นราธิวาสยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด ทั้งขยายเวลาปิด ต.เกาะสะท้อน 9 หมู่บ้านต่อไป ตำรวจน้ำตากใบออกตรวจเข้มตลอดแนวแม่น้ำโก-ลก สกัดลอบข้ามแดน ด้านศบค.ยะลา สั่งยกเลิกปิด 2 หมู่บ้านเสี่ยง อ.กรงปินัง หลังไม่พบผู้ป่วยติดต่อกัน 14 วัน ขณะที่สงขลาเจอติดเชื้อรายใหม่โผล่หมู่บ้านเดียว 35 ราย
วันที่ 24 พ.ค.64 ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยเฉพาะพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคนั้น
นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอตากใบ กล่าวว่า ได้ยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้ง 9 หมู่บ้านใน ต.เกาะสะท้อน โดยขยายระยะเวลาการปิดพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน และปิดเส้นทางเข้าออกระหว่างหมู่บ้านทั้งหมด จากเดิมวันที่ 9 -22 พ.ค.64 ได้ขยายเวลาออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพื่อตัดวงจรการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ หลังพบว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมจำนวน 83 ราย โดยมีปัจจัยความเสี่ยงคือพฤติกรรมของประชาชนที่ยังฝ่าฝืนมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่กำหนด มีการรวมตัว และไม่สวมหน้ากากอนามัย จึงจำเป็นต้องยกระดับมาตรการในพื้นที่ให้มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 สงขลา ได้เตรียมลงพื้นที่เข้าคัดกรองเชิงรุกในทุกหมู่บ้าน เพื่อหากลุ่มเสี่ยงสูงเข้าswab และส่งเข้าสถานกักกันให้เร็วที่สุด
นายอำเภอตากใบ กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทั้ง 9 หมู่บ้านของ ต.เกาะสะท้อน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสะท้อน และภาคส่วนต่างๆ ได้นำถุงยังชีพเข้าแจกจ่ายครอบคลุมทุกครัวเรือนทั้งตำบลแล้ว ประกอบกับสำนักนายกรับมนตรีได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดนราธิวาส ดำเนินการจัดหาถุงยังชีพมาแจกจ่ายแก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการปิดตำบลด้วย จึงมั่นใจว่า ประชาชนในพื้นที่จะดำรงชีพอยู่ได้โดยไม่ได้รับผลกระทมบมากนัก พร้อมย้ำการปิดบังข้อมูล หรือฝ่าฝืนมาตรการที่กำหนด ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อำเภอตากใบ จะเน้นดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยขณะนี้ได้ดำเนินคดีกับคลัสเตอร์เกาะสะท้อน และผู้ที่ฝ่าฝืนกฎลักลอบเดินทางข้ามจังหวัดไปแล้ว
@@ตำรวจน้ำตากใบ ตรวจเข้มตลอดแนวแม่น้ำโก-ลก
ส่วนที่ด่านศุลกากรตากใบ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทาง พ.ต.ต.ธรรมปพน ช่วงฉ่ำ สว.ส.รน.4 กก.7 บก.รน. (ตำรวจน้ำตากใบ) ได้นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจน้ำลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยขึ้นเรือเร็ว รน.79 บริเวณสถานีตำรวจน้ำตากใบ ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นปฏิบัติการตรวจสอบตลอดแนวแม่น้ำโก-ลก ที่กั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทยด้าน จ.นราธิวาส กับรัฐกลันตันของประเทศมาเลเซีย ลาดตะเวนทางน้ำโดยตลอดแนวตะเข็บชายแดน อ.ตากใบ ระยะทาง 21 กิโลเมตร จากปากแม่น้ำโกลก-ม.1 บ้านแฆแบ๊ะ ต.นานาค อ.ตากใบ
ซึ่งพื้นที่ตลอดแนวแม่น้ำโก-ลกดังกล่าว เป็นช่องทางธรรมชาติที่ถือว่าเป็นจุดสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะมีผู้ลักลอบข้ามฝั่งเข้ามายังประเทศไทยโดยอาศัยช่องทางธรรมชาติเหล่านี้ ที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อการที่จะสกัดกั้นการเล็ดลอดของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่นำมาแพร่ระบาดในฝั่งประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ประเทศมาเลเซียกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย เข้าเสริมผลัดเปลี่ยนหมนเวียนในแต่ละผลัดในการเฝ้าระวังป้องกันการลักลอบข้ามแดนอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดแนวตะเข็บ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ให้เฝ้าสอดส่องดูแลพร้อมจัดกำลังคุมเข้มพื้นที่แนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าพื้นที่โดยผิดกฎหมาย อีกทั้งได้ป้องกัน สกัดกั้นการนำบุคคลต่างด้าวเข้าในประเทศไทย
