อภิปรายงบปี 65 วันที่สอง พิจารณาแล้ว 8 ชั่วโมง ลงมติผ่านไป 6 มาตรา ‘พิธา - พิสิฐ’ บี้ตัดงบ ‘คลัง’ ช่วยพัฒนาเมียนมา ส.ส.ก้าวไกล จี้ลดงบ กต. 10% เหตุซื้อของฟุ่มเฟือย ‘พิเชษฐ์’ ขู่รออภิปรายไม่ไว้วางใจ ซัดนโยบายยางซื้อแพง-ขายขาดทุน
------------------------------------------------------------------
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2564 สภาผู้แทนราษฎร มีวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบานท ในวาระที่ 2 และ 3 ที่มีกำหนดการพิจารณาระหว่างวันที่ 18-20 ส.ค.2564 เข้าสู่การอภิปรายเป็นวันที่ 2 โดยตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ประชุมเริ่มต้นพิจารณา มาตรา 9 กระทรวงการคลัง วงเงิน 10,948,797,100 บาท
@ ‘พิธา - พิสิฐ’ บี้ตัดงบ ‘คลัง’ ช่วยพัฒนาเมียนมา
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.ก้าวไกล ในฐานะ กมธ. อภิปรายขอปรับลดงบประมาณสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมแสดงความเสียใจที่เมียนมากำลังมีปัญหาเรื่องผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย จากเหตุการณ์รัฐประหารในประเทศ และสิ่งที่รัฐบาลไทยควรทำคือ สร้างช่องทางการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม โดยไม่ผ่านกองทัพ จึงจำเป็นต้องตัดลดงบประมาณส่วนนี้ด้วยเหตุผล 3 ข้อคือ 1.มิติเศรษฐกิจที่ชายแดนแม่สอด-เมียวดียังมีสถานการณ์สู้รบบริเวณชายแดน และจีดีพีพม่าปีนี้ติดลบ 18% การไปช่วยเหลือรัฐบาลเมียนมาจึงไม่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง 2.มิติหลักสากล ที่ทั้งสหประชาชาติและธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย ไม่มีหน่วยงานใดอนุญาตใดให้มีการเบิกจ่าย และชะลอโครงการช่วยเหลือพัฒนาเมียนมา หลังเหตุการณ์รัฐประหาร แต่การที่กระทรวงการคลังยังสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารเมียนมาเป็นการส่งสัญญาณว่าเราให้คุณค่ากับการปกครองแบบใด จึงต้องขอปรับลดงบกระทรวงคลัง
เช่นเดียวกับ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธาน กมธ. อภิปรายขอตัดงบกระทรวงการคลัง 5% จากหลายสาเหตุ โดยเฉพาะแนวคิดที่กำลังจะทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย เพื่อที่กระทรวงการคลังจะได้หารายได้เก็บภาษีจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยกระทรวงกำลังจะศึกษาเรื่องนี้และยังได้เชิญบริษัทบุหรี่ไฟฟ้ามาให้ข้อมูลและร่วมเสวนา ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าทางการจะทำเช่นนี้ และขณะนี้มีการพูดกันว่าปลอดภัยกว่าบุหรี่ธรรมดา แต่ในทางกลับกันข้อมูลจากประเทศอเมริกากลับระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้คนสูบหรี่มากขึ้น นอกจากนี้ ขอคัดค้านในส่วนของงบปะมาณช่วยเหลือเพื่อนบ้าน จำนวน 589 ล้านบาท โดยให้เป็นเงินที่นำไปให้ผู้รับเหมาสร้างถนน สะพาน ตนเสียดายเงิน และขอแนะนำให้กระทรวงการคลังควรให้เป็นทุนการศึกษามากกว่า ซึ่งจะเป็นผลได้ต่อไทยและเพื่อนบ้านมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมลงมติเห็นชอบ 254 ต่อ 79 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก
(นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล)
@ ส.ส.ก้าวไกล จี้ลดงบ กต. 10% เหตุซื้อของฟุ่มเฟือย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการพิจารณามาตรา 10 งบประมาณของกระทรวงการต่างประเทศ วงเงิน 3,744.94 ล้านบาท นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายขอให้ปรับลดงบ 10% โดยเห็นว่า มีการตั้งงบประมาณใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น และมีการจัดซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกให้กับเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ทั้งที่ข้าราชการทูตนั้นไม่ได้เหนือกว่าข้าราชการคนอื่น จึงไม่จำเป็นต้องมีของอำนวยความสะดวก และการตั้งงบประมาณลักษณะนี้ ไม่เห็นแก่ประชาชนในสถานการณ์ขณะนี้ ทั้งนี้พบว่ามีรายการที่เสนอซื้อ เช่น ตู้แช่ไวน์ , โซฟารับแขก ชุดละ 7-8 หมื่นบาท , เครื่องฟอกอากาศ , เครื่องชงกาแฟ , เก้าอี้จัดเลี้ยง เป็นต้น โดยเห็นว่าทูตเป็นข้าราชการเทียบเท่าอธิบดีไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย และไม่ต้องการเกิดข้อครหาจากข้าราชการคนอื่น
