นายกฯเศรษฐาเตรียมล่องใต้อีกรอบหลังน้ำลด ลุยฟื้นเศรษฐกิจด้วยตัวเอง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ลงพื้นที่ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเก็บข้อมูลรอ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมยะลาเริ่มคลี่คลาย ด้าน รมว.ยุติธรรม ลุยน้ำ 2 จังหวัดมอบถุงยังชีพชาวบ้านม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน – เยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.รามัน ส่วน “ผู้กองธรรมนัส” สั่งเร่งเยียวยาความเสียหายเกษตรกรรมจากอุทกภัย นราธิวาส ประชาชนเดือดร้อนกว่า 2 แสนราย จมน้ำดับ 7 ราย ที่จะแนะน้ำท่วมถนนยังไม่ลด
วันที่ 28 ธ.ค.66 สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา หลังฝนหยุดตกทำให้ระดับน้ำแม่น้ำปัตตานี อ.เมืองยะลา, แม่น้ำสายบุรี อ.รามัน และคลองยะหา อ.ยะหา ลดระดับลง หลายพื้นที่เริ่มคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่าง อ.บันนังสตา อ.ยะหา อ.ธารโต อ.กรงปินัง และ อ.กาบัง ส่วนในพื้นที่ อ.รามัน และ อ.เมืองยะลา บางส่วนคลี่คลายและบางส่วนยังคงมีน้ำท่วมอยู่ เช่น ในพื้นที่ บ้านลิมุด ม.3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา บริเวณบ้านเรือนชาวบ้านน้ำลดแล้วยังเหลือที่โรงเรียนบ้านลิมุด ที่ยังมีน้ำท่วมขังทำให้ต้องหยุดทำการเรียนการสอน
ด้านสำนักงาน ปภ.จ.ยะลา ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่ 22-27 ธ.ค.66 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 7 อำเภอ (ยกเว้นอำเภอเบตง) 52 ตำบล 295 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบ 18,353 ครัวเรือน จำนวน 72,596 คน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย (อ.เมืองยะลา 3 ราย, อ.บันนังสตา 1 ราย) อพยพแล้ว 704 ครัวเรือน จำนวน 3,038 คน ถนน 11 สาย เสาไฟฟ้า 2 ต้น มัสยิด 2 หลัง และคอสะพาน 5 แห่ง ส่วนพื้นที่ทางการเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ อยู่ระหว่างการสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
@@ “สมศักดิ์” สั่งทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา หลังน้ำลด
เมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และคณะฯ ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อเป็นประธานการประชุมศูนย์บริการจัดการน้ำส่วนหน้า ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำและพื้นที่ประสบอุทกภัย รวมทั้งติดตามสถานการณ์ระดับน้ำของเขื่อนบางลาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช., พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. และ ผู้ว่าราชการจังหวัด (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส) รวมถึงหน่วยงานบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่เกิดขึ้นจากอิทธิพลของพายุ “เจอราวัต” และมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ตลอดจนหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนัก โดยได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที พร้อมทั้งทําการฟื้นฟู เยียวยาและเร่งแก้ไขปัญหาในจุดต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
“ได้มอบหมายให้ สทนช. บูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งให้กรมประชาสัมพันธ์ ศอ.บต. และจังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและเร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ตามช่องทางต่างๆ โดยให้มีการสื่อสารข้อมูลเป็นภาษายาวีด้วย” รองนายกฯ กล่าว
@@ มอบถุงยังชีพ - ให้กำลังใจชาวปะกาฮารัง
