ศบค.ยะลา สั่งล็อกดาวน์พื้นที่รอยต่อเข้า-ออกเมือง ห้ามนั่งดื่มกินในร้าน พร้อมสั่งปิด 2 หมู่บ้านเสี่ยงใน อ.ธารโต ขณะที่นายอำเภอแว้ง นราธิวาส ขอปิดหมู่บ้านจาแบดูวอ หลังเจอคลัสเตอร์ใหม่ ด้านผู้ว่าฯสงขลาสั่งเข้ม งดจัดกิจกรรม งานเลี้ยง ส่วนยอดป่วยโควิดเรือนจำสงขลาพุ่ง 192 ราย
วันเสาร์ที่ 12 มิ.ย.64 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) ระลอกที่ 3 ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค.ต่อเนื่องต้นเดือน เม.ย.64 เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่อง
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดยะลา ได้ออกคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของจังหวัด ที่ 89/2564 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดฯ สำหรับบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่ จ.ยะลา และมาตรการเกี่ยวกับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม โดยให้มีแนวทางปฏิบัติดังนี้
1. งดการเดินทางเข้า–ออกพื้นที่ จ.ยะลา เว้นแต่กรณีมีความจำให้แจ้งต่อหัวหน้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำด่านตรวจ และให้ผู้ที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่ จ.ยะลา ต้องสแกน QR Code (YALA SAFE ALERT) ณ ด่านตรวจรอยต่อพื้นที่จังหวัด และให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ทันที มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.64 ถึงวันที่ 7 ก.ค.64
2. ให้ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ร้านน้ำชา กาแฟ รวมทั้งร้านจำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ งดนั่งรับประทานในร้าน และเปิดให้บริการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น. มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.64 ถึงวันที่ 7 ก.ค.64
หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษทั้งจำและปรับ
@@ ปิด 2 หมู่บ้านธารโต "พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง"
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ยังได้ออกประกาศคำสั่งที่ 92/2564 เรื่อง การกำหนดพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดฯ โดยได้กำหนดให้พื้นที่ หมู่ 2 บ้านหน้าเกษตร และ หมู่ 6 บ้านมายอ ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง เพื่อควบคุมยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออกพื้นที่เสี่ยงเสี่ยงเฝ้าระวังทั้ง 2 หมู่บ้าน หากมีความจำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ หากฝ่าฝืนคำสั่งมีโทษทั้งจำและปรับตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.64 เป็นต้นไป
@@ "แว้ง" สั่งปิดหมู่บ้านจาแบดูวอ หลังพบคลัสเตอร์ใหม่
สถานการณ์ในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่บ้านจาแบดูวอ ต.เอราวัณ อ.แว้ง ซึ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวน 22 ราย จนเป็นคลัสเตอร์บ้านจาแบดูวอนั้น
นายวิทยา นุชนานนท์เทพ สาธารณสุขอำเภอแว้ง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของคลัสเตอร์บ้านจาแบดูวอ คือ มีครอบครัวหนึ่งเดินทางไปสู่ขอเจ้าสาวที่ อ.ธารโต จ.ยะลา เมื่อกลับมาแล้วรู้สึกเหมือนเป็นไข้ และมีอาการคล้ายเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จึงไปตรวจที่โรงพยาบาล แล้วได้รับผลยืนยันว่าติดเชื้อ จึงส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้ swab ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัวเพิ่ม โดยครอบครัวนี้มีทั้งหมด 10 ราย ขณะนี้พบติดเชื้อแล้ว 5 ราย อีก 5 รายผลตรวจรอบแรกเป็นลบ จึงอยู่ระหว่างรอ swab รอบที่ 2
ส่วนอีก 1 รายมีอาการคล้ายติดเชื้อโควิด-19 จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาล พบติดเชื้อ จากการรสอบสวนโรคพบว่าผู้ติดเชื้อรายนี้มีประวัติสัมผัสกับบุคคลในครอบครัวคลัสเตอร์บ้านจาแบดูวอ ดังนั้นจึงต้องทำงานเชิงรุกในการสอบสวนโรคและนำผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ากักตัวที่สถานกักกันของรัฐ (LQ) เบื้องต้นนำเข้ากักตัวแล้วจำนวน 22 ราย
ทั้งนี้ผลจากการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่บ้านจาแบดูวอ รวม 6 ราย จากคลัสเตอร์เดียวกัน ทำให้ นายรุสดี ปูรียา นายอำเภอแว้ง ได้เสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดนราธิวาส (ศบค.นธ) ปิดเส้นทางเข้า-ออกบ้านจาแบดูวอ ที่เป็นรอยต่อกับพื้นที่อื่นๆ จำนวน 3 เส้นทาง คือ บ้านจาแบดูวอ-บลูกาปัส, บ้านจาแบดูวอ-สากอ และบ้านจาแบดูวอ-หินสูง โดยไม่อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออกได้ ยกเว้นมึเหตุผลจำเป็น เช่น ออกไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต โดยให้สิทธิ์ครอบครัวละ 1 คน
อีกทั้งได้ประสานขอรับการสนับสนุนถุงยังชีพและความช่วยเหลือด้านต่างๆ สำหรับบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่บ้านจาแบดูวอ เบื้องต้นมาตรการดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 14 วัน เริ่ม12 มิ.ย.64 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ ศบค.นราธิวาส ประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
@@ ศอ.บต.มอบเครื่องอุปโภคบริโภค 3 หมู่บ้านเกาะสะท้อน
ส่วนที่บริเวณสี่แยกบ้านโคกกระเปาะ หมู่ 5 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่ม แก่ผู้แทน 3 หมู่บ้าน คือหมู่ 2, 5 และ 6 ในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน ที่มีคำสั่งปิดหมู่บ้านต่ออีก 14 วัน โดยสิ่งของที่นำไปมอบให้ ประกอบด้วย ปลากระป๋อง จำนวน 80 ลัง รวม 3,840 กระป๋อง และผลฟักทอง จำนวน 70 ผล
