สถานการณ์โควิด-19 ที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีข่าวจากสื่อของรัฐเอง อ้างว่าพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้จากคลัสเตอร์เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แต่แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้
เพจเฟซบุ๊กของ สวท.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส รายงานข่าวว่า “กระทรวงสาธารณสุขตรวจพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้ เชื้อสาย B.1.351 จากคลัสเตอร์ตำบลเกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
#เชื้อสายนี้ มีการกลายพันธุ์ที่ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันมนุษย์ต่อไวรัสและลดประสิทธิภาพการทำงานของวัคซีน
#ดังนั้นจึงต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมจำนวนประชากรให้มากที่สุด
#อำเภอรอยต่อควรหามาตรการควบคุมป้องกันการสัญจรบ้างแล้วนะคะ เพราะขณะนี้ตากใบผู้ติดเชื้อสะสมเฉพาะจากคลัสเตอร์เกาะสะท้อน 78 รายแล้วค่ะ”
ข่าวนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนในวงกว้าง เพราะเท่ากับเป็นการปรากฏตัวของไวรัสโควิดสายพันธุ์ร้ายแรงอีกสายพันธุ์หนึ่งในประเทศไทย หลังจากเพิ่งพบสายพันธุ์อินเดีย จากคลัสเตอร์แคมป์คนงานก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร
แต่หลังจากโพสต์ข่าวได้ไม่นาน ท่ามกลางความปั่นป่วนเช็คข่าวกันวุ่นวาย ในเวลาต่อมาทาง สวท.สุไหงโก-ลก ได้ลบข่าวเก่าทิ้ง และโพสต์ข้อความใหม่ว่า “เพื่อความเป็นเอกภาพ รอให้กระทรวงสาธารณสุขประกาศอย่างเป็นทางการนะคะ”
@@ เรือนจำนราฯ โต้ข่าวทีวีช่องดัง
ขณะเดียวกัน มีข่าวจากเว็บไซต์สื่อทีวีดิจิทัลแห่งหนึ่งว่า เชื้อโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้มาจากคลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาส ที่พบการระบาดมาก่อนหน้านี้ (ก่อนคลัสเตอร์เรือนจำที่ติดเชื้อวันละหลายร้อยถึงหลายพันคนในปัจจุบัน) แต่ประเด็นนี้ ทางเรือนจำนราธิวาสได้เผยแพร่ข้อมูลยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะคลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาสไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่มานานแล้ว ได้แก้ปัญหาจนจบ และปิดคลัสเตอร์ไปแล้ว จึงไม่มีทางพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้อีก
@@ แม่ทัพ 4 ปัดข่าวโควิดสายพันธุ์ใหม่ ให้รอลุ้นพรุ่งนี้
พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ถึงข่าวการพบเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า ข่าวออกมา 2 ส่วน
หนึ่ง คือ คลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาสที่พบการระบาดมาก่อนหน้านี้ ตรวจสอบแล้ว ข่าวไม่ถูกต้อง เพราะคลัสเตอร์เรือนจำ ได้แก้ปัญหาจบไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มาระยะหนึ่ง และได้ปิดคลัสเตอร์นี้ไปแล้ว เนื่องจากผู้ติดเชื้อใหม่เป็น 0 ฉะนั้นจึงไม่มีผู้ติดเชื้อสายพันธ์แอฟริกาใต้อย่างแน่นอน
สอง คือ คลัสเตอร์เกาะสะท้อน ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งใน อ.ตากใบ ตำบลนี้ถูกสั่งปิดมาตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.64 ไม่มีคนเข้า-ออก แต่มีการตรวจเชื้อเพิ่มเติม 2