แม่ของ “น้องนาเดีย” ที่ขอของขวัญวันเด็กเป็นอาหารให้พี่ชายที่ป่วยติดเตียง ขอบคุณน้ำใจจากคนไทยทั้งประเทศที่ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือมากกว่า 1 แสนบาท รับปากจะนำไปใช้จ่ายสำหรับดูแลลูกชายที่ป่วยอย่างคุ้มค่าที่สุด
เรื่องราวของ เด็กหญิงนาเดีย แยแล ที่ขอของขวัญวันเด็กแห่งชาติปีนี้ เป็นอาหารทางการแพทย์ให้พี่ชาย คือ นายนิซัลวาล แยแล อายุ 17 ปี ซึ่งผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่เกิด ทั้งพิการทางสมองและตาบอดทั้งสองข้าง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้แต่ขับถ่าย จึงต้องรับอาหารทางการแพทย์เท่านั้น
แต่อาหารที่ทานได้ มีราคาสูง และต้องให้ทางสายยาง ราคาถุงละเกือบ 800 บาท เดือนหนึ่งทาน 4 ถุงขึ้นไป ไม่รวมรายจ่ายผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่ต้องใช้อีกวันละ 2 ชิ้น รวมค่าใช้จ่ายเดือนละกว่า 4,000 บาท แต่ครอบครัวของน้องนาเดีย 3 ชีวิต มีฐานะยากจน คุณพ่อทำงานคนเดียว ส่วนแม่ต้องคอยดูแลพี่ชายที่ป่วยอย่างใกล้ชิด มีรายได้เพียงเดือนละ 2,500 บาทเท่านั้น
หลังจาก “ทีมข่าวอิศรา” ได้นำเสนอเรื่องราวของน้องนาเดีย ทำให้มีหลายหน่วยงานยกคณะไปเยี่ยมและให้กำลังใจ โดยเฉพาะ ศอ.บต.
รวมไปถึงมีน้ำใจจากพี่น้องคนไทยทั่วประเทศ ได้ช่วยกันโอนเงินบริจาคผ่านบัญชีของ น.ส.ซารินี เจะอีแต แม่ของน้องนาเดียจำนวนมาก
เมื่อไปตรวจสอบยอดเงินบริจาคที่ตู้เอทีเอ็ม พบว่า มีเงินเข้าบัญชีรวมทั้งหมด 108,521 บาท รวมถึงเงินที่ได้รับจากหน่วยงานเข้าไปเยี่ยมให้กำลังใจอีก 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 110,521 บาท
น.ส.ซารินี กล่าวด้วยความตื่นตันใจว่า หลังจากที่มีข่าวออกทางสื่อ สำนักข่าวอิศรา เนชั่นทีวี ตอนนี้ก็ยังมีหน่วยงานในพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจตลอด สำหรับเงินที่ทางครอบครัวได้รับตอนนี้ เป็นเงินสด 2,000 บาท รวมทั้งยังได้รับน้ำใจจากพี่น้องชาวไทยโอนเงินเข้าบัญชี จำนวน 108,521 บาท
“ได้ถอนเงินออกมาจำนวน 6,000 บาท จ่ายหนี้เพื่อนบ้านที่ได้ยืมไปซื้ออาหารทางการแพทย์และของใช้ก่อนหน้านี้ จำนวน 3,500 บาท และซื้ออาหารทางการแพทย์เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 1 ถุง 760 บาท และของใช้อีก 200 กว่าบาท”
“ส่วนเงินที่เหลือที่ถอนออกมาแล้วกับที่หน่วยงานให้ ตั้งใจจะเก็บไว้ซื้ออาหารทางการแพทย์และของใช้ที่จำเป็นมาเพิ่มเติม แต่ตอนนี้อาหารทางการแพทย์ขาดตลาด วันก่อนต้องขับรถจักรยานยนต์ไปหาซื้อได้ที่ตลาดปาลัส อ.ปะนาเระ ส่วนในเมืองปัตตานี ของขาดตลาด เมื่อวานไปหาทุกร้านไม่มีขายเลย วันนี้กำลังเวียนรถหา ถ้าไม่มีว่าจะไปหาซื้อที่เมืองยะลา”
