ศบค.พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทุบสถิติในรอบ 7 วัน 18,066 ราย เจอมากสุดใน กทม. 3,458 ราย ขณะที่หายป่วย 12,511 ราย เหลือรักษาตัวอยู่ 149,589 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย เป็นผู้สูงวัย-ป่วยเรื้อรังทั้งหมด มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว และติดเชื้อจากคนใกล้ชิด โดยกลุ่มเสี่ยงสูงอายุฉีดเข็มสามได้ 27.7%
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน โดยพบผู้ป่วยรายใหม่ 18,066 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อในประเทศ 17,815 ราย เกิดจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 17,707 ราย เกิดจากการค้นหาเชิงรุกและพบการติดเชื้อในชุมชน 108 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ 83 ราย อีก 168 รายเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ รวมผู้ป่วยสะสม 2,674,477 ราย
หายป่วยเพิ่ม 12,511 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 149,589 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก 755 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 182 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 27 ราย เป็นผู้สูงอายุ 21 ราย คิดเป็น 78% ป่วยเรื้อรัง 5 ราย คิดเป็น 18% รวม 100% เสียชีวิตสะสม 22,565 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิต 27 ราย โดยในจำนวนนี้ มาจาก กทม. 8 ราย ปทุมธานี 1 ราย ศรีสะเกษ 1 ราย สุรินทร์ 1 ราย เพชรบูรณ์ 1 ราย แพร่ 1 ราย กำแพงเพชร 1 ราย นครสวรรค์ 1 ราย ลำปาง 1 ราย ชุมพร 1 ราย ยะลา 1 ราย สตูล 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย ปราจีนบุรี 2 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย กาญจนบุรี 1 ราย ชลบุรี 1 ราย ระยอง 1 ราย มีปัจจัยเสี่ยงมาจากโรคประจำตัว การอาศัยในพื้นที่ระบาด และการติดเชื้อจากคนใกล้ชิดมากถึง 17 ราย
โดย 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่สูงสุด ตามลำดับ ได้แก่ กทม. 3,458 ราย สมุทรปราการ 957 ราย ชลบุรี 811 ราย นครศรีธรรมราช 750 ราย นนทบุรี 596 ราย ภูเก็ต 534 ราย นครปฐม 484 ราย นครราชสีมา 479 ราย สมุทรสาคร 478 ราย ปทุมธานี 397 ราย
ขณะที่ การกระจายวัคซีนในประเทศ พบผู้ที่ได้รับผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 เพิ่มเติม จำนวน 45,829 ราย ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 33,702 ราย และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 142,389 ราย รวมสะสมผู้ได้รับวัคซีนแล้ว 120,924,813 ราย แบ่งเป็น ผู้ได้รับเข็มที่ 1 จำนวน 52,956,901 ราย คิดเป็น 76.1% ผู้ได้รับเข็มที่ 2 จำนวน 49,357,630 ราย คิดเป็น 71% และผู้ได้รับเข็มที่ 3 จำนวน 18,610,282 ราย คิดเป็น 26.8%
โดยมีผลการให้บริการวัคซีนโควิดกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จากเป้าหมาย 12,711,943 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 10,508,486 ราย คิดเป็น 82.7% เข็มที่สอง 9,903,638 ราย คิดเป็น 78% เข็มที่สาม 3,518,378 ราย คิดเป็น 27.7% และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จากเป้าหมาย 5,150,082 ราย ฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 280,803 ราย คิดเป็น 5.5% เข็มที่สอง 12,308 ราย คิดเป็น 0.2%
เดินทางเข้าไทย ติดเชื้อใหม่ 168 สะสมเดือนนี้ 3.04 พันราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เดินทางมาจาต่างประเทศ 168 ราย ทั้งหมดเดินทางเข้ามาแบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 80 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 57 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 10 ราย และลักลอบ 1 ราย
ทำให้ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ เดือน ก.พ. สะสมรวม 3,042 ราย จำแนกเป็น แบบไม่ต้องกักตัว (Test and Go) 636 ราย แบบแซนด์บ็อกซ์ (Sandbox) 2,197 ราย แบบกักตัว (Quarantine) 209 ราย ทั้งหมดนี้คิดเป็นอัตราการติดเชื้อ 1.01%
ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2.01 ล. รวมสะสม 420.16 ล้านราย
ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลกพบผู้ป่วยเพิ่ม 2,017,348 ราย รวม 420,165,628 ราย อาการหนัก 84,534 ราย หายป่วย 343,938,821 ราย เสียชีวิต 5,881,128 ราย โดยสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยเพิ่ม 103,377 ราย รวม 79,915,734 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 2,184 ราย รวม 955,497 ราย อินเดีย พบเพิ่ม 24,707 ราย รวม 42,779,022 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 496 ราย รวม 510,937 ราย บราซิล พบเพิ่ม 129,266 ราย รวม 27,941,476 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,129 ราย รวม 641,997 ราย ส่วนไทยอยู่ในอันดับที่ 31 ของโลก
โควิดวันนี้ ติดเชื้อนิวไฮอีก 18,066 เสียชีวิต 27 หายป่วย 12,511 ราย
อนึ่งก่อนหน้านี้ เวลา 08.06 น. สำนักข่าวอิศรารายงานสถานการณ์โควิดประจำวันว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 18,066 ราย ซึ่งยอดติดเชื้อดังกล่าวเป็นยอดติดเชื้อสูงสุดในรอบ 7 วันหรือว่านิวไฮ ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อใหม่นั้บตั้งแต่ปี 2565 ทั้งสิ้น 451,042 ราย ติดเชื้อสะสมตั้งแต่มีสถานการณ์ 2,674,477 ราย โดยแบ่งออกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศ 17,898 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 168 ราย มีผู้ติดชื้อในเรือนจำ 83 ราย มีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 27 ราย ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 22,565 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อเข้าข่ายหรือ ATK อยู่ที่ 9,956 ราย
ขณะที่ข้อมูลการรักษานั้นพบว่ามีผู้หายป่วยรายใหม่รวม 12,511 ราย ทำให้นับตั้งแต่ต้นปี 2565 มีผู้หายป่วยรวมแล้ว 333,829 ราย มีผู้ป่วยที่กำลังรักษา 149,589 ราย เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 755 ราย และเป็นผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 182