติทางการ ป.ป.ช.ชี้มูล‘กิตติรัตน์-อดีตบิ๊ก อคส.’คดีข้าวบูล็อค
ป.ป.ช.อัพเดต 15 คดีสำคัญ ข้าวจีทูจีภาค 2 ลากถึงปี 65 ปาล์มอินโดฯ-โรลส์รอยซ์เสร็จปีนี้
'วิษณุ'ไม่กังวลคำสั่งศาล ปค.เพิกถอน'ปู'ชดใช้คดีข้าว-ยันอายัดยังไม่ถึง 100 ล.