น.ส.ซารินี กล่าวอีกว่า สิ่งที่น้องนิซัลวาล (ลูกชายที่ป่วย) จำเป็นต้องใช้ใน 1 เดือน ประกอบด้วย
-อาหารทางการแพทย์ ราคาถุงละ 760 บาท ใช้ 4 ถุง รวม 3,040 บาท
-ผ้าออมสำเร็จรูปไซส์ XXL ราคา 290 บาทต่อ 1 ห่อ ใช้ 2 ห่อ รวม 580 บาท
-ถุงมือทางการแพทย์ ราคาต่อกล่อง 180 บาท ใช้ 1 กล่อง รวม 180 บาท
-ไซริงค์หัวใหญ่ 50 ML สำหรับป้อนนม ราคา 30 บาทต่อชิ้น ใช้ 2 ชิ้น รวม 60 บาท
-เจลหล่อลื่นสำหรับใส่สายให้อาหารและสวนถ่ายอุจจาระ ราคา 75 บาท ใช้ 1 หลอด รวม 75 บาท
-พลาสเตอร์กระดาษ สำหรับติดสายยางที่จมูก ราคา 25 บาท ใช้ 1 ชิ้น รวม 25 บาท
-ทิชชู่เปียก ราคา 29 บาท ใช้ 4 ชิ้น รวม 116 บาท
-ทิชชู่แห้ง ราคา 20 บาท ใช้ 4 ชิ้น รวม 80 บาท
รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดแต่ละเดือนของน้อง เป็นเงินจำนวน 4,156 บาท
แม่ของน้องนาเดีย ยังแจกแจงถึงความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ว่า ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานในพื้นที่ ประกอบด้วย
1.เบี้ยความพิการ ได้รับเดือนละ 1,000 บาท นำมาซื้ออาหารทางการแพทย์ ได้จำนวน 1 ถุงกว่าๆ
2.ได้รับการสนับสนุนผ้าอ้อมสำเร็จผ่านกองทุนฟื้นฟู เดือนละ 1 ครั้ง จำนวน 1 ถุง ถุงละ 34 ชิ้น บางช่วงก็จะได้ 2 เดือนครั้ง
3.ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ได้รับการสนับสนุนจำนวน 34 ชิ้น ใช้ได้ครึ่งเดือน บางช่วงได้รับสองเดือนครั้ง ก็ต้องหาซื้อเอง
“ในปี 2562 ได้รับการสนับสนุนเครื่องดูดเสมหะโดยใช้งบประมาณจะกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดปัตตานี จำนวน 5,000 บาท รวมถึงการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่ จำนวน 20,000 บาท ในจำนวนนี้เขาให้เพาะเห็ด แต่ขายไม่ได้เลย พอไม่ได้ทำต่อ เห็ดที่มีก็ทำอาหารทาน กับแจกเพื่อนบ้าน”
“ในปี 2563 ทาง พมจ. (พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด) สนับสนุนเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง จำนวน 3,000 บาท และเงินสงเคราะห์ครอบครัวคนพิการ จำนวน 2,000 บาท ทางครอบครัวได้นำไปใช้จ่าย ซื้ออาหารทางการแพทย์ และของใช้ให้ลูก หมดไปตั้งแต่เดือนแรกของปี 63 และเมื่อวันที่ 13 ม.ค.67 อบต.จัดงานวันเด็ก นายกอบต.พร้อมทีมผู้บริหาร มาเยี่ยมและมอบของขวัญวันเด็กให้”
แม่ของน้องนาเดีย กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่ช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระของครอบครัว ทำให้รู้สึกหายใจคล่องขึ้น ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ไม่มีอะไรจะตอบแทนนอกจากคำขอบคุณจากใจ