เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา สั่งถอนชื่อ 'ประเสริฐ นิลเนตร์' ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 21 พรรคชาติพัฒนากล้า เหตุเป็นบุคคลล้มละลาย มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2566 ศาลฎีกามีคำสั่งถอนชื่อ นายประเสริฐ นิลเนตร์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนากล้า ลําดับที่ 21 หรือผู้คัดค้าน กรณีถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง ขอให้ถอนชื่อผู้คัดค้านเนื่องจากผู้คัดค้านเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้คัดค้านจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในคําร้องและเอกสารพยานหลักฐานท้ายคําร้องว่า ศาลล้มละลายกลางมี ธันวาคม 2565 ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.931/2565 ของศาลล้มละลายกลาง ปัจจุบันผู้คัดค้านยังไม่พ้นจากการล้มละลาย
จึงมีคําสั่งให้ถอนชื่อนายประเสริฐ นิลเนตร์ ผู้คัดค้าน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนากล้า ลําดับที่ 21 ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส. 4/24) ลงวันที่ 14 เมษายน 2566
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) นำเสนอรายละเอียดคำสั่งศาลฎีกา ดังนี้
ความคดีเลือกตั้ง
ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ร้อง
นายประเสริฐ นิลเนตร์ ผู้คัดค้าน
เรื่อง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ขอให้ถอนชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ)
ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 พรรคชาติพัฒนากล้ายื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ จํานวน 39 คน พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครรับเลือกตั้งตลอดจนเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ร้องตรวจสอบแล้วได้ประกาศรายชื่อผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนากล้า ลําดับที่ 21 ต่อมาผู้ร้องทราบข้อเท็จจริงว่า ผู้คัดค้านเป็นบุคคลล้มละลาย ผู้คัดค้านจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 98 (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (2) ขอให้ถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศผู้ร้อง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส. 4/24) ลงวันที่ 14 เมษายน 2566
ผู้คัดค้านไม่ยื่นคําคัดค้าน ถือว่าไม่ติดใจคัดค้านและไม่ติดใจนําพยานเข้าไต่สวน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณาคําร้องและเอกสารท้ายคําร้องแล้ว เห็นว่า คดีไม่จําเป็นต้องไต่สวนพยานหลักฐาน จึงให้งดการไต่สวน
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตรวจสํานวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันรับฟังเป็นยุติว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 พรรคชาติพัฒนากล้ายื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ระบุผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลําดับที่ 21 พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการสมัครรับเลือกตั้งตลอดจนเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครรับเลือกตั้งตามเอกสารหมาย ร.3 ถึง ร.5 ต่อมาวันที่ 14 เมษายน 2566 แบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนากล้า ลําดับที่ 21 ตามเอกสารหมาย ร.5 วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ผู้ร้องได้รับแจ้งจากสํานักงานเลขานุการกรม กรมบังคับคดีว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ศาลล้มละลายกลางพิพากษาให้ผู้คัดค้านล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ประกาศแจ้งคําพิพากษาให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 โดยลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และปัจจุบันผู้คัดค้านยังไม่พ้นจากการล้มละลาย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้าน เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ เห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 48 บัญญัติว่า 'บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ...(2) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต' ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (2) ได้บัญญัติไว้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจึงต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏในคําร้องและเอกสารพยานหลักฐานท้ายคําร้องว่า ศาลล้มละลายกลางมี ธันวาคม 2565 ตามคดีหมายเลขแดงที่ ล.931/2565 ของศาลล้มละลายกลาง
ปัจจุบันผู้คัดค้านยังไม่พ้นจากการล้มละลาย
โดยผู้คัดค้านมิได้โต้แย้งคัดค้านจึงรับฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ขณะพรรคชาติพัฒนากล้ายื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อซึ่งระบุผู้คัดค้านเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ลําดับที่ 21 ต่อผู้ร้องนั้น ผู้คัดค้านเป็นบุคคลล้มละลายจึงเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 98 (2) และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 42 (2) กรณีมีเหตุให้ถอนชื่อผู้คัดค้านออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนากล้าตามคําร้อง
จึงมีคําสั่งให้ถอนชื่อนายประเสริฐ นิลเนตร์ ผู้คัดค้าน ออกจากประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคชาติพัฒนากล้า ลําดับที่ 21 ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ (ส.ส. 4/24) ลงวันที่ 14 เมษายน 2566
คดีเลือกตั้งอื่น :
- ไม่ไปเลือกตั้งซ่อม สท.! ศาลฎีกา ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.จ.อุบลฯ พรรค รทสช.
- กรณีศึกษา : ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อสมัคร ส.ส. เพราะไม่ไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก.
- มีประวัติถูกปลดพ้นนายก อบต.! ศาลฎีกายกคำร้องผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคชาติไทยพัฒนา
- ถือน้อยไม่มีอำนาจสั่งการ!คำพิพากษาศาลฎีกาคืนสิทธิ์สมัคร ส.ส. 'ชาญชัย'ปม AIS 200 หุ้น
- โดนปลดพ้นนายกเทศฯ คดีอยู่ระหว่าง‘ทุเลา’คำสั่ง! ศาลฎีกาคืนสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส. ภูมิใจไทย
- รายนี้ไม่ไปเลือกตั้งครั้งล่าสุด! คำพิพากษาศาลฎีกา ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.นนทบุรี
- มีประวัติถูกพิพากษาลักทรัพย์! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา
- คดีแรก! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.อุดรฯ ถือหุ้นสื่อ
- เคยต้องคำพิพากษาคดีค้ายาเสพติด! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเส้นด้าย
- ไม่ไปเลือกตั้งซ่อม ส.ท.เมืองตาก! ศาลฎีกาสั่งถอนชื่อผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก