'พล.อ.ประยุทธ์' รอด ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ เหตุศาล รธน.วินัจฉัยนับเวลาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2565 ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวที่ 20/2565 ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาเรื่องพิจารณาที่ 17/2565 คดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่
โดยมีตุลาการผู้อ่านคำวินิจฉัยจำนวน 3 ราย ได้แก่นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม,นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายปัญญา อุดชาชน
สำหรับผลการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยด้วยมติ 6 ต่อ 3 เสียง เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์นั้นยังคงสามารถดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปได้เนื่องจากว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าให้นับเวลาของพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีตามระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีผลบังคับใช้คือวันที่ 6 เม.ย. 2560
ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์จึงยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ครบ 8 ปี ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ และมาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่
@เผยชื่อตุลาการ 6 ต่อ 3 เสียงเห็นชอบ 'บิ๊กตู่' นั่งนายกฯต่อ
โดยมีรายงานข่าวว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 6 เสียงต่อ 3 เสียงที่ลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ประกอบด้วย 1.นายวรวิทย์ กังศศิเทียม, 2.นายปัญญา อุดชาชน 3.นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม 4.นายจิรนิติ หะวานนท์ 5.นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, และ 6.นายวิรุฬห์ แสงเทียน
ส่วนอีก 3 เสียงข้างน้อย ลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ พ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย 1.นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์, 2.นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ์, และ 3.นายนภดล เทพพิทักษ์
ที่มาภาพปกจาก บีบีซี https://www.bbc.com/