บึ้มแคมป์ก่อสร้าง “เจ้าแม่กวนอิม” พบหลักฐานในที่เกิดเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ทำให้ไฟไหม้ ไม่ใช่ยิง M79 ส่วนทหารพัฒนาผวาทั้งหน่วย หลัง “จ่า” ถูกซุ่มยิงหน้าค่าย เชื่อเป็นเป้านิ่งลอบสังหาร
ความคืบหน้าเหตุระเบิดภายในแคมป์คนงานก่อสร้างรูปปั้น “เจ้าแม่กวนอิม” องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สูงกว่า 130 เมตร ในพื้นที่ ต.สะกอม อ.เทพา จ.สงขลา เหตุเกิดช่วงเช้ามืดของวันพุธที่ 20 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งภายหลังมีระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่องรวมเป็น 4 ลูก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 3 ราย เป็นคนงานก่อสร้างและลูกหลานของคนงานนั้น
ต่อมาวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย.67 ที่บริเวณแคมป์คนงานก่อสร้าง และพื้นที่ก่อสร้างรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งถูกกันเป็นพื้นที่เกิดเหตุระเบิด ยังคงอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ และเร่งเคลียร์เส้นทางโดยรอบให้ปลอดภัย เนื่องจากพื้นที่ใกล้เคียงเป็นย่านชุมชนและเป็นรีสอร์ทที่พัก
เบื้องต้นมีรายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในจุดเกิดเหตุ พบหลักฐานต่างๆ และร่องรอยความเสียหาย ทำให้มีการสันนิษฐานใหม่ว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้น่าจะไม่ได้ถูกยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ M79 ตามที่ปรากฏเป็นรายงานข่าวไปก่อนหน้านี้
แต่จากสภาพที่เกิดเหตุบริเวณแคมป์คนงานที่เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาด้วยนั้น คาดว่าระเบิดที่คนร้ายใช้น่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา ซึ่งเมื่อระเบิดทำงาน จะทำให้สะเก็ดระเบิดและชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปโดนอุปกรณ์ต่างๆ จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ได้
โดยในที่เกิดเหตุพบว่า เพลิงได้ลุกไหม้สารเคมีทินเนอร์ จำนวนประมาณ 50 ถัง ส่วนเหตุระเบิดที่เกิดซ้ำในเวลาต่อมา มีชิ้นส่วนของถังออกซิเจนที่ใช้ในการเชื่อมเหล็กจากแคมป์คนงานก่อสร้างกระเด็นไปตกในบ้านชาวบ้านที่อยู่ห่างออกไปด้วย
@@ ทหารพัฒนาผวาตกเป็นเป้าสังหาร
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบยิง จ.ส.อ.อะห์มัด และตูกัง ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าประตูทางเข้าหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 42 (นพค.42) บ้านลีตอ หมู่ 3 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา วันเดียวกับที่เกิดระเบิดแคมป์คนงานก่อสร้างเจ้าแม่กวนอิมนั้น
มีรายงานว่าอาการบาดเจ็บของ จ.ส.อ.อะห์มัด ซึ่งถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะนี้อาการปลอดภัย พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า พฤติการณ์ของคนร้ายที่ก่อเหตุ มีการวางแผนซุ่มยิง โดยอำพรางตัวอยู่บริเวณต้นไม้ในป่ายางพารา ตรงข้ามประตูทางเข้าหน่วย นพค.42 ซึ่งมีป้อมรักษาการณ์ ห่างจากจุดที่ จ.ส.อ.อะห์มัด จอดรถจักรยานยนต์ประมาณ 50 เมตร หลังถูกยิง จ.ส.อ.อะห์มัด ได้วิ่งหลบไปที่บังเกอร์ปูนบนถนนหน้าป้อมรักษาการณ์ ก่อนเพื่อนทหารช่วยกันส่งโรงพยาบาล
จากการตรวจสอบจุดที่คนร้ายซุ่มยิง ไม่พบปลอกกระสุนปืน แต่พบไม้ไผ่ตัดเป็นจุดเล็งยิงเป้าหมาย โดยจุดซุ่มยิงดังกล่าวสามารถมองเห็น จ.ส.อ.อะห์มัด และป้อมรักษาการณ์หน้าหน่วย นพค.42 ได้อย่างชัดเจน คาดว่าคนร้ายไม่ได้เจาะจงเป้าหมายว่าเป็นผู้ใด แต่หากมีกำลังพลปรากฏตัวในขณะนั้น ก็ตกเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุได้ทั้งหมด
เจ้าหน้าที่ทหาร นพค.42 นายหนึ่ง ให้ข้อมูลเสริมว่า ทุกคนในหน่วยเชื่อว่าคนร้ายได้เฝ้าดูพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ในหน่วยมาหลายวันแล้ว ก่อนจะลงมือลอบยิง เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เพราะ จ.ส.อ.อะห์มัด เป็นคนนิสัยดี รักครอบครัว ขยัน และชอบช่วยเหลือทุกคนในหน่วย
“ตอนนี้เจ้าหน้าที่ในหน่วยต่างขวัญเสียกันหมด เพราะทุกคนตกเป็นเป้านิ่ง เส้นทางเข้า-ออกหน่วยต้องใช้ทุกวัน ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ เพราะต้องออกไปช่วยชาวบ้าน โดยเฉพาะในยามฝนตก” เจ้าหน้าที่ทหารพัฒนา ระบุ