เป็นที่ทราบกันดีว่า นายกฯเศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้นำประเทศไทยที่เดินทางบ่อยมาก ทั้งในและต่างประเทศ อาจจัดได้ว่าบ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองบ้านเราเลยก็ว่าได้
หลังกลับจากร่วมประชุมเอเปกที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา นายกฯเศรษฐาก็มีคิวลงพื้นที่แน่นเอี้ยด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกเช่นเคย โดยกำหนดการต่างประเทศ คือเดินทางไปสิงคโปร์
แต่ยังมีไทม์ไลน์พิเศษที่ยังไม่เป็นข่าว และยังไม่เปิดเผยที่ไหน คือ การนัดพบปะกันแบบ exclusive ของนายกฯมาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม กับนายกฯเศรษฐาของไทย โดยมีวาระร้อนคือ จับมือดับไฟใต้ ยุติความขัดแย้งและความรุนแรง ณ ปลายด้ามขวาน หรือสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งกำลังจะถึงวาระ 20 ปีเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งใหญ่ ในวันที่ 4 ม.ค.ปีหน้านี้
แต่ก่อนที่จะไปเจาะรายละเอียดการพบปะกันของผู้นำสองประเทศ คือมาเลเซียและไทย เราไปไล่เรียง “คิวทอง” ของนายกฯเศรษฐากันก่อน แล้วค่อยเฉลยว่า “นัดหมายลับ” ของสองผู้นำประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง จะไปแทรกในช่วงเวลาใด
@@ ไทม์ไลน์ “นายกฯคิวทอง”
นายกฯเศรษฐา เดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 12-19 พ.ย.66
กลับไทยไม่กี่วัน ก็มีกำหนดเดินทางไปประชุมที่สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 23-24 พ.ย.
จากนั้นวันที่ 27 พ.ย. นายกฯเศรษฐา จะเดินทางไปเป็นประธานและร่วมงานประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟที่ จ.สุโขทัย
รุ่งเช้าวันที่ 28 พ.ย. นายกฯจะเดินทางกลับมาเป็นประธานการประชุม ครม. ตกบ่ายจะบินไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 28-29 พ.ย. โดยจะพักค้างคืนที่เชียงใหม่ 2 คืน
จากนั้นวันที่ 30 พ.ย. นายกฯเศรษฐา จะเดินทางโดยรถยนต์จาก จ.เชียงใหม่ ไปยัง จ. อุตรดิตถ์ เพื่อปฏิบัติภารกิจที่นั่น รวมทั้งพักค้างคืน 1 คืน
เช้าวันที่ 1 ธ.ค. นายกฯเศรษฐาจะเดินทางต่อไปยัง จ.พิษณุโลก เพื่อขึ้นเครื่องบินไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งนายกฯไปหลายครั้งแล้วแม้จะเป็นรัฐบาลได้ไม่นานก็ตาม
นอกจากนั้น ยังมีกำหนดการประชุม “ครม.สัญจร” นอกสถานที่ อย่างเป็นทางการครั้งแรกของรัฐบาลชุดนี้ ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค.ด้วย
จบจาก ครม.สัญจร นายกฯเศรษฐา จะลาราชการระหว่างวันที่ 6-7 ธ.ค. เพื่อเข้าร่วมประชุมสัมนาพรรคเพื่อไทย ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
@@ พักโรงแรมหนองบัวฯ ไร้ซีนนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำ
มีรายงานว่า การประชุม ครม.สัญจร อย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ จ.หนองบัวลำภู เป็นการตัดสินใจเลือกพื้นที่ของนายกฯเศรษฐาเอง โดยการประชุมจะมีวาระประกาศ “โมเดลแก้หนี้” ซึ่งจะนำร่องใช้ทั่วประเทศหลังจากนี้
