ก.ล.ต.เผยประกาศหลักเกณฑ์ห้ามใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ซื้อ ‘สินค้า-บริการ’ มีผลบังคับใช้ 1 เม.ย.นี้ ให้เวลาผู้ประกอบการฯปรับตัว 30 วัน ขณะที่ ‘ธปท.’ แพร่ข้อมูลเทียบ 5 จุดอ่อนการใช้ ‘คริปโทฯ’ ชำระค่าสินค้า ระบุมีค่าธรรมเนียม-เสี่ยงภัยไซเบอร์
...............................
จากกรณีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 3/2565 เมื่อวันที่ 3 มี.ค.2565 มีมติเห็นชอบหลักการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในการจำกัดการให้บริการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าและบริการ ซึ่งปรับปรุงตามข้อเสนอแนะที่ได้จากการรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น และออกเป็นประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล นั้น
เมื่อวันที่ 23 มี.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) แจ้งว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป ประกาศหลักเกณฑ์ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ จะมีผลบังคับใช้ โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ให้บริการอยู่ก่อนแล้ว ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่หลักเกณฑ์กำหนดภายใน 30 วันนับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ
สำหรับประกาศหลักเกณฑ์ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภท ต้องไม่ให้บริการหรือกระทำการอันมีลักษณะที่เป็นการสนับสนุนหรือส่งเสริมการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การโฆษณา การชักชวนหรือแสดงตนว่าพร้อมให้บริการชำระค่าสินค้าหรือบริการแก่ร้านค้า หรือการจัดทำระบบหรือเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการชำระค่าสินค้าและบริการ การเปิดกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อวัตถุประสงค์ในการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าและบริการ เป็นต้น
2.กรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่า ลูกค้าใช้บัญชีที่เปิดไว้เพื่อการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไปใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าและบริการ ผู้ประกอบธุรกิจต้องแจ้งเตือนเกี่ยวกับการใช้บัญชีผิดวัตถุประสงค์และไม่ตรงกับเงื่อนไขการให้บริการ และดำเนินการแก่ลูกค้าที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการให้บริการ ซึ่งรวมถึงระงับการให้บริการชั่วคราว ยกเลิกการให้บริการหรือดำเนินการอื่นใดในทำนองเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสำนักงาน ก.ล.ต. ได้หารือร่วมกันถึงประโยชน์และความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัล และเห็นความจำเป็นในการกำกับดูแลและควบคุมการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าและบริการ เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงความเสี่ยงต่อประชาชนและธุรกิจ อาทิ ความเสี่ยงจากการสูญมูลค่าที่เกิดจากความผันผวนของราคา ความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมทางไซเบอร์ ความเสี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล หรือการถูกใช้เป็นเครื่องมือของการฟอกเงิน เป็นต้น
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า วันเดียวกัน ธปท. เผยแพร่ข้อมูลเปรียบเทียบการใช้ Cryptocurrency กับการใช้ระบบการชำระเงินของไทยในปัจจุบัน ในหัวข้อ ‘ทำไม Cryptocurrency ยังไม่เหมาะนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ?’ เช่น การใช้ Cryptocurrency เป็นสื่อกลางในการชำระค่าสินค้าและบริการ จะมีค่าธรรมเนียมการแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงิน และมีค่าธรรมเนียมในการโอน เทียบกับการระบบพร้อมเพย์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมการโอนเงิน
การโอน Cryptocurrency จะใช้ระยะเวลาในการโอนตั้งแต่ 0.4-10 วินาที เทียวกับระยะเวลาโอนเงินในระบบพร้อมเพย์ที่ใช้เวลาน้อย 1 วินาที , Cryptocurrency ใช้ได้ไม่ทั่วถึง และขึ้นอยู่กับการยอมรับของลูกค้า แต่ระบบการชำระเงินของไทยในปัจจุบันสามารถใช้ได้ทั่วประเทศ และมี QR code รองรับทุกธนาคาร และมีมากกว่า 7 ล้านจุดทั่วประเทศ
นอกจากนี้ การคงมูลค่าของ Cryptocurrency มีความผันผวน และการใช้ Cryptocurrency มีความเสี่ยงต่อภัยไซเบอร์ การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล เทียบกับ ระบบการชำระเงินของไทยในปัจจุบัน ที่การคงมูลค่าไม่ผันผวน มีความปลอดภัยสูงภายใต้มาตรฐานกำกับดูแล
“สิ่งที่เป็นแก่นของธนาคารกลาง และจะไม่เปลี่ยน คือ การมีภาครัฐเป็นผู้รักษามูลค่าของเงินและเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งที่ผ่านมาระบบนี้ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่ามั่นคงและตอบโจทย์ มีประสิทธิภาพสูง เทียบกับ Cryptocurrency ที่แม้เป็นนวัตกรรม แต่จัดเป็นกระแสที่ไม่ตอบโจทย์ การเป็นสื่อกลางชำระค่าสินค้าและบริการ” นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน Future of Growth Forum: ‘Thailand Vision 2030’ เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา
อ่านประกอบ :
‘สรรพากร’ ผ่อนปรนหักภาษี ณ ที่จ่าย ธุรกรรมคริปโทฯ-เตรียมออกคู่มือ 31 ม.ค.นี้
‘ก.ล.ต.-ธปท.-คลัง’ เคาะร่างหลักเกณฑ์ห้ามใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ จ่ายค่าสินค้า-บริการ
‘ก.ล.ต.-สรรพากร-ธปท.’ หารือ 2 สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลฯ วางแนวทางเก็บภาษีคริปโทฯ
‘กสิกรไทย’ปัดให้ข่าวร่วมทุน‘ไบแนนซ์’ เผยยังไม่มีข้อสรุปทำธุรกิจซื้อขาย‘เหรียญดิจิทัล’
‘ก.ล.ต.’ชงรื้อ กม.คุม‘คริปโทเคอร์เรนซี’แก้หลอกลวง-พบปี 64 เปิดบัญชีซื้อขายพุ่ง 10 เท่า
มุมมองแบงก์ชาติ : สินทรัพย์ดิจิทัลเสี่ยงสูง-ช่องทางฟอกเงิน?
หวั่นกระทบเสถียรภาพ! ‘ธปท.’ ไม่สนับสนุนใช้ ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ ชำระค่าสินค้า-บริการ
บางจากฯ รับชำระเงินด้วยคริปโตเคอร์เรนซีเป็นรายแรกของกลุ่มธุรกิจพลังงาน