คลัสเตอร์โรงงานปัตตานีเจอป่วยโควิดอื้อ จังหวัดสั่งปิดพื้นที่ห้ามเข้า-ออก พร้อมให้ทุกโรงงานใช้มาตรการป้องกันเข้มหวั่นซ้ำรอย ชาวบ้านร้องปิดจังหวัดหยุดแพร่เชื้อ ขณะที่สงขลาใช้มาตรการ Bubble and Seal จัดระเบียบคลัสเตอร์โรงงานทั้ง 7 แห่ง ด้านผู้ว่ายะลาแจงเริ่มล็อกดาวน์ 15 มิ.ย. มั่นใจ 3 อาทิตย์โควิดลง
วันจันทร์ที่14 มิ.ย.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทุกฝ่ายจับจ้องไปที่ จ.ปัตตานี หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 102 ราย ทั้งๆ ที่เคยเป็นจังหวัดที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยสาเหตุที่ผู้ติดเชื้อมีมาก มาจากคลัสเตอร์โรงงานรอยัลฟู้ดส์ โดยมีพนักงานถูกกักตัวภายในโรงงานจำนวน 65 ราย และกักกันตัวในแต่ละพื้นที่อีก 37 ราย
ล่าสุด "ทีมข่าวอิศรา" ลงพื้นที่ไปยังโรงงานรอยัลฟู้ดส์ ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี พบว่าด้านนอกโรงงานยังคงปิดตัวตามคำสั่งของทางจังหวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของโรงงานประจำอยู่บริเวณประตูทางเข้า-ออก เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเดินทางเข้า-ออกอย่างเด็ดขาด มีเพียงญาติของผู้ที่ถูกกักตัวบางรายนำเครื่องนุ่งห่มและเครื่องใช้ส่วนตัวไปมอบให้ โดยฝากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไป
ขณะที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ต่างเรียกร้องให้มีการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะที่มีข่าวจากพนักงานที่อยู่ด้านในว่า ยังมีการรวมตัวทำงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้หยุดสายการผลิตทั้งหมด ทำให้มีความกังวลว่าเชื้อโควิดอาจกระจายเพิ่มมากขึ้น
พนักงานของโรงงานรอยัลฟูดส์รายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้บางคนเริ่มมีอาการออนเพลีย เจ็บคอ เสียงแหบๆ ทางโรงงานก็ให้กักตัวพร้อมๆ กันหมดทั้งโรงงาน เดิมบางแผนกไม่ได้สัมผัสผู้ติดเชื้อโดยตรง ก็ไม่ได้หยุดทำงาน แต่หลังจากทราบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก ทางโรงงานจึงประกาศปิด แล้วห้ามเข้าออก แต่ข้างในบางแผนกยังทำงานปกติ บางแผนกก็หยุดทำงาน
"ได้ข่าวว่าต้นทางของเชื้อมาจากฝ่ายตัดหัวปลาไปสัมผัสกับคนที่แพปลา ตอนนี้มีประกาศปิดแพปลาแล้ว ส่วนคนที่เจ็บคอ ทางโรงงานแจ้งว่าต้องดูอาการไปก่อน ยังไม่มีการให้ยา แต่ก็มีรถพยาบาลเข้าไปภายในโรงงานแล้ว" พนักงานรายหนึ่ง กล่าว
ขณะที่ชาวบ้านใน จ.ปัตตานี บอกว่า อยากให้มีการปิดจังหวัดเหมือนเมื่อปีก่อน จะสามารถหยุดเชื้อได้แน่ ถ้ายังมีการเดินทางข้ามจังหวัด จะไม่สามารถหยุดเชื้อได้ อย่างคลัสเตอร์โรงงานรอยัลฟู้ดส์ ไม่ใช่คลัสเตอร์แรกที่เกิดขึ้น ที่สำคัญควรจะเร่งฉีดวัคซีนก่อน เพราะถ้าเกิดขึ้นจะคุมได้ยาก ยิ่งปล่อยไว้แบบนี้มีแต่แย่ลง
@@ สั่งคุมเข้มทุกโรงงานหวั่นซ้ำรอยรอยัลฟู้ดส์
ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ทางจังหวัดได้มีคำสั่งให้รปิดโรงงานรอยัลฟู้ดส์ ตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.64 หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรก และควบคุมคนงานทุกคนให้กักตัวภายในโกดังของโรงงาน ห้ามเคลื่อนย้ายคนโดยเด็ดขาด และให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปทำ swab พนักงานจนครบทุกคน และรอผลการตรวจเชื้อ ซึ่งยังพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มทุกวัน
สาเหตุของการแพร่ระบาดในครั้งนี้ เกิดจากมีผู้ติดเชื้อจากภายนอกเดินทางเข้าไปทำงานในโรงงาน ขณะที่ภายในโรงงานมีความแออัด อยู่กันใกล้ชิดกันมาก และมีการใช้คูลเลอร์น้ำดื่มร่วมกัน ทำให้การแพร่เชื้อเป็นไปอย่างง่ายดาย ขณะนี้ได้สั่งการไปยังโรงงานต่างๆ ให้จัดมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น และให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานแรงงานจังหวัด กับสาธารณสุขจังหวัด เข้าไปตรวจสอบ เพื่อให้ทำตามข้อปฏิบัติที่ทางจังหวัดกำหนดไว้
ส่วนข้อกังวลที่ว่า หากพบคลัสเตอร์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีก จะมีปัญหาเรื่องสถานที่กักตัวและสังเกตอาการนั้น รองผู้ว่าฯปัตตานี กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดปัตตานีมีความพร้อมในเรื่องสถานที่กักตัว เนื่องจากได้จัดเตรียมไว้แล้วใน 12 อำเภอของจังหวัด รวมถึงโรงพยาบาลสนามด้วย
@@ สงขลาลุยจัดระเบียบคสัสเตอร์ 7 โรงงาน
วันเดียวกัน นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายแพทย์อนุรักษ์ สารภาพ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้แถลงข่าวสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 พบว่ามีการแพร่ระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 7 โรงงานใน อ.สะเดา อ.เมือง อ.จะนะ และ อ.หาดใหญ่ รวมทั้งชุมชนเก้าเส้ง ชุมชนบาราเซาะ และชุมชนหลังโรงพยาบาลจิตเวชสงขลา ซึ่งเป็นชุมชนแออัด มีบ้านเรือนแน่นหนา จังหวัดสงขลาได้วางแผนจะดำเนินการล็อกดาวน์ชุมชนที่มีผู้ติดเชื้อ และนำผู้เสี่ยงสูงไปกักตัวที่ State Quarantine เพื่อลดการแพร่ระบาด โดยสาธารณสุขอำเภอเมืองสงขลา จะลงพื้นที่เร่งคัดกรองเพิ่มเติมในชุมชนบาราเซาะ
นพ.อนุรักษ์ กล่าวว่า การบริหารจัดการปัญหาการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงงานอุตสาหกรรม ได้นำมาตรการตามหลัก Bubble and Seal จาก จ.สมุทรสาครมาใช้จัดระเบียบคลัสเตอร์ในโรงงาน โดยปฏิบัติตามมาตรการอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะมาตรการ exit screening ที่จะต้องมีการตรวจภูมิคุ้มกันแรงงานทุกราย เพื่อหาผู้ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โดยให้ทางโรงงานจัดเตรียมสถานที่กักตัว และวางแผนการจัดการทั้งจัดการเรื่องการแยกช่วงเวลาการทำงานและระบบอื่นๆ พร้อมขอความร่วมมือให้ทุกโรงงานมีมาตรการที่เข้มงวดเพื่อไม่ให้เชื้อกระจายออกไปสู่ชุมชน
สำหรับตัวเลขของผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ของจังหวัดสงขลา ณ วันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.64 มีทั้งหมด 107 ราย ผู้ป่วยในกลุ่มที่มีการแพร่ระบาดในโรงงานทั้งหมด 65 รายในโรงงานทั้ง 7 แห่ง ประกอบด้วย โรงงานท็อปโกลฟ 24 ราย, โรงงานคิงส์ฟิชเชอร์ 22 ราย (เมียนมา 2 ), โรงงานศรีตรังโกลฟ 5 ราย (เมียนมา), โรงงานสงขลาแคนนิ่ง 5 ราย (เมียนมา 2, กัมพูชา 1), โรงงานสยามอินเตอร์ 4 ราย (เมียนมา 3), โรงงานแมนเอ 3 ราย และโรงงานไฮแคร์ 2 ราย เป็นชาวเมียนมา
@@ ยะลาล็อกดาวน์ 14 วันมั่นใจคุมโควิด
ที่ห้องประชุมศรียะลา ศาลากลางจังหวัดยะลา นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วย นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นพ.โนรมาน อัฮหมัดมูซา แพทย์โรงพยาบาลยะลา และนายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่จังหวัดยะลามีมาตรการการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำหรับบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่จังหวัดยะลา และมาตรการเกี่ยวกับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยทั้ง 2 มาตรการจะมีผลบังคับใช้ในอังคารที่ 15 มิ.ย.64 เป็นวันแรก และใช้ต่อเนื่อง 14 วัน
นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า มั่นใจว่า 3 สัปดาห์หลังจากนี้ไป หากพี่น้องประชาชนมีการปฏิบัติอย่างเข้มงวด ยอดโควิดของจังหวัดก็จะค่อยๆ ลดลง และจะมีการประเมิน หากดีขึ้นตามลำดับก็จะผ่อนคลายมาตรการตามความเหมาะสมต่อไป
ส่วน นพ.สงกรานต์ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ผู้ป่วยโควิด-19 ใน จ.ยะลา ทะลุหลัก 500 คนไปแล้ว และมีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน โดยการเสียชีวิตในจำนวนนี้เป็นการรับเชื้อโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนี้หากไม่ทำอะไรเลย ยอดผู้ป่วยอาจทะลุ 600 รายได้ ทางจังหวัดจึงต้องออกมาตรการและขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน
@@ สงขลาป่วยโควิดรายใหม่พุ่ง 107 ราย สะสม 2,773
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ประจำวันจันทร์ที่ 14 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ 641 ราย รักษาหายแล้ว 346 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 32 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 59 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 92 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 17 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลยะรัง 3 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 3 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 11 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 74 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 245 ราย, อ.หนองจิก 119 ราย, อ.โคกโพธิ์ 8 ราย, อ.ยะหริ่ง 95 ราย, อ.สายบุรี 48 ราย, อ.ไม้แก่น 3 ราย, อ.แม่ลาน 4 ราย, อ.ยะรัง 35 ราย, อ.ปะนาเระ 27 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 4 ราย, อ.มายอ 12 ราย และ อ.กะพ้อ 30 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 17 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 547 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 212 ราย (ส่งต่อรักษาโรงพยาลบาล ม.อ. 1 ราย) รักษาหายแล้ว 330 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 5 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันอีก 1,914 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 212 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 73 ราย โรงพยาบาลเบตง 36 ราย โรงพยาบาลยะหา 21 ราย โรงพยาบาลสนาม 82 ราย และจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 135 ราย, อ.กรงปินัง 44 ราย, อ.เบตง 56 ราย, อ.รามัน 63 ราย, อ.บันนังสตา 59 ราย, อ.กาบัง 4 ราย อ.ธารโต 114 ราย และ อ.ยะหา 72 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 11 ราย ในพื้นที่ อ.บาเจาะ 7 ราย (ต.กาเยาะมาตี, ต.บาเระเหนือ, ต.บาเระใต้) อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย (ต่างประเทศ) และ อ.เมือง 3 ราย (ต.ลำภู) มีผู้ป่วยสะสม 1,187 ราย รักษาหายแล้ว 1,031 ราย เสียชีวิตสะสม 2 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 530 ราย, อ.ระแงะ 43 ราย, อ.รือเสาะ 36 ราย, อ.บาเจาะ 98 ราย, อ.จะแนะ 23 ราย, อ.ยี่งอ 9 ราย, อ.ตากใบ 352 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 11 ราย, อ.สุไหงปาดี 44 ราย, อ.ศรีสาคร 11 ราย, อ.แว้ง 21 ราย, อ.สุคิริน 4 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 4 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 107 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงในโรงงาน 65 ราย กลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 35 ราย และกลุ่มรอสอบสวนโรค 7 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 2,773 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,750 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,263 ราย รักษาหายแล้ว 1,497 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 13 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 388 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,073 ราย, อ.เมืองสงขลา 343 ราย, อ.บางกล่ำ 107 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 257 ราย, อ.รัตภูมิ 19 ราย, อ.สะเดา 174 ราย, อ.สิงหนคร 29 ราย, อ.เทพา 6 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 22 ราย, อ.นาทวี 9 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 19 ราย, อ.สทิงพระ 3 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 4 ราย, อ.ควนเนียง 2 ราย เป็นกรณีเรือนจำ จ.สงขลา 640 ราย เป็นเรือนจำกลาง 1 ราย เป็นกรณีทัณฑสถานหญิง จ.สงขลา 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 19 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย