“...ขอแสดงความเคารพอย่างสูง ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน สำหรับกำลังใจและความปรารถนาดี ที่มอบให้มาโดยตลอด…”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 กันยายน 2565 หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่
โดยผลออกมามติ 6 ต่อ 3 เสียง เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นยังคงสามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้เนื่องจากว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าให้นับเวลาของพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีตามระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้คือวันที่ 6 เม.ย. 2560 ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ครบ 8 ปี ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่
เริ่มนับปี 60! ประยุทธ์ จันทร์โอชา 'รอด' นั่งตำแหน่งนายกฯ ต่อ
ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha’ โพสต์ข้อความหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่รัก ขอแสดงความเคารพอย่างสูง ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคน สำหรับกำลังใจและความปรารถนาดี ที่มอบให้มาโดยตลอด
ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสได้พิจารณาและตระหนักมากขึ้นว่า จะต้องใช้เวลาอันมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดของรัฐบาล ในการติดตามและผลักดันโครงการสำคัญต่างๆ มากมาย ที่ได้ริเริ่มเอาไว้ ให้เดินหน้าและเสร็จสมบูรณ์ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับบ้านเมือง และสร้างอนาคตให้กับลูกหลานของเรา
โดยตนจะใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวด และใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นในภารกิจการพลิกโฉมประเทศ ตามกลยุทธ์ 3 แกน ที่เคยกล่าวไว้ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
สำหรับเรื่องการเมือง และประเด็นต่างๆ รายวันนั้น จะมอบให้เป็นหน้าที่ของท่านอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป
เรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง ตามกลยุทธ์ 3 แกน ก็คือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญๆ ของประเทศให้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งถนน ทางรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ตลอดจนโครงการอื่นๆ ที่เป็นพื้นฐานสำคัญ ในการสร้างอนาคตของประเทศ อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับประชาชนทั่วประเทศในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำมาค้าขาย การเรียนรู้ และอื่นๆ ด้วยการเข้าถึงระบบออนไลน์ได้อย่างทั่วถึง
โครงการต่างๆ เหล่านั้น เป็นโครงการที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนริเริ่มและดำเนินการได้ ในสเกลที่ใหญ่และบูรณาการขนาดนี้ โดยได้เริ่มต้นโครงการต่างๆ ด้วยความรอบคอบ เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไป จนบรรลุผลสำเร็จ และเปิดให้บริการพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ดังนั้นแม้ว่าบางโครงการจะไปเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเวลาของรัฐบาลอื่น ก็จะต้องสามารถเดินหน้าไปได้ด้วยความเรียบร้อย ไม่ติดขัด หรือมีอุปสรรคอันใด
เพราะโครงการต่างๆ เหล่านั้น มีความสำคัญอย่างที่สุด เป็นเครื่องรับประกันที่จะทำให้เรามั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะสามารถเดินหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง และเปิดโอกาสให้คนนับล้านๆ คน สามารถสร้างความรุ่งเรืองให้กับตัวเองได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความท้าทาย โครงการต่างๆ เหล่านั้น ยิ่งมีความสำคัญมากเป็นทวีคูณ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถพลิกฟื้นการทำมาหากินและสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ ในวิถีทางที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต ด้วยการเปิดตลาดใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับการค้าขายผลผลิตทางการเกษตรด้วยราคาที่สูงขึ้น การเปิดช่องทางการเข้าถึงลูกค้าใหม่ๆ สำหรับสินค้าและบริการอื่นๆ การช่วยให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ถูกลง ตลอดจนช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังช่วยกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ได้อีกด้วย
ทั้งนี้ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา และในหลายๆ ประเทศ การลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์นั้น เป็นจุดพลิกผันสำคัญในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศนั้นๆ และในทิศทางเดียวกัน เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เรากำลังทำอยู่นี้ เสร็จสมบูรณ์ ก็จะสามารถพลิกโฉมประเทศไทย และนำพาประเทศของเรา ให้ก้าวไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของคนไทยทุกคน ในวันข้างหน้าสืบเนื่องไป
วันนี้...เราเดินหน้ามาไกลและถูกทิศทางแล้ว เราต้องช่วยกันทำให้เสร็จ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 3 ต.ค. 2565 นี้ วาระงานของพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี เริ่มด้วย 13.30 น. นายอาร์มัน อิสเซตอฟ (H.E. Mr. Arman Issetov) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐคาซัคสถานประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
และ เวลา 14.30 น. นางสาวแอนเจลา เจน แม็กดอนัลด์ (H.E. Ms. Angela Jane Macdonald) เอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเข้ารับหน้าที่ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล