ตำรวจชายแดนใต้ร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 9 โชว์ผลงานกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติด 2 คดี รวบผู้ต้องหา 4 ราย และหลบหนีถูกออกหมายจับอีก 1 ราย พร้อมยึดของกลางยาบ้ารวม 1.1 ล้านเม็ด มูลค่าหลายล้านบาท
วันที่ 6 ธ.ค 66 ที่ศูนย์ปฎิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จ.ยะลา ( ศปก.ตร.สน.) พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย นายประสาร หยงสตาร์ ผอ.สนง. ป.ป.ส.ภาค 9, พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูรังสฤษฎิ์ ผบก.ภ.จว.ยะลา, พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.นิติ ติณสูลานนท์ ผบ.ฉก.ยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ยาบ้า และตรวจยึดของกลางยาบ้า 1.1 ล้านเม็ด มูลค่าหลายล้านบาท
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 พ ย.66 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสั่งซื้อยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 200,000 เม็ด เป็นเงินจำนวน 2,000,000 บาท โดยจะนัดหมายส่งมอบยาเสพติดและเงินกัน และในวันที่ 4 ธ.ค.66 กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดแจ้งว่า พร้อมที่จะทำการส่งมอบยาเสพติดกัน จึงนัดหมายให้มาส่งมอบยาเสพติดกันที่บริเวณริมถนนสาย 42 บริเวณใต้สะพานลอย ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังวางแผนเพื่อจับกุมผู้ต้องหาในการเข้าส่งมอบยาเสพติด
เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ได้จอดรถรออยู่ มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ทะเบียน ผณ - 4748 กรุงเทพมหานคร ขับขี่มาจอดด้านหลังรถยนต์ของเจ้าหน้าที่แล้วคนร้ายที่นั่งข้างคนขับได้ลงจากรถแบกกระสอบสีขาวมาใส่ท้ายรถยนต์ของเจ้าหน้าที่และกำลังเดินกลับไปที่รถยนต์ เพื่อจะหยิบกระสอบอีก 1 กระสอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในรถและแอบซุ่มอยู่ได้แสดงตัวและออกมาสนับสนุบในจับกุมตัวคนร้าย
แต่ขณะนั้นมีคนร้ายอีก 1 คน ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ กระสุนถูกเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นายและคนร้ายบาดเจ็บ 1 ราย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งต่อมาก็สามารถควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุได้
จากการตรวจค้นภายในกระสอบที่คนร้ายนำมาใส่ในรถของเจ้าหน้าที่ พบเป็นยาบ้าประมาณ 100,000 เม็ด และที่รถยนต์กระบะของคนร้ายยังพบยาบ้าประมาณ 300,000 เม็ด รวมเป็นยาบ้าทั้งหมดประมาณ 400,000 เม็ด
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม 2 ราย คือ
1.นายมาหามะ (สงวนนามสกุล) มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี
2.นายซูเฟียน (สงวนนามสกุล) มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และเป็นคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดของกลางยาบ้าประมาณ 400,000 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก รถยนต์กระบะ 1 คัน ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลการตรวจสอบทรัพย์สินและติดตามจับกุมนักค้ายาเสพติดในเครือข่ายเพิ่มเติมต่อไป
@@ จับยาบ้า 700,000 เม็ด ขณะถูกขนส่งชายแดนใต้
ส่วนอีกคดีเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.66 บริเวณจุดสกัดชั่วคราวก่อนถึงสี่แยกควนลัง ถ.สายเอเชีย ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดจำนวน 2 ราย คือ 1.นายมูยาฮิดี หรือดี สาแล๊ะ อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ หมู่ 1 ต.บันนังสาเรง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา และ 2.น.ส.มารียา หรือดา สะมอ อายุ 36 ปี ที่มีภูมิลำเนาอยู่ หมู่ 6 ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา
พร้อมของกลาง จำนวน 6 รายการ ประกอบด้วย
1.ยาบ้า รวม 350 มัด มัดละ 2,000 เม็ด แบ่งบรรจุในกระสอบปุ๋ย 7 กระสอบ กระสอบละ 50 มัด ทั้งสิ้นจำนวน 700,000 เม็ด
2.รถยนต์กระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน สีบรอนซ์ ติดสติ๊กเกอร์ PRY ป้ายทะเบียน บฉ 2348 สงขลา จำนวน 1 คัน (รถขนยาบ้า)
3.รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา ทะเบียน งต 8601 สงขลา จานวน 1 คัน (รถนำทาง)
4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง เงินสด จำนวน 17,000 บาท
5.สมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 เล่ม
พฤติการณ์ในการจับกุม ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากภาคกลางเพื่อนำไปส่งยังพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยใช้เส้นทางผ่านทาง อ.หาดใหญ่ จึงได้มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัด บริเวณถนนสายเอเชียก่อนถึงสี่แยกควนลัง ถ.สายเอเชีย ต.ควนลัง (จุดสกัดที่ 1) และบริเวณถนนสายเอเชีย ลงสะพานข้ามทางรถไฟ ม.หาดใหญ่ (จุดสกัดที่ 2)
จนวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีเทา ทะเบียน งต 8601 สงขลา ซึ่งเป็นรถนำทางได้ที่จุดสกัดแยกควนลัง มีนายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราเสะ เป็นผู้ขับขี่ และน.ส.มารียา ซึ่งเป็นภรรยาของนายอับดุลเลาะ นั่งโดยสารมาด้วย
ส่วนรถขนยาเสพติดของกลาง เป็นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไททัน สีบรอนซ์ บฉ 2348 สงขลา มีนายมูยาฮิดี เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งได้เร่งเครื่องหลบหนีฝ่าจุดตรวจที่ 1 และฝ่าจุดตรวจที่ 2 มุ่งหน้าพื้นที่ อ.นาหม่อม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ติดตามไปจับกุมตัวได้พร้อมของกลางยาบ้า 700,000 เม็ด โดยในระหว่างที่ไล่ติดตามรถขนยาเสพติดของกลางอยู่นั้น นายอับดุลเลาะ ที่ขับรถนำทางได้แอบวิ่งเข้าป่าข้างทางหลบหนีไป ทิ้ง น.ส.มารียา ซึ่งเป็นภรรยาไว้ที่จุดสกัด
จากการสอบสวนทราบว่า นายมูยาฮิดี ได้รับจ้างขนยาบ้าจาก นายอับดุลเลาะ มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งนี้นายมูยาฮิดี ได้รับว่า จ้างให้ไปขนยาบ้า จากพื้นที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มา 7 กระสอบ ( 700,000 เม็ด) เพื่อนำไปส่งในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก โดยได้รับค่าจ้างเป็นเงิน 200,000 บาท แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน
ส่วนนายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราเสะ คนร้ายที่หลบหนีไปได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขออนุมัติศาลออกหมายจับ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมนำตัวมาขยายผลไปถึงเครือข่ายและการยึดทรัพย์ต่อไป