ยะลาป่วยโควิดพุ่งขึ้นอันดับ 3 ของประเทศ คลัสเตอร์ “มัรกัส” สะสม 450 ราย นราธิวาสจับมือมหาวิทยาลัยผุดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 เพิ่มอีก 380 เตียง ส่วนสงขลาสั่งปิด "ลิวงค์ สวิตเซอร์แลนด์จะนะ” ขณะที่นายกฯสั่งปิดแคมป์คนงาน กรุงเทพฯ พ่วง 4 จังหวัดใต้
วันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดยะลา จากข้อมูลล่าสุดพบผู้ติดเชื้อมากถึง 215 ราย ทำให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,326 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 9 ราย ยอดการติดเชื้อรายวันพุ่งขึ้นอันดับ 3 ของประเทศและยังมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
โดยการติดเชื้อรายใหม่มากที่สุดอยู่ที่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาตะห์ฟิสบ้านแบหอ ต.ห้วยกระทิง อ.กรงปินัง จำนวน 51 ราย ที่มัรกัสตาเซะ 48 ราย ที่บ้านเปาะยานิ (มัรกัสยะลา) อ.เมือง ฝั่งผู้หญิง 38 คน ผู้ป่วยคลินิคทางเดินหายใจ 22 คน ที่มัรกัสเบตง 10 คน อาลาเกาะห์ 2 ราย ปอเนาะพงยาวี 2 ราย และคลัสเตอร์อื่นๆ ร่วมกิจกรรมงานต่างๆ 44 ราย
นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า ยะลาในวันนี้ทำสถิติสูงสุดติด 1 ใน 5 ของประเทศที่มีผู้ป่วยสูงสุด ซึ่งเป็นกลุ่มที่ออกไปสอบสวนโรคและมีความเสี่ยงสูง ส่วนใหญ่อยู่ใน LQ (สถานกักกันระดับท้องถิ่น) ของแต่ละอำเภอ ภาพรวมผู้ป่วยสะสมประมาณ 1,300 คน มีเสียชีวิต 9 คน และมีรายงานเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าอีก 1 คนที่จะรายงานไปยัง ศบค.ในวันพรุ่งนี้ รวมเสียชีวิตสะสม 10 คน จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันปฎิบัติตามมาตรการด้วย
ขณะนี้มีผู้ป่วยรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแล้วเกือบ 600 คน โดยคนที่เข้ามาใหม่กับคนที่หายถือว่าสวนทางกัน วันนี้เข้ามาสองร้อยกว่า แต่รักษาหายสามสิบกว่าคน ก็จะทำให้มีปัญหาในเรื่องของการบริการ จึงได้มีการปรับตัวในเรื่องของการบริการในโรงพยาบาล จะมีการปรับรูปแบบโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยสีเขียว ก็จะมีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งจะมีการเพิ่มอีก 2 อาคาร อาคารละ 140 เตียง ขณะนี้มีจำนวนเตียงที่โรงพยาบาลสนามกว่า 1,000 เตียง ส่วนความพร้อมที่จะเพิ่มขึ้นอาทิตย์หน้าคงจะแล้วเสร็จ
@@ คลัสเตอร์มัรกัสยะลา ยังพุ่งไม่หยุด สะสม 450 ราย
สำหรับการระบาดคลัสเตอร์เปาะยานิ “มัรกัสยะลา” จากข้อมูลของสำนักงานควบคุมโรค (สคร.) เขตสุขภาพที่ 12 ตั้งแต่วันที่ 9-24 มิ.ย.64 จำนวนผู้ติดเชื้อมีจำนวน 450 ราย รายใหม่ 49 ราย แยกเป็นจำนวนผู้ป่วยโรงเรียนตะห์ฟีซุลกุรอาน มัรกัสยะลา 232 ราย กลุ่มกิจกรรมทางศาสนา 53 ราย ชุมชนมัรกัส 21 ราย HRC(ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง) 140 ราย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 4 ราย ซึ่งเกิดจากปัจจัยเสี่ยงกิจกรรมทางศาสนา การรับประทานอาหารร่วมกัน โรงเรียนประจำ หอพักอยู่กันหลายคน กิจกรรมส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นวงกล้วงมากขึ้นและมีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น หลายองค์กร หน่วยงานราชการ รวมทั้งร้านค้า ผู้ประกอบการและกลุ่มนักเรียนสถานบันการศึกษาอิสลาม เริ่มพบมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทำให้มีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงสูง ต้องเข้ารับการตรวจเชื้อที่ศูนย์ตรวจโควิด-19 เทศบาลนครยะลา ซึ่งเปิดให้บริการประชาชนกลุ่มเสี่ยงในเขตเทศบาลนครยะลา โดยการตรวจแบบรวดเร็วนี้จะรู้ผลภายใน 30 นาที
@@ เบตงวิกฤติ สั่งปิดชุมชนคุมการแพร่ระบาด
ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง และ ผอ.ศปก.อ.เบตง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมลงพื้นที่สำรวจกำหนดจุดปิดทางเข้า-ออก หมู่บ้านชุมชนเบตงฮูลู และชุมชนกาแป๊ะฮูลู หลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการกระจายออกไปในหลายพื้นที่เป็นวงกว้าง จึงได้เพิ่มมาตรการกำหนดพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง โดยห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกพื้นที่ดังกล่าว หากผู้ใดมีความจำเป็นจะต้องเดินทางเข้า–ออก ต้องแจ้งขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ มีผลตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.64 จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายตามคำสั่ง
ในพื้นที่ อ.เบตง พบผู้ป่วยรายใหม่ 66 ราย เป็นกลุ่มที่มาจากมัรกัสยะลา 3 ราย กลุ่มที่กักตัว LQ จำนวน 3 ราย และเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 60 ราย รวมผู้ป่วยสะสม 202 ราย พบรายใหม่ในพื้นที่ ต.เบตง 60 ราย ต.ยะรม 3 ราย ต.อัยเยอร์เวง 3 ราย พบใน State Quarantine (สถานกักกันของรัฐ) 2 ราย กำลังรักษา 151 ราย รักษาหายแล้ว 49 ราย ส่งต่อจำนวน 1 ราย และเสียชีวิต จำนวน 1 ราย
@@ นราธิวาสตั้ง รพ.สนามแห่งที่ 5 จำนวน 380 เตียง
น.พ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นปัจจุบัน มีผู้ป่วยยืนยันในโรงพยาบาล สะสมจำนวน 1,745 ราย กำลังรักษาจำนวน 543 ราย แยกเป็น รักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ ใน จ.นราธิวาส จำนวน 192 ราย และ รักษาตัวโรงพยาบาลสนาม 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลสนามศูนย์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพยาเสพติด และ โรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักพิงร่วมใจอุ่นไอรัก จำนวน 351ราย
จากการคาดการณ์ว่า จะมีแนวโน้มของจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เกิดขีดความสามารถของโรงพยาบาลสนามทั้ง 2 แห่งที่มีอยู่ จึงได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 5 ณ โรงยิมเนเซี่ยม มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดคลัสเตอร์มัรกัสเป็นการเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันจำนวน 180 ราย
สสจ.นราธิวาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้ จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณวันละ100 คน เพราะฉะนั้นในภาพรวมเรามีความจำเป็นที่จะต้องใช้เตียง 1,400 เตียง ซึ่งตอนนี้เรามีเตียงทั้งหมด 1,000 เตียง ซึ่งหลังจากที่เปิดโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 5 วันนี้ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 380 เตียง เราถึงจำเป็นที่จะต้องหาพื้นที่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอีก 500 เตียง ซึ่งในโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จัดไว้เพื่อดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่มาจากมัรกัสยะลา มัรกัสยี่งอ และมัรกัสศรีสาคร จึงออกแบบเพื่อให้ผู้ป่วยมีกิจกรรมและการดำรงชีวิตที่ไม่กระทบกับวิถีชีวิตปกติ
@@ ติดเชื้อจากมัรกัสยะลา ดับอีกรายที่ปัตตานี
ส่วนที่ จ.ปัตตานี สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่วงที่ได้รับผลพวงจากผู้ที่เดินทางกลับจากมัรกัสยะลา โดยล่าสุดมีผู้ที่เดินทางกลับจากมัรกัสยะลาเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายแล้ว เป็นชายอายุ 50 ปี อยู่ที่ ม.3 บ.สระมาลา ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 5 ราย
จากการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิดรายดังกล่าว ส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่ทั้ง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ในพื้นที่ ม.3 บ.สระมาลา ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี มีการนำแผงกันเส้นทางเข้าหมู่บ้าน เพื่อทำการปิดหมู่บ้านทันที เพราะพบว่า ในหมู่บ้านมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมการการเดินทางเข้าออกโดยไม่มีเหตุอันสมควร พร้อมทั้งนี้ยังได้นำดินทรายมาถมขวางถนนทางเข้าออกหมู่บ้านใน 6 เส้นทาง เพื่อป้องกันการแอบเข้าออกหมู่บ้านโดยไม่ได้ผ่านการคัดกรองของเจ้าหน้าที่อย่างเด็ดขาด
@@ สงขลาสั่งปิด "ลิวงค์ สวิตเซอร์แลนด์จะนะ”
ด้านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ได้มีประกาศคำสั่ง ที่ 42 / 2564 เรื่องการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา มีการแพร่ระบาดขยายวงกว้าง ในชุมชนใกล้สถานที่ท่องเที่ยว จึงได้ออกคำสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยว "ลิวงค์ สวิตเซอร์แลนด์จะนะ" ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ท่าหมอไทร อ.จะนะ จงสงขลา เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย.64 ถึงวันที่ 7 ก.ค.64 โดยห้ามประชาชนเดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดตามาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีโษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และอาจมีความผิดตามาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีและปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
@@ นายกฯสั่งปิดแคมป์คนงาน กรุงเทพและ 4 จว.ใต้ เสี่ยงโควิด
วันเดียวกันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงภายหลังการประชุมหารือวาระเร่งด่วนภายใต้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ระหว่างนายกรัฐมนตรี กับทีมแพทย์ที่ปรึกษา พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมีคลัสเตอร์จำนวนมาก ซึ่งตนก็เป็นห่วงจึงมีการหารือและสั่งการให้มีการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล รวมไปถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.สงขลา นราธิวาส ยะลา และปัตตานี ที่มีการแพร่ระบาด โดยให้กระทรวงแรงงานจ่ายเงินชดเชยเยียวยาและดูแลทั้งแรงงานไทยและต่างด้าว ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะทดลองใช้เป็นเวลา 1 เดือน และจะมีการจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทางไปมาข้ามจังหวัดด้วย
