เทศบาลบูเก๊ะตา นราธิวาส ปักธงแดงเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ด้านเกษตรอำเภอเบตง สำรวจต้นทุเรียนล้มเหตุดินสไลด์ หน่วยงานรัฐแนะวิธีป้องกันผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ
จากสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในบางพื้นที่ของ จ.นราธิวาส ทำให้มีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด
โดยในวันพฤหัสบดีที่ 14 ธ.ค.66 นายศุภโยค ลอดิง นายกเทศมนตรีตำบลบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ประกาศปักธงแดงที่คลองบูเก๊ะตา เพื่อแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองบูเก๊ะตา เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 30 เซ็นติเมตรเท่านั้น เหลืออีก 2 ขั้นบันไดก็จะล้นตลิ่ง เบื้องต้นทางเทศบาลได้ลงพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะบริเวณโรงเรียนบ้านบูเก๊ะตา ให้นำสิ่งของไปไว้บนที่สูง และเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หากยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องต่อไป
อย่างไรก็ดี จากการติดตามระดับน้ำต้นทางที่บ้านสระ อ.แว้ง พบว่าระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ดังนั้นนอกจากพื้นที่ อ.แว้ง แล้ว พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ก็ต้องเตรียมรับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้เช่้นกัน
นอกจากนี้นายกเทศมนตรีตำบลบูเก๊ะตา ยังเป็นห่วงเด็กและเยาวชนในพื้นที่ จึงประสานแจ้งเตือนให้งดลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำทุกแห่ง เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และกระแสน้ำเชี่ยวกราก อาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ จึงขอให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และงดเล่นน้ำในพื้นที่ทุกกรณี ส่วนถนนเส้นเลี่ยงเมืองเเว้ง-บูเก๊ะตา มีน้ำท่วมถนน รถเล็กควรหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางดังกล่าว
@@ ใต้ฝั่งตะวันออกฝนหนักร้อยละ 60 ของพื้นที่
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศพยากรณ์อากาศบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ จ.สงขลาลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
@@ เกษตรอำเภอเบตงสำรวจดินสไลด์ - ต้นทุเรียนล้ม
วันเดียวกัน นางสาวอาภรณ์ รัตนพิบูลย์ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเบตง จ.ยะลา มอบหมายให้นางสาวพรพรรณ มณีโชติ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายสถานการณ์ภัยธรรมชาติ บริเวณหมู่ 3 ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง หลังพบมีดินสไลด์และต้นทุเรียนล้มเสียหายบางส่วน พร้อมแนะนำขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อขอรับความช่วยเหลือเบื้องต้น
โดยแนวทางการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนได้รับความเสียหาย เกษตรกรสามารถยื่นแบบแจ้งความจำนงขอรับการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านพืชกับทางกำนันหรือผู้ใหญ่บ้าน อบต. หรือเทศบาล อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรประจำตำบลในพื้นที่
หากเกษตรกรผ่านหลักเกณฑ์การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2564 ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือ โดยกำหนดให้ความช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา (ไม้ผลไม้ยืนต้น) ไร่ละ 4,048 บาท
@@ แนะวิธีป้องกันสวนไม้ผลเสียหายหลังเจอพายุ
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยเฉพาะสวนไม้ผล ซึ่งเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวอยู่ได้นานหลายปี เกษตรกรจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้น ทั้งภัยแล้ง ลมพายุ และน้ำท่วมไว้ล่วงหน้า
และเพื่อเป็นการป้องกันบรรเทาความเสียหายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น เกษตรกรควรตัดแต่งกิ่งที่แน่นทึบ หรือกิ่งที่ไม่ให้ผลผลิตออก เพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง ไม่ต้านลม ส่วนต้นไม้ผลที่อายุมากและมีลำต้นสูง อาจตัดทอนส่วนยอดให้ต่ำลง เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม้โค่นล้มง่ายเมื่อถูกลมพายุพัดแรง และควรใช้เชือกโยงกิ่งและต้น เพื่อป้องกันกิ่งฉีกหัก รวมทั้งใช้ไม้ค้ำกิ่งและค้ำต้นเพื่อช่วยพยุงไม่ให้โค่นลงได้ง่าย