ปคบ. แถลงจับกุม กรรมการผู้มีอำนาจบริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด หลอกขายถุงมือยางต่างชาติ เสียหาย 184 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ไม่พบโรงงาน-เป็นป่าโล่งเนื้อที่พันไร่ เผยมีผู้เสียหายอีก 2 รายจากฮ่องกง-ฝรั่งเศส แจ้งความที่ดีเอสไอ ส่วนที่สหรัฐฯมีอีก 1 ราย เบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อม เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายเอ อายุ 50 ปี กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทเมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1852-1853 /2564 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลอันเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ” โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ที่อาคารแห่งหนึ่ง บริเวณถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม.
สืบเนื่องจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐอเมริกาได้ประสานกับตำรวจไทยทำการสืบสวนผู้เสียหายที่ถูกบริษัทในไทยหลอกขายถุงมือยาง โดยผู้เสียหาย คือ บริษัทในไมอามีบีช , รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องการที่จะซื้อถุงมือยางสังเคราะห์ (Nitrile Glove) แบบไม่มีแป้ง จำนวน 2 ล้านกล่อง จึงติดต่อผ่านบริษัทสัญชาติจีนบริษัทหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการเกี่ยวกับการค้า นำเข้า ส่งออก และบริการรับจัดหาสินค้าต่าง ๆ รวมทั้งถุงมือยาง ให้กับลูกค้าทั่วโลก ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้แจ้งให้ผู้เสียหายทราบว่า สามารถติดต่อหาผู้ผลิตและจำหน่ายถุงมือให้ได้แล้ว คือ บริษัทของ นายเอฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยาง มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ต.ท่าเกวียน อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว โดยได้มีการวางเงินมัดจำ 40% ของค่าถุงมือ คิดเป็นเงิน 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 184 ล้านบาท จากวงเงินทำสัญญา 15.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจะแบ่งชำระ 12 งวด งวดแรก 9 ม.ค. 2564 – งวดสุดท้าย 21 มี.ค. 2564
-
เปิดตัว 2 เอกชนไทย CNN ตีแผ่คดีส่งออกถุงมือยางใช้แล้ว- SkyMed แจงถูกแอบอ้างชื่อสินค้า
-
CNN ตีแผ่ถุงมือยางใช้แล้ว ส่งออกจากไทยเข้าสหรัฐฯหลายสิบล้านชิ้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 ผู้เสียหายได้โอนเงินเข้าบริษัทที่กระทำผิดในไทย คือ บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด เป็นเงิน 184,759,900 บาท เพื่อเป็นเงินมัดจำค่าถุงมือยาง โดยนัดหมายจะส่งมอบถุงมือยางในเดือนมกราคม 2564 ซึ่งบริษัทผู้เสียหายได้พยายามติดต่อทวงถาม และเดินทางมาไทยเพื่อตรวจสอบโรงงานว่ามีอยู่จริงหรือไม่ และพบข้อเท็จจริงว่าไม่มีโรงงานหรือมีการรับถุงมือยางมาแต่อย่างใด ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงได้มอบอำนาจร้องทุกข์กล่าวโทษที่ ปคบ.
หลังจากรับแจ้งความแล้ว ปคบ.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโรงงานและคลังเก็บสินค้าของบริษัทผู้ต้องหา ในจังหวัดสระแก้ว พบเพียงพื้นที่ป่าโล่ง เป็นที่ สปก. ประมาณ 1,000 ไร่ ไม่มีการก่อตั้งโรงงานหรือมีอาคารสำนักงาน ส่วนที่ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่มีข่าวเมื่อกลางปีที่ผ่านมาว่ามีการเปิดโรงงานขนาดใหญ่ เมื่อตรวจสอบพบว่า เป็นลักษณะโรงงานที่ปิดตาย ไม่มีการประกอบกิจการ สอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พบว่าไม่ได้ประกอบกิจการใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อพิจารณาในความผิดจึงได้ดำเนินการสอบสวน และเนื่องจากเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร พนักงานสอบสวนจึงได้ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอให้เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ดำเนินการสอบสวนร่วมกันมากระทั่งขอศาลออกหมายจับผู้กระทำผิด กระทั่งจับกุมได้เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 โดยผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า บริษัทผู้ต้องหายังได้ถูกดำเนินคดี โดยทางผู้เสียหายในประเทศฝรั่งเศส 1 คดี ผู้เสียหายที่ฮ่องกง 1 คดี ซึ่งได้แจ้งความดำเนินคดีต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่สหรัฐอเมริกาได้ประสานมาว่า มีผู้เสียหายอีก 1 รายที่กำลังจะแจ้งความ ความเสียหายประมาณหลักร้อยล้านบาท ถามว่าจะมีความเสียหายที่อื่นอีกหรือไม่ ก็มีความเป็นไปได้
คดีถุงมือยาง บ.เมืองเศรษฐกิจฯ - บ.แพดดี้ฯ ไม่เกี่ยวข้องกัน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวยืนยันว่า คดีนี้มีความเชื่อมโยงกับกรณีที่สำนักข่าว CNN นำเสนอเพียงแค่การแอบอ้างชื่อเท่านั้น เนื่องจากถุงมือที่ บริษัท แพดดี้ เดอะรูม เทรดดิ้ง จำกัด นำไปหลอกขาย มีการอ้างชื่อยี่ห้อ SKYMED ซึ่งเป็นชื่อที่บริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด ได้จดทะเบียนไว้
“ถุงมือยางยี่ห้อ SKYMED จดทะเบียนโดยบริษัท เมืองเศรษฐกิจพอเพียง จำกัด แต่ทาง บริษัท แพดดี้ เดอะรูม เทรดดิ้ง จำกัด เอาชื่อไปใช้ พยานหลักฐานที่เรามี ทั้ง 2 บริษัทยังแยกกันอยู่ ไม่เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่มีการแอบอ้างใช้ชื่อกันเท่านั้น” พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนายลูอิส ซิสคิน ที่เป็นผู้เสียหายในคดีถุงมือยางกับบริษัทแพดดี้ เดอะรูมฯ ที่ได้แจ้งความไว้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) อยู่ระหว่างทำสำนวนคดี คาดว่าใกล้ดำเนินการเสร็จแล้ว ซึ่งคดีนี้คนไต้หวันเป็นผู้ต้องหา ปัจจุบันอยู่ต่างประเทศ คาดว่าหากแล้วเสร็จ เราคงออกหมายจับและทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนต่อไป
ส่วนคดีที่นายลูอิส เป็นผู้ต้องหา ลักพาตัวคนไต้หวันนั้น ถูกดำเนินคดีที่ สน.ทองหล่อ และมีการสอบสวนผู้ต้องหา จนสรุปสำนวนไปยังอัยการ แต่เนื่องจากว่าอัยการสั่งสอบเพิ่มเติม แล้วสำนวนคดีไม่สามารถฟ้องได้ทัน ทำให้ต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาไป ส่วนเหตุผลที่ดำเนินการไม่ทัน เนื่องจากอัยการสั่งให้สอบคนไต้หวันเพิ่ม ในฐานะผู้เสียหายคดีนี้ แต่เนื่องจากเขาบินกลับต่างประเทศไปแล้ว ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถสอบสวนได้ โดยรายละเอียดขอให้สอบถาม สน.ทองหล่อ
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณี บริษัท แพดดี้ เดอะรูม เทรดดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทที่ตำรวจ ปคบ.ได้ไปเข้าค้นเมื่อต้นปี 2564 ที่ไปเจอถุงมือยางมือสอง ซึ่งมีการดำเนินคดีไปแล้ว ปรากฎว่าเราดำเนินคดีกับบริษัท และ ดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทที่เป็นคนจีน ตอนนี้หนีไปต่างประเทศแล้ว นอกจากนั้นยังดำเนินคดีกับพนักงานบริษัทที่เป็นผู้จัดการ ซึ่งศาลตัดสินลงโทษจำคุก 8 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 4 ปี
#กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage