"...เหตุการณ์ 14 ตุลาคม ไม่ได้เป็นต้นกำเนิดโดยตรงให้กับการเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ของประเทศที่เกิดขึ้นตามหลังมา แต่เหตุกาณ์ 14 ตุลาคม เหมือนกับการเปิดช่องขนาดใหญ่ ที่ไม่มีอำนาจใดไปปิดกั้นได้จวบจนถึงปัจจุบันนี้ ช่องว่างนี้เปิดทางพลังสร้างสรรค์ของคนไทยที่ถูกปิดกั้นมานานสามารถแสดงพลังอำนาจของมันได้ในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน การธนาคาร การผลิตอุตสาหกรรม เกษตร การค้าปลีก-ส่ง การเมืองในส่วนกลาง ท้องถิ ...
“...พรรคเพื่อไทยมีพรรคก้าวไกล ขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญ แม้ตอนนี้พรรคก้าวไกลจะไม่ได้มีกระแสอะไรเด่นๆชูขึ้นมาสู้พรรคเพื่อไทยในเวลานี้ก็ตาม แต่จากที่พรรคก้าวไกลชูอุดมการณ์เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของประเทศ ทำให้มีกลุ่มคนที่พร้อมเลือกพรรคก้าวไกลอย่างเหนียวแน่น ซึ่งประเมินคร่าวๆ พรรคก้าวไกลจะได้คะแนนเสียงประมาณ 5-6 ล้านเสียงเป็นอย่างน้อย และในมุมกลับกัน พรรคก้าวไกลก็จะไม่ได้คะแนนเสียงจากคนที่มีอุดมการณ์กลางๆ ...
เรื่องการเปิดเผยข้อมูล พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารนั้นตั้งแต่มีฉบับแรก ปี 2540 เป็นต้นมา ก็มีพรรคการเมืองบางพรรค รับปากว่าจะเป็นกฎหมายสำคัญ เป็นนโยบายสำคัญ จนบัดนี้ 26 ปีก็ยังไม่ได้แก้ รับปากแล้ว ผมเห็นว่าพอเป็นรัฐบาลปุ๊บ เห็นลืมทุกที เพราะว่าพอเปิดปั๊บมันเจอผลประโยชน์ตัวเอง
"...เฉพาะ 8 คดีเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและฮั้วประมูล มีมูลค่าความเสียหายรวมกัน ราว 5.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบต่อประชาชนในเรื่องที่อยู่อาศัย ความปลอดภัยในชีวิต สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ สุขอนามัยของเด็ก ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ เป็นต้น..."
"...ท่ามกลางหลากหลายปัญหาที่ระบบเศรษฐกิจไทยเผชิญอยู่ในเวลานี้และที่จะเผชิญในอนาคต ผมคิดว่านโยบายเศรษฐกิจจะต้องให้ความสำคัญกับคำสามคำ คือ productivity (ผลิตภาพ) immunity (การสร้างภูมิคุ้มกัน) และ inclusivity (การกระจายผลประโยชน์อย่างทั่วถึง) เพราะทั้งสามเรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของระบบเศรษฐกิจไทย และมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้น และแก้ไขยากขึ้นมากถ้าเราปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้ไหลลงไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบจัดการ..."
"...พูดอีกนัยหนึ่ง การแจกเงินโดยผู้รับไม่ต้องออกเหงื่อออกแรงให้เกิดโภชน์ผลการผลิตใดๆ คือการบ่มเพาะนิสัย 'หวังพึ่ง' ให้กับชาวบ้าน ดังที่คุณโภคิน พลกุล คนเคยรักพรรคเพื่อไทย เตือนไว้อย่างมีน้ำหนักว่า “การขับเคลื่อนนโยบายทั้งระบบ ไม่ใช่ประชานิยมแบบที่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน ต้องไม่ทำให้ประชาชนเป็นขอทาน” วิธีการแจกเงินแบบให้เปล่า จึงเท่ากับดูถูกประชาชนว่าไม่มีน้ำยาที่จะพึ่งพาตนเอง ในความเป็นจริง ประชาชน ...
"...กลยุทธ์ในการชนะใจตนเอง ไม่โทษตัวเอง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น เริ่มต้นจากการฝึกฝนให้รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานการณ์อย่างไร รับรู้ความจริงที่จะต้องเผชิญ หาแนวทางที่จะรักษาใจโดยเร็ว กลับมารวบรวมความคิด พร้อมทั้งไม่เปรียบเทียบตัวเรากับคนอื่น และที่สำคัญ เคารพในความเป็นตัวของเราเอง..."
“... ประเทศไทยมีพื้นที่ทะเลเป็นแหล่งผลิตทางธรรมชาติเป็นทุนเดิม แต่ปัจจุบันอาหารทะเลที่มีคุณภาพกลับหาได้น้อยและราคาสูงขึ้น จนทำให้คนไทยส่วนใหญ่เข้าไม่ถึง จนต้องนำเข้าอาหารทะเลแช่แข็งจากต่างประเทศมาป้อนตลาดคนไทยในราคาถูกและคุณภาพต่ำ…”
"...ในที่สุดแล้ว ระบบบำนาญแห่งชาติ จะต้องมีระบบที่จูงใจให้รับผิดชอบมีการออมเงินในช่วงวัยทำงาน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่ไม่มีโอกาสตั้งแต่เกิด ก็ควรจะต้องมีระบบรองรับ ไม่ให้เป็นคนยากจนอนาถา ซึ่งหลายประเทศเช่น ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น สามารถเป็นเป้าหมายตัวอย่างที่ดีสำหรับประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบสวัสดิการที่มาจากหลักการพื้นฐานของ “การเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุข” และ “การออม” ที่ทุกคนในวัยทำงานควรถูกบังคับให้อยู่ในระบบ ...
"...นโยบายเสกเงินง่ายๆ ใส่กระเป๋าคน เป็นการเพิ่มปริมาณเงิน คนที่ได้มามักใช้หมด และเป็นเพียงการรวยชั่วคราวซึ่งเป็นมายา เพราะไม่กี่วันราคาของก็เพิ่มตาม เรียกว่าเงินเฟ้อ..."