@@ยะลาป่วยโควิดใหม่โผล่มากกว่า 200 ราย
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา ประจำวันศุกร์ที่ 25 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 215 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 1,326 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 815 ราย รักษาหายแล้ว 502 ราย มีผู้เสียรายใหม่ 1 ราย เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 9 ราย อยู่ระหว่างรอผล 3,664 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 815 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 145 ราย โรงพยาบาลเบตง 120 ราย โรงพยาบาลรามัน 35 ราย โรงพยาบาลยะหา 79 ราย โรงพยาบาลธารโต 6 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 28 ราย โรงพยาบาลสนามยะลา 239 ราย และโรงพยาบาลสนามเบตง 21 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 415 ราย, อ.กรงปินัง 125 ราย, อ.เบตง 202 ราย, อ.รามัน 77 ราย, อ.บันนังสตา 214 ราย, อ.กาบัง 44 ราย อ.ธารโต 134 ราย และ อ.ยะหา 115 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 60 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ 5 ราย อ.สุไหงปาดี 1 ราย อ.ศรีสาคร 26 ราย อ.เมือง 5 ราย อ.แว้ง 1 ราย อ.ยี่งอ 4 ราย อ.ระแงะ 3 ราย อ.สุไหงโก-ลก 3 ราย อ.เจาะไอร้อง 4 ราย อ.ตากใบ 3 ราย อ.รือเสาะ 5 ราย และมีผู้ป่วยสะสม 1,805 ราย รักษาหายสะสม 1,198 ราย เสียชีวิตสะสม 4 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 613 ราย, อ.ระแงะ 102 ราย, อ.รือเสาะ 71 ราย, อ.บาเจาะ 195 ราย, อ.จะแนะ 103 ราย, อ.ยี่งอ 58 ราย, อ.ตากใบ 407 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 28 ราย, อ.สุไหงปาดี 60 ราย, อ.ศรีสาคร 66 ราย, อ.แว้ง 50 ราย, อ.สุคิริน 14 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 37 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 145 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,684 ราย รักษาหายแล้ว 608 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 6 ราย
ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 71 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 78 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 86 ราย โรงพยาบาลสนามสี่ 218 ราย โรงพยาบาลสนามที่ห้า 269 ราย โรงพยาบาลสนามที่หก 113 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 39 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 19 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 3 ราย โรงพยาบาลยะรัง 23 ราย โรงพยาบาลยะหริ่ง 19 ราย โรงพยาบาลไม้แก่น 22 ราย โรงพยาบาลมายอ 15 ราย โรงพยาบาลแม่ลาน 3 ราย โรงพยาบาลปะนาเระ 2 ราย โรงพยาบาลทุ่งยางแดง 5 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 30 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 47 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 8 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 615 ราย, อ.หนองจิก 268 ราย, อ.โคกโพธิ์ 58 ราย, อ.ยะหริ่ง 244 ราย, อ.สายบุรี 84 ราย, อ.ไม้แก่น 59 ราย, อ.แม่ลาน 23 ราย, อ.ยะรัง 142 ราย, อ.ปะนาเระ 53 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 18 ราย, อ.มายอ 66 ราย และอ.กะพ้อ 43 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 198 ราย แยกเป็นกลุ่มผู้สัมผัสในเรือนจำ 64 ราย กลุ่มผู้สัมผัสเชื้อในพื้นที่ 73 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 48 ราย กลุ่มรอบสอบสวนโรค 8 ราย กลุ่มสัมผัสเสี่ยง รร.สอนศาสนา 5 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 4,501 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 4,478 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,843 ราย รักษาหายแล้ว 2,642 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 16 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 1,330 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,299 ราย, อ.เมืองสงขลา 760 ราย, อ.จะนะ 364 ราย, อ.สะเดา 272 ราย, สทิงพระ 164 ราย, อ.บางกล่ำ 135 ราย, อ.เทพา 134 ราย, อ.สิงหนคร 121 ราย, อ.รัตภูมิ 43 ราย, อ.สะบ้าย้อย 39 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 21 ราย, อ.นาหม่อม 24 ราย, อ.ระโนด 41 ราย, อ.นาทวี 27 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 7 ราย, อ.ควนเนียง 3 ราย เป็นกรณีเรือนจำ รวม 995 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 29 รายและจากต่างประเทศ 23 ราย