ด้านนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับการจัดสรรงบประมาณ 3,956.19 ล้านบาทเศษ ก่อนที่ กมธ.จะปรับลดเหลือ 3,744.94 ล้านบาทเศษ ซึ่งปรับลดไปแล้ว 5% ส่วนงบประมาณที่ปรับลดลงมานั้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ถือว่าลดลงและเป็นตัวเลขที่ถูกปรับลดมากที่สุดกระทรวงหนึ่ง ซึ่ง กมธ.เสียงข้างมากขอยืนตามที่ได้แก้ไขไปข้างต้น
ต่อมาที่ประชุมลงมติ 246 ต่อ 98 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก
(นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย)
@ ‘พิเชษฐ์’ ขู่รอซักฟอกนโยบายยางซื้อแพง-ขายขาดทุน
เมื่อเวลา 17.30 น.นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายขอการจัดสรรงบประมาณ มาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วงเงิน 34,684.92 ล้านบาท โดยขอปรับลดงบประมาณลง 7% พร้อมระบุว่า วันนี้กระทรวงอยู่คู่กับประเทศไทยมานาน แต่เหมือนไม่มีกระทรวง เพราะฝนตก น้ำท่วม ก็ยังท่วมอยู่ เวลาแล้งก็ยังแล้ง ขาดน้ำอยู่ ซึ่งเกษตรกรก็ดิ้นรนปลูกข้าว ปลูกข้าวโพดจนได้ผลผลิต แต่ข้าวตอนนี้เกวียนละ 5,000 บาท ไม่มีใครมารับซื้อ โรงสีไม่มีเงินซื้อ ขายใครก็ไม่ซื้อ ไหนจะสถานการณ์โควิด ขณะที่ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เมล็ดพันธุ์ ราคาขึ้นหมด ไม่มีวัสดุการเกษตรอันไหนราคาลดลง เช่นเดียวกับการปศุสัตว์ หมู เป็ด ไก่ ราคาตกหมด แต่อาหารสัตว์ราคาขึ้น
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี เป็นประธานนโยบายยางพาราแห่งชาติ มี รมว.เกษตรเป็นคณะกรรมการนโยบายยาง มีการล้างสต็อคยาง 104,700,000 กิโลกรัม เป็นเงิน 3,900 ล้านบาท สรุปแล้วเฉลี่ยกิโลกรัมละ 37.26 บาท แต่ตอนซื้อเข้ามีการประกันรายได้ประกันราคาที่กิโลกรัมละ 60 บาท แต่วันนี้ขายยางพารา 17 โกดัง คละคุณภาพราคากิโลกรัมละ 37.26 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้กู้มาจากธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขายขาดทุน และต้องนำงบประมาณไปชดเชยธนาคาร เรื่องนี้ต้องเจอกันที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุจริตเชิงนโยบาย ขายต่ำกว่าราคามาตรฐานที่ควรจะเป็น
“วันนี้บอกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่าอย่าประมาท อย่าละเลยพี่น้องเกษตรกร อย่าคิดว่าการกระทำของท่านทุกหน่วยงาน ทุกกรมจะไม่มีใครตรวจสอบ เดี๋ยวเราไปพบกันที่อภิปรายไม่ไว้วางใจ คดีทุจริต” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ต่อมานายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธาน กมธ. กล่าวว่า การพิจารณาในชั้น กมธ.ได้เชิญกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาชี้แจงในหลายประเด็น กมธ.ได้พิจารณาเรื่องรายละเอียดงบประมาณของกระทรวงแล้ว และเป็นการปรับลดต่ำกว่าปีก่อน 11.98% โดยขอยืนยันตัวเลขที่ปรับลดดังกล่าว
ทั้งนี้ที่ประชุมลงมติ 232 ต่อ 111 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการพิจารณางบประมาณฯ วันที่สอง ได้ใช้เวลาอภิปรายจำนวนมาก โดยตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงเวลา 18.00 น. รวม 8 ชั่วโมง ที่ประชุมได้พิจารณาได้เพียง 6 มาตรา และอยู่ระหว่างพิจารณามาตรา 15 กระทรวงคมนาคม โดยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีผู้อภิปรายรวม 5 คน คนละประมาณ 7 นาที จะใช้เวลาครึ่งชั่วโมงเศษในการพิจารณา
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/