รวมทั้งโมเดลแก้ปัญหายาเสพติด เพราะ จ.หนองบัวลำภู มีปัญหายาเสพติดระบาดรุนแรงติดอันดับต้นๆ ของประเทศ และเคยเกิดโศกนาฏกรรมสังหารหมู่ เมื่อ 6 ต.ค.65 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ร้ายๆ ที่คนไทยไม่อยากจดจำ และมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากยาเสพติด
สำหรับ จ.หนองบัวลำภู เป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย มี สส.ได้ 3 คน เพื่อไทยกวาดยกจังหวัดมาตลอด โดยมี สส.คนดัง คือ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้แทนราษฎรมาอย่างยาวนานถึง 9 สมัย แต่เจ้าตัวชนะเลือกตั้งมาแล้ว 11 สมัย ตั้งแต่ จ.หนองบัวลำภู ยังเป็นส่วนหนึ่งของ จ.อุดรธานี เพียงแต่การเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ชนะนั้น ถูกประกาศให้เป็นโมฆะ
การลงพื้นที่หนองบัวลำภูของนายกฯเศรษฐา ครม.ทั้งคณะจะไปพร้อมกันหมด รวมถึงข้าราชการและผู้ติดตามจำนวนมาก จึงมีการจองโรงแรมทั้งจังหวัด ซึ่งโรงแรมเกือบทั้งหมดเป็นโรงแรมระดับ 2 ดาวครึ่ง ถึง 3 ดาว แต่นายกฯเศรษฐา ก็เต็มใจพักค้างแรมในพื้นที่ เพื่อความใกล้ชิดและเป็นกันเองกับชาวหนองบัวฯ
งานนี้มีการแซวจากคนใกล้ชิดว่า จะมีซีนล้อมวงกินข้าวกับชาวบ้าน เพื่อโชว์ความเป็นนายกฯรากหญ้า ติดดินหรือไม่ แต่ นายกฯเศรษฐา ยังอุบไต๋ ไม่ยอมตอบเรื่องนี้ บอกทีเล่นทีจริงเพียงว่า “ไม่ได้เห็นผมนุ่งผ้าขาวม้าอาบน้ำแน่นอน”
@@ พบนายกฯมาเลย์ จับมือบีบพื้นที่ “สกัดป่วนใต้”
จากวาระงานของนายกฯเศรษฐา เท่าที่ปรากฏเป็นข่าว ยังไม่มีกำหนดการนัดพบนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย
แต่ล่าสุดมีข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า นายกฯอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ขอนัดพบนายกฯเศรษฐา เพื่อหารือเรื่องโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซีย แห่งที่ 2 ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโครงการที่หยุดชะงักมานาน ไม่มีความคืบหน้า โดยผู้นำของสองประเทศจะพบกันที่ จ.นราธิวาส อาจจะเป็นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อสรุปปัญหาและอุปสรรค ก่อนจับมือเดินหน้าโครงการให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ
โอกาสนี้มีรายงานว่า จะมีการหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย โดยนายกฯมาเลเซียแสดงเจตนาที่จะสนับสนุนรัฐบาลไทยในการแก้ไขปัญหาให้ยุติอย่างเด็ดขาด เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศร่วมกันต่อไป
โดยประเด็นที่จะหารือเพื่อการทำงานร่วมกัน คือการจำกัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง กลุ่มที่อ้างอุดมการณ์เพื่อแบ่งแยกดินแดนจากรัฐไทย ซึ่งรู้จักกันดีในชื่อ “กลุ่มบีอาร์เอ็น” และมีข้อมูลว่าใช้พื้นที่ของทั้งสองประเทศในการเคลื่อนไหว ฉะนั้นหากผู้นำสองชาติบรรลุข้อตกลงความร่วมมือในการจำกัดเสรีของกลุ่มเหล่านี้ได้ ก็จะสามารถยุติการก่อเหตุรุนแรงได้เกือบทั้งหมด และเปิดพื้นที่เพื่อการพัฒนาร่วมกันต่อไป
มีรายงานด้วยว่า กำหนดการพบปะกับผู้นำมาเลเซีย เพิ่งได้รับการยืนยันและบรรจุเข้าเป็นวาระงานของนายกฯเศรษฐา โดยหลังจากเสร็จสิ้นการหารือ นายกฯต้องบินต่อไปที่ จ.สุโขทัย เพื่อร่วมงานประเพณีลอยกระทงทันที