ตำรวจปิดจ๊อบคดีเผาตู้เอทีเอ็มสุดอุกอาจริมถนนหน้าเทศบาลมะรือโบตก อ.ระแงะ นราธิวาส ที่แท้หนุ่มวิกลจริต แถมเคยก่อเหตุทุบทำลายตู้กดเงินด่วนมาก่อน อีกด้านหน่วยงานความมั่นคงตีปี๊บเฝ้าระวังพิเศษ รถเก๋งเสี่ยงถูกนำไปทำคาร์บอมบ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจคลี่คลายคดีวางเพลิงเผาตู้กดเงินด่วน หรือ เอทีเอ็ม ของธนาคารออมสิน ริมถนนหน้าเทศบาลตำบลมะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้อย่างรวดเร็ว หลังเกิดเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันศุกร์ที่ 10 พ.ย.66 ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุพบร่องรอยตู้เอทีเอ็มถูกเพลิงไหม้บริเวณช่องสำหรับให้ธนบัตรไหลออกมา ส่วนที่บริเวณพื้นหน้าตู้เอทีเอ็ม พบขวดน้ำอัดลมพลาสติกขนาดบรรจุ 500 มิลลิลิตร วางอยู่ 1 ขวด เป็นขวดที่ถูกคนร้ายบรรจุน้ำมันเชื้อเพลิงมาก่อเหตุ มีเศษผ้าชุบน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีร่องรอยถูกไฟเผาตกอยู่อีก 1 ผืน จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ที่ติดตั้งไว้บริเวณเสาไฟฟ้าด้านขวามือของตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่าสามารถบันทึกพฤติกรรมและรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายเอาไว้ได้ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายอิสมาแอ มะแซ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.มะรือโบตก ขณะก่อเหตุ นายอิสมาแอ สวมเสื้อแขนสั้น ใส่กางเกงขาสั้น สะพายกระเป๋าผ้า ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นคริสตัล ไปจอดใกล้ๆ ตู้เอทีเอ็มแล้วจึงเดินไปวางเพลิง ก่อนจะเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป
หลังได้ข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4506 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของนายอิสมาแอ พบเจ้าตัวพร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะไปก่อเหตุ จึงควบคุมตัวไปที่ สภ.ระแงะ เพื่อสอบปากคำ
พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบประวัติของนายอิสมาแอ ทราบว่าเป็นคนวิกลจริต เคยก่อเหตุใช้ไม้ทุบตู้เอทีเอ็มบริเวณเดียวกันมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ถึงอย่างไรเจ้าหน้าที่ก็จะทำสำนวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดี และให้ไปต่อสู้คดีในชั้นศาล
@@ เฝ้าระวังพิเศษ “เก๋ง ทะเบียน กทม.” เสี่ยงถูกใช้เป็นคาร์บอมบ์
อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ข้อมูลจากการสอบปากคำผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.ปัตตานี อ้างว่าได้ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นโซลูน่า สีเทา ป้ายทะเบียน ภภ 4737 กรุงเทพมหานคร คอยสนับสนุนเคลื่อนย้ายกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ปัตตานีและใกล้เคียง โดยทำงานกับกลุ่มของ นายอัซมัน เปาะเล๊าะ แต่ต่อมานายอัชมันถูกจับกุมในพื้นที่ ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงรายนี้จึงส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวให้กับบุคคลอื่นเพื่อเปลี่ยนมือ
หลังจากได้รับข้อมูลมา เจ้าหน้าที่ได้นำมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายที่รับช่วงรถต่อไป อาจนำรถไปดัดแปลง เปลี่ยนสี และป้ายทะเบียน เพื่อทำเป็น “คาร์บอมบ์” โจมตีฐานที่มั่นของเจ้าหน้าที่ หรือก่อเหตุระเบิดในเขตเมือง จึงได้ประสานแจ้งเตือนไปยังทุกหน่วยให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สายบุรี อ.ปะนาเระ อ.มายอ อ.ทุ่งยางแดง อ.กะพ้อ และ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี โดยอำเภอเหล่านี้มีเครือข่ายถนนสายรองเชื่อมต่อไปยัง จ.ยะลา และนราธิวาสได้