หลังเสร็จการประชุม นาย สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และคณะฯ เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพบปะให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 200 ครัวเรือน ที่บ้านจางา ต.ปะกาฮะรัง อ.เมือง จ.ปัตตานี พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมอบสิ่งของจำเป็น เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยพร้อมเร่งทำการฟื้นฟู เยียวยาและซ่อมแซม ให้ประชาชนกลับมาได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี มีน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนใน ต.ปะกาฮารัง ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 8 หมู่บ้าน 507 ครัวเรือน 2,118 คน
@@ รมว.ยุติธรรม มอบถุงยังชีพชาวแม่ลาน หลังอาหารเริ่มขาดแคลน
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและคณะได้เดินทางลงพื้นที่ หมู่ 2 ต.ม่วงเตี้ย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ด้วยเรือท้องแบนของเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เพื่อนำถุงยังชีพกว่า 100 ชุด เข้าไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมสูงและไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ โดยส่วนหนึ่งได้มอบให้กับผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากพบว่า พื้นที่ดังกล่าวน้ำท่วมมา 3 วันแล้ว ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม การมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งคาดว่า จะยังคงต้องเผชิญกับน้ำท่วมอีกหลายวัน
พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวกับผู้ประสบอุทกภัยว่า วันนี้มาให้กำลังใจและเข้ามาร่วมกันช่วยเหลือ แต่หลังจากน้ำลด สิ่งสำคัญที่เป็นห่วงมากก็คือ การเยียวยา ฟื้นฟู ถ้าทำได้ก็จะกลับมาอยู่ในสภาพน้ำไม่ท่วม อันนี้เป็นเรื่องใหญ่ ทีนี้เราก็คงจะต้องช่วยกันและบางส่วนก็จะขอให้ท่าน สส. ในพื้นที่นายอำเภอและข้าราชการทุกหน่วย เราจะไม่ทิ้งกัน เราเหมือนเป็นพี่น้องกัน วันนี้ต้องขอบคุณ ทางทหาร พลเรือน และตำรวจที่ได้ช่วยกัน ขอให้กำลังใจ ทุกท่าน ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้องค์เอกอัลลอฮ์ที่ทุกคนนับถือจงประทานพรให้ทุกคน แคล้วคลาดปลอดภัย มีความสุขใจ สุขกาย สมหวัง และโชคดี
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 2 ตำบล รวม 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 831 ครัวเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 3,328 ราย
@@ เยี่ยมชาวบ้านศูนย์พักพิงชั่วคราว อ.รามัน จ.ยะลา
ช่วงค่ำวานนี้ (27 ธ.ค.66) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมนายซูการ์โน มะทา สส.เขต 2 ยะลา, นายสุไลมาน บือแนปีแน สส.เขต 1 ยะลา และนายอับดุลอายี สาแมง สส.เขต 3 จ.ยะลา ร่วมกันลงพื้นที่ ต.บาลอ อ.รามัน เพื่อเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในรอบ 50 ปี ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในวิทยาลัยการอาชีพรามัน อ.รามัน จ.ยะลา โดยพบปะกับผู้ประสบภัยภายในศูนย์พักพิง 50 ครอบครัว รวม 200 คน พร้อมพูดคุยให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ ทั้งยังฝากให้ผู้นำในพื้นที่นำถุงยังชีพและความห่วงใยไปมอบให้กับผู้ประสบภัย 26 ครัวเรือน 120 คน ยังศูนย์พักพิงชั่วคราวอีกแห่งที่ศูนย์เด็กเล็กตำบลบาลอ
@@ นายกฯ เล็งลุยฟื้น ศก.หลังน้ำลด
มีรายงานว่า หลังจาก พ.ต.อ.ทวี ลงพื้นที่ช่วยน้ำท่วมที่ จ.นราธิวาส และ จ.ยะลา เมื่อวันพุธที่ 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยลงไปในจุดที่น้ำท่วมหนักที่สุด ทำให้นายกฯเศรษฐา ซึ่งติดตามข่าวความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด ให้ความสนใจลงพื้นที่อีกรอบหลังน้ำลด เพื่อนำร่องโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจชายแดนใต้ด้วยตนเอง
@@ “ผู้กองธรรมนัส” สั่งเร่งเยียวยาความเสียหายทางการเกษตร
วันที่ 28 ธ.ค.66 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ที่มัสยิดนูรดิน หมู่ 7 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลพี่น้องประชาชน ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้อธิบดีทุกกรมในสังกัดลงพื้นที่ พร้อมหามาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเยียวยา หลังจากน้ำลด โดยเร่งสำรวจความเสียหาย ทั้งพืชไร่ พืชสวน สัตว์เลี้ยงทุกประเภท บ้านเรือนที่เสียหาย
“รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะหาเงินมาในการที่จะเยียวยา ครอบครัวละ 200,000 บาท สิ่งเหล่านี้จะช่วยเหลือ หลังจากที่เข้าสู่มาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ นี่คือสิ่งที่รัฐบาลเร่งด่วนต้องแก้ไข”
รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า การแก้ปัญหาอื่น ๆ อาทิ กรมชลประทาน ได้ให้นโยบายไปแล้วว่าต้องแก้ตรงไหนบ้าง จะของบประมาณเร่งด่วน งบกลางเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเยียวยาต่อไป
@@ นราธิวาสเดือดร้อนกว่า 2 แสนราย – จมน้ำดับรวม 7 ราย
ด้านสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส วันที่ 28 ธ.ค.66 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 13 อำเภอ 77 ตำบล 536 หมู่บ้าน 57 ชุมชน มีผู้ได้รับผลกระทบ 65,780 ครัวเรือน จำนวน 266,325 คน โดยเหตุอุทกภัยครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 8 ราย แยกเป็น อ.รือเสาะ เสียชีวิต 4 ราย สูญหาย 1 ราย , อ.เมืองนราธิวาส เสียชีวิต 1 ราย และ อ.ระแงะ เสียชีวิต 2 ราย โรงเรียน 329 แห่ง (ปิดการเรียน 167 แห่ง เปิดการเรียน 162 แห่ง) มัสยิด 26 แห่ง วัด 20 แห่ง
ด้านปศุสัตว์ (แพะ) 2 ตัว โค 5 ตัว ด้านพืช 2,332 ไร่ ด้านประมง สัตว์น้ำเลี้ยงในบ่อดินนาข้าว 505.31 ไร่ สัตว์น้ำเลี้ยงในกระชังบ่อซิเมนต์ 2,548 ไร่
@@ ตชด.447 จับมือทหารช่วยชาวบ้าน - จะแนะน้ำท่วมถนนยังไม่ลด
วันเดียวกัน พ.ต.ท.โชติ ปฐมวณิชกะ ผบ.ร้อย ตชด.447 จึงได้สั่งการให้ ร.ต.ต.ประเสริฐ แก้วศรี หน.ชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4412 ร่วมกับ ร.อ.พงศกร เทพษร ผบ.ปชด.ที่ 3 นำกำลังเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เขตรอยต่อระหว่าง ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก กับ ต.นานาค อ.ตากใบ ที่บริเวณบ้านปรือมง และบ้านปะดังยอ หมู่ 3 ต.มูโนะ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมวลน้ำป่าไหลผ่าน โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเรือบรรทุกน้ำดื่มลุยน้ำท่วมที่ไหลเชี่ยวกรากเข้าไปแจกจ่ายให้ประชาชน พร้อมสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อหลังน้ำลดจะได้เข้าไปช่วยเหลือในการซ่อมแซมบ้านพักและทำความสะอาดอีกครั้ง
ส่วนในพื้นที่ ต.ช้างเผือก พบว่า ปริมาณน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชน มีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีถนนหนทางบางจุดยานพาหนะทุกชนิดยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยเฉพาะถนนสายบ้านน้ำหอม ม.7 ต.ดุซงญอ กับบ้านไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยภาพรวมเฉลี่ย 30 - 60 เซนติเมตร ยานพาหนะทุกชนิดยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เป็นผลจากอิทธิพลของน้ำป่าที่ไหลทะลักลงมา หากไม่มีสภาวะฝนตกลงมาซ้ำ คาดว่าในช่วง 1 วัน ปริมาณน้ำที่ท่วมถนนจะลดลงจนสามารถสัญจรไปมาได้