เปิด 2 ปม BAFS ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ เอาผิด ‘ป.ป.ช.ทั้งคณะ’ เหตุ ‘ปล่อยคดีขาดอายุความ-ให้ข้อเท็จจริงที่บิดเบือนต่อ ครม.’ ขณะที่เบื้องหลังการลงมติ ‘วาระแก้ไขมติบอร์ด กทภ.’ พบ ‘กรรมการ ป.ป.ช.’ เสียงข้างน้อย 2 เสียง ‘สุภา-ณัฐจักร’ ลงมติว่า การแก้ไขมติบอร์ด กทภ. 'ไม่ถูกต้อง' แต่เสียงข้างมาก 7 เสียง เห็นว่าไม่มีความผิด
................................
สืบเนื่องจากกรณีที่ บมจ.บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ (BAFS) หรือ บาฟส์ ยื่นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ,นายวรวิทย์ สุขบุญ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. และผู้บริหาร บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2565
โดย BAFS กล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ,อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. และผู้เกี่ยวข้อง ว่า ร่วมกันกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานเป็น “เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต...”
ในกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติเกี่ยวกับการ ‘แก้ไข’ รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) ครั้งที่ 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 ในระเบียบวาระที่ 5.1 ว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริง ยังฟังไม่ได้ว่า กทภ. ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 29 ราย กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล และให้ข้อกล่าวหาตกไป นั้น (อ่านประกอบ : ปม‘คลังน้ำมัน’นอกสุวรรณภูมิ ระอุ! ‘BAFS'ชน‘ป.ป.ช.’ ฟ้องศาลคดีทุจริตฯเอาผิด'ทั้งคณะ')
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และผู้เกี่ยวข้อง ที่ BAFS ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในคดีนี้ มีทั้งสิ้น 13 ราย ได้แก่ 1.พล.ต.อ.ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ,2.พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. ,3.พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง อดีตกรรมการ ป.ป.ช. ,4.นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. ,5.นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กรรมการ ป.ป.ช.
6.นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช. ,7.น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. ,8.นางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช. ,9.นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ,10.นายวรวิทย์ สุขบุญ อดีตเลขาธิการ ป.ป.ช. ,11.นายพูลศักดิ์ คูณสมบัติ ในฐานะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ช. และผู้บริหารของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จำนวน 2 ราย
ส่วนข้อหาที่ BAFS ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 13 ราย ในคดีดังกล่าว มี 2 ข้อหา
ข้อหาแรก เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจาก ป.ป.ช.มีการพิจารณาคดีการแก้ไขมติคณะกรรมการ กทภ. ครั้งที่ กทภ. 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 โดยมิชอบ นั้น เป็นไปอย่างล่าช้าจนคดีขาดอายุความ
ข้อหาที่สอง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เนื่องจาก ป.ป.ช. มีการเสนอข้อเท็จจริงที่บิดเบือนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใน 2 กรณี ได้แก่
1.กรณีที่ ป.ป.ช. มีมติว่า การแก้ไขมติ กทภ. ครั้งที่ กทภ. 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 ยังฟังไม่ได้ว่า คณะกรรมการ กทภ. ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล และให้ข้อกล่าวหาของบริษัทฯตกไป ทั้งๆมีพยานหลักฐานชัดเจนว่า การแก้ไขมติ กทภ. ครั้งดังกล่าว เป็นไปโดยมิชอบ
2.กรณีที่ ป.ป.ช.หยิบยกประเด็นที่ บริษัท ASIG กล่าวอ้าง มากล่าวหา BAFS ว่า ผูกขาดและมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการดำเนินการให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน (คลังน้ำมัน) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเป็นสาเหตุที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (CPI) ของประเทศไทย โดยที่ ป.ป.ช.ไม่เคยเรียก BAFS เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
สำหรับทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว เป็นการกระทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ที่บัญญัติว่า “เจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปีหรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ”
และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 11 ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดเป็นพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หริอปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศราว่า กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่า การแก้ไขมติ กทภ. ครั้งที่ กทภ. 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 ยังฟังไม่ได้ว่า คณะกรรมการ กทภ. ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา กระทำความผิดตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาของบริษัทตกไป นั้น
ในการลงมติเรื่องดังกล่าว มีกรรมการ ป.ป.ช. 7 คน ที่เห็นว่าการแก้ไขมติ กทภ. ครั้งที่ กทภ. 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 ไม่ได้มีการกระทำผิด ได้แก่ พล.ต.อ.ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ ,พล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ ,พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง ,นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข , นายวิทยา อาคมพิทักษ์ ,นางสุวณา สุวรรณจูฑะ และนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช.
ส่วนกรรมการ ป.ป.ช.เสียงข้างน้อย ที่ลงมติ ว่า การแก้ไข มติ กทภ. ครั้งที่ กทภ. 4/2548 เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2548 เป็นไปโดยมิชอบ มี 2 เสียง ได้แก่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และนายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ระหว่างจัดทำคำชี้แจงข้อกล่าวหา เพื่อยื่นต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ต่อไป
อ่านประกอบ :
ปม‘คลังน้ำมัน’นอกสุวรรณภูมิ ระอุ! ‘BAFS'ชน‘ป.ป.ช.’ ฟ้องศาลคดีทุจริตฯเอาผิด'ทั้งคณะ'
มติครม.ขัดแย้งกัน! เบื้องหลัง‘ป.ป.ช.’ชงเปิดเอกชนแข่งขัน ทำ‘คลังน้ำมัน’นอก‘สุวรรณภูมิ’
ต้องแข่งขัน! ป.ป.ช.แนะ'ครม.'เปิดเอกชนรายอื่นสร้าง'คลังน้ำมันเครื่องบิน'นอก'สุวรรณภูมิ'