@@เบตงลาดตระเวนชายแดนสกัดลอบหนีเข้าเมือง
วันเดียวกันนี้ ที่ อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง ได้มอบหมายทุกฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรวจคนเข้าเมือง ตชด.445 และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน วางมาตรการ จัดกำลังวางแผน บูรณาการร่วมออกลาดตระเวน ตามแนวกำแพงตลอดแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เฝ้าระวังหมู่บ้านติดชายแดนมาเลเซีย โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาและช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านขั้นตอนการตรวจคัดกรองโควิด-19 และกักตัว 14 วัน ของกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าวในมาเลเซีย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่นำพาโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้จากประเทศมาเลเซีย เข้ามาแพร่ระบาดในพื้นที่ชายแดนไทย อ.เบตง
โดยสถานการณ์ของประเทศมาเลเซีย มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างรุนแรงและมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่ อย่างสายพันธุ์แอฟริกาใต้และสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งล่าสุดมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ในประเทศมาเลเซีย 6,320 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งประเทศอยู่เพิ่มเป็น 505,115 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 50 ราย
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า การคัดกรองด่านพรมแดนยังคงดำเนินการตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อป้องกันและควบคุมโรคอย่างเข้มงวด รวมทั้งเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ตามตะเข็บชายแดนตามช่องทางธรรมชาติ จัดกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงเคยจับกุมแรงงานไทยในมาเลเซีย ที่ลักลอบข้ามแดนตามธรรมชาติได้ 4 คน
@@ศบค.ยะลา สั่งเปิด 2 หมู่บ้าน อ.กรงปินัง
ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดยะลา ได้มีประกาศคำสั่งจังหวัดยะลาที่ 73/2564 เรื่อง ยกเลิกพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่ จังหวัดยะลา (ฉบับที่ 2 ) เนื่องจากมีบางพื้นที่เสี่ยงควบคุมฯ ไม่มีผู้ป่วยยืนยันและและผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่มเป็นระยะเวลา 14 วันติดต่อกัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งสูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กำหนดให้เป็นพื้นที่เสี่ยง จึงมีมาตรการผ่อนปรนยกเลิกพื้นที่เสี่ยงควบคุม ดังต่อไปนี้
1.บ้านโต๊ะซูแม หมู่ที่ 2 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา
2.บ้านกีเยาะ หมู่ที่ 4 ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา
โดยประกาศคำสั่งดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 64 เป็นต้นไป
ทำให้ จ.ยะลา ยังคงเหลือหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีก 13 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.รามัน 8 หมู่บ้าน , อ.กาบัง 2 หมู่บ้าน อ.บันนังตา 2 หมูบ้าน และ อ.เมืองยะลา 1 หมู่บ้าน
@@สงขลาเจอติดเชื้อรายใหม่โผล่หมู่บ้านเดียว 35 ราย
ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ใน จ.สงขลา โดยเฉพาะพื้นที่บ้านโคกเมา หมู่ที่ 11 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ที่พบผู้ติดเชื้อโควิดในหมู่บ้านดังกล่าวถึง 35 ราย กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ที่มีสถานการณ์น่าเป็นห่วง
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอ สาธารณสุขอำเภอและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ ได้มีการประชุมหารือร่วมกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและได้กำหนดล็อคดาวน์ เฉพาะโซนพื้นที่ซึ่งมีการแพร่ระบาดหนักเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.64- 7 มิ.ย.64 บริเวณพื้นที่หน้าโรงเรียนบ้านโคกเมา หมู่ที่ 11 , 7 และใกล้เคียง โดยกำหนดจุดล็อคดาวน์ 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 ปิดสี่แยกเข้าโรงเรียนบ้านโคกเมา จุดที่ 2 สี่แยกบ้านพี่เจี๊ยบ และจุดที่ 3 บริเวณสามแยกโรงเรียนป่าเรียนวิทยา โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในหมู่บ้าน รวมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และ อสม.ตั้งจุดตรวจคัดกรองเส้นทางเข้า-ออกหมู่บ้าน
ส่วนกรณีที่มีข่าวลือว่า ผู้ติดเชื้อในพื้นที่ บ้านโคกเมา เป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดผู้ป่วยทั้งหมดแล้วพร้อมกับขอความร่วมมือให้ชาวบ้าน ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล เพื่อความปลอดภัยและสกัดการแพร่เชื้อไม่ให้ขยายวงกว้างเพิ่มขึ้น
@@โควิดชายแดนใต้ทุกจังหวัดยังน่าเป็นห่วง
ด้านรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และจ.สงขลา ประจำวันจันทร์ที่ 24 พ.ค.64
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 274 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 139 ราย รักษาหายแล้ว 131 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 1,174 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 83 ราย, อ.กรงปินัง 41 ราย, อ.เบตง 18 ราย, อ.รามัน 62 ราย, อ.บันนังสตา 27 ราย, อ.กาบัง 4 ราย และ อ.ธารโต 39 ราย ส่วน อ.ยะหา ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ โดยมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 139 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 42 ราย โรงพยาบาลเบตง 4 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 1 ราย โรงพยาบาลสนาม 65 ราย และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ 27 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ 305 ราย รักษาหายแล้ว 256 ราย และเป็นจังหวัดเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 8 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 16 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 10 ราย โรงพยาบาลสนามสาม 3 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 1 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสายบุรี 2 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาแอดมิท 7 ราย และส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 140 ราย, อ.หนองจิก 84 ราย, อ.โคกโพธิ์ 4 ราย, อ.ยะหริ่ง 26 ราย, อ.สายบุรี 13 ราย, อ.ไม้แก่น 1 ราย, อ.แม่ลาน 3 ราย, อ.ยะรัง 13 ราย, อ.ปะนาเระ 12 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 3 ราย และ อ.มายอ 5 ราย ส่วน อ.กะพ้อ เป็นอำเภอเดียวที่ยังไม่พบผู้ป่วย
จ.นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6 ราย แยกเป็นในพื้นที่ อ.เมือง 3 ราย (ต.บางนาค,ต.ลำภู) , อ.บาเจาะ 1 ราย (ต.บาเระเหนือ) , อ.ระแงะ 1 ราย (ต.บาโงสะโต) และ อ.ยี่งอ 1 ราย (ต.จอเบาะ) ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม 716 ราย รักษาหายแล้ว 601 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 438 ราย, อ.ระแงะ 18 ราย, อ.รือเสาะ 27 ราย, อ.บาเจาะ 27 ราย, อ.จะแนะ 13 ราย, อ.ยี่งอ 6 ราย, อ.ตากใบ 129 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 7 ราย, อ.สุไหงปาดี 22 ราย, อ.ศรีสาคร 7 ราย อ.แว้ง 14 ราย, อ.สุคิริน 2 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 33 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 3 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,278 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 1,266 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 408 ราย รักษาหายแล้ว 864 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 173 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 785 ราย, อ.เมืองสงขลา 170 ราย, อ.บางกล่ำ 59 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 144 ราย, อ.รัตภูมิ 15 ราย, อ.สะเดา 9 ราย, อ.สิงหนคร 11 ราย, อ.เทพา 5 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 9 ราย, อ.นาทวี 6 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 11 ราย, อ.สทิงพระ 2 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 3 ราย, อ.ควนเนียง 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 13 ราย และจากต่างประเทศ 12 ราย