พล.ร.ต.สมเกียรติ ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งให้มีการปิดหมู่บ้าน พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง สิ่งสำคัญคือการดูแลปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อเป็นกำลังใจให้กัน และก้าวข้ามสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน
@@ ผู้ว่าฯสงขลาสั่งเข้มงดจัดกิจกรรม-งานเลี้ยง
วันเดียวกันนี้ ที่ห้องประชุม CEO ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานการประชุมหารือซักซ้อมบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีรองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายอำเภอทั้ง 16 อำเภอ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยผู้ว่าฯ ได้กำชับให้นายอำเภอทุกอำเภอบังคับใช้กฎหมายให้เข้มงวดมากขึ้น
โดยเรื่องการลักลอบจัดกิจกรรมที่จังหวัดห้ามในช่วงสถานการณ์โควิด ไม่ว่าจะเป็นการจัดเลี้ยงที่มีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก, การขายสุราหรือสิ่งมึนเมาในร้านอาหาร และนั่งดื่มในร้าน, การฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย และกำชับให้เข้มงวดการนั่งรับประทานอาหารในร้านให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ส่วนประเด็นการลักลอบเข้ามาในพื้นที่ของแรงงานต่างด้าว และเรื่องของการห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน ให้เน้นย้ำกับทางผู้ประกอบการให้จัดระบบแรงงานในปกครองให้ดีที่สุดเพื่อลดการแพร่ระบาด
@@ โควิดเรือนจำสงขลาพุ่ง 192 ราย ปัตตานีติดเชื้อ 41
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย.64 มีดังนี้
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 41 ราย แยกเป็นกลุ่มโรงงานรอแยลฟู้ดส์ปัตตานี (อ.เมือง, อ.ปะนาเระ, อ.ยะหริ่ง) จำนวน 31 ราย และกลุ่มที่สัมผัสผู้ป่วย (อ.ยะหริ่ง, โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี) 10 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ 494 ราย รักษาหายแล้ว 334 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 31 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 66 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 18 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลยะรัง 4 ราย โรงพยาบาลสิโรรส 7 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาแอดมิท 31 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 194 ราย, อ.หนองจิก 95 ราย, อ.โคกโพธิ์ 7 ราย, อ.ยะหริ่ง 67 ราย, อ.สายบุรี 47 ราย, อ.ไม้แก่น 2 ราย, อ.แม่ลาน 3 ราย, อ.ยะรัง 28 ราย, อ.ปะนาเระ 16 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 4 ราย, อ.มายอ 7 ราย และ อ.กะพ้อ 16 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 22 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 507 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 183 ราย รักษาหายแล้ว 319 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 5 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันอีก 1,687 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 183 ราย แยกเป็น โรงพยาบาลยะลา 67 ราย โรงพยาบาลเบตง 31 ราย โรงพยาบาลยะหา 13 ราย โรงพยาบาลบันนังสตา 2 ราย โรงพยาบาลสนาม 70 ราย และจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 121 ราย, อ.กรงปินัง 44 ราย, อ.เบตง 50 ราย, อ.รามัน 63 ราย, อ.บันนังสตา 46 ราย, อ.กาบัง 4 ราย อ.ธารโต 109 ราย และ อ.ยะหา 70 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ป่วยรายใหม่ 24 ราย ในพื้นที่ อ.ตากใบ 13 ราย (ต.เกาะสะท้อน) อ.บาเจาะ 5 ราย (ต.กาเยาะมาตี, ต.ปะลุกาสาเมาะ) อ.แว้ง 3 ราย( ต.เอราวัณ) อ.ระแงะ 2 ราย (ต.กาลิซา) และ อ.สุไหงปาดี 1 ราย (ต.ริโก๋) มีผู้ป่วยสะสม 1,145 ราย รักษาหายแล้ว 995 ราย เสียชีวิตสะสม 2 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 524 ราย, อ.ระแงะ 43 ราย, อ.รือเสาะ 36 ราย, อ.บาเจาะ 82 ราย, อ.จะแนะ 16 ราย, อ.ยี่งอ 9 ราย, อ.ตากใบ 341 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 10 ราย, อ.สุไหงปาดี 44 ราย, อ.ศรีสาคร 11 ราย, อ.แว้ง 20 ราย, อ.สุคิริน 4 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 4 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 210 ราย แยกเป็นกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ 192 ราย กลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 15 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 2 ราย และกลุ่มคนงานโรงงาน 1 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 2,576 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 2,554 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 22 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,117 ราย รักษาหายแล้ว 1,447 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสมเป็น 12 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 1,583 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 1,032 ราย, อ.เมืองสงขลา 281 ราย, อ.บางกล่ำ 103 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 250 ราย, อ.รัตภูมิ 19 ราย, อ.สะเดา 94 ราย, อ.สิงหนคร 27 ราย, อ.เทพา 6 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 22 ราย, อ.นาทวี 9 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 19 ราย, อ.สทิงพระ 3 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 4 ราย, อ.ควนเนียง 2 ราย เป็นกรณีเรือนจำ จ.สงขลา 640 ราย เป็นกรณีทัณฑสถานหญิง จ.สงขลา 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 19 ราย และจากต่างประเทศ 22 ราย