"...ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของการสู้รบกับเชื้อไวรัสโควิด ศึกนี้จึงเป็นอีกครั้งที่จะพิสูจน์ว่า ภูมิคุ้มกันสังคมของไทยเราเป็นของจริงที่ยั่งยืนหรือไม่ ในปีที่แล้วหรือแม้แต่ปีนี้อาจเป็นการซ้อมใหญ่ในสงครามโควิด ที่ยังไม่ทราบว่าใครจะแพ้ชนะเด็ดขาดระหว่างพวกเรากับเชื้อโรคโควิด 2019 เช่นเดียวกับศึกเศรษฐกิจ และ ศึกสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติต่างๆ ตลอดจนความขัดแย้งแตกต่างทางความคิดในสังคม..."
...........................
“แม้จะชนะในศึกครั้งที่แล้ว ก็ไม่ควรประมาท เพราะศัตรูก็เรียนรู้ไม่แพ้กัน”
การกลับมาอีกครั้งของโควิด 2019 ในปลายปี 2020 และข้ามสู่ 2021 ในประเทศไทยนั้น สะท้อน ความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ไม่แน่นอน ซับซ้อน และ คลุมเครือ
โดยแท้จริงแล้ว การเกิดโรคเองจากในประเทศมีความเป็นไปได้น้อยมาก เขื้อที่มีจึงเป็นเชื้อนำเข้า และ กระจายออกจากแหล่งรวมคน โดยเฉพาะส่วนที่ละเมิดแนวทางและมาตรการมี่พึงปฏิบัติ ในช่วงที่ผ่านมาการละเมิดเหล่านี้ อาจทำกันเป็นปกติ แต่เชื้อจากภายนอกยังไม่เข้ามา ต่อมาการที่เชื้อเข้ามาในประเทศจึงทำให้เกิดการกระจายแพร่หลาย และการควบคุมกำกับแบบจำกัดเริ่มดำเนินการได้ยากลำบากขึ้น
เป็นที่ยอมรับว่า มีแรงกดดันทั้งความกังวลต่อการขยายตัวของผู้รับเชื้อและผลต่อขีวิตความเป็นอยู่ด้านการทำมาหากิน ซึ่งเป็นภาวะคุกคามต่อสังคมที่ต้องการการแก้ไขอย่างยิ่ง รัฐบาลได้ประกาศการกำกับอย่างน้อยหนึ่งเดือนนับจากนี้ในมาตรการที่เช้มข้น ถือเป็นวาระที่ต้องร่วมมือกันอย่างแข็งขันอีกครั้งหนึ่ง
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของการสู้รบกับเชื้อไวรัสโควิด ศึกนี้จึงเป็นอีกครั้งที่จะพิสูจน์ว่า ภูมิคุ้มกันสังคมของไทยเราเป็นของจริงที่ยั่งยืนหรือไม่ ในปีที่แล้วหรือแม้แต่ปีนี้อาจเป็นการซ้อมใหญ่ในสงครามโควิด ที่ยังไม่ทราบว่าใครจะแพ้ชนะเด็ดขาดระหว่างพวกเรากับเชื้อโรคโควิด 2019 เช่นเดียวกับศึกเศรษฐกิจ และ ศึกสิ่งแวดล้อม ภัยพิบัติต่างๆ ตลอดจนความขัดแย้งแตกต่างทางความคิดในสังคม
สิ่งที่น่าจะถือเป็นโอกาส ในการปฏิบัติทางสังคมของทุกคน คือ การสุขอนามัยส่วนบุคคลที่เข้มแข็ง การร่วมในมาตรการทางสังคมเพื่อการป้องกันโรคจริงจัง การร่วมสนับสนุนด้านต่างๆในกิจกรรมควบคุมและการรักษาโรคทั้งตามภารกิจและส่วนที่จะพึงช่วยได้
ทุกคนคือนักรบในสนามศึกครั้งนี้ และที่หนักหน่วงมากยิ่งกว่า คือ ศึกเศรษฐกิจ การทำมาหากินที่ฝืดเคือง การขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีวิต เช่น อาหารการกิน เป็นต้น ซึ่งต้องช่วยกันหาทางออก
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำประสบการณ์การดำเนินการที่สำเร็จครั้งที่แล้วมาเป็นบทเรียนคาดว่าในระยะสี่สัปดาห์ หรือ ทั้งเดือนมกราคมนี้ ในปีที่แล้วเมื่อเกิดการระบาดต่อเนื่อง ใครจะคิดได้ว่าอัตราการระบาดจะถูกควบคุมได้ ตอนนั้นเราต่างนั่งนับจำนวนผู้ได้รับเชื้อเพิ่มในแต่ละวัน จากนับร้อย มาเป็นนับต่ำร้อย นับสิบ จนถึงเลขตัวเดียว และ ดีใจในวันที่เป็นศูนย์เกินสองสัปดาห์ และ หลายเดือนจนในที่สุดไม่มียาวนานหลายเดือน
สัญญาณการต่อสู้ครั้งใหม่เริ่มอีกครั้ง เริ่มตอนต้นปีของปีใหม่ เป็นสัญญาณเตือนให้ตระหนักแต่ไม่ตระหนกและปฏิบัติตามมาตรการที่สำคัญ แม้จะชนะในศึกครั้งที่แล้ว ก็ไม่ควรประมาท เพราะศัตรูก็เรียนรู้ไม่แพ้กัน จึงเจาะโจมตีจุดอ่อนที่ไม่แข็งแรง แสวงประโยชน์ หรือการพนันบันเทิงอบายมุข ตามที่เกิดขึ้น อย่างน่าเสียดาย
เป็นที่ประจักษ์ว่า พลังของสังคมไทยมีชื่อเสียงทั่วโลกมาแล้ว และนานาชาติชื่นชม ชมเชย ยอมรับ จึงต้องพร้อมร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจังอีกครั้ง
ที่มา : https://web.facebook.com/745410826/posts/10159252375925827/?d=n&_rdc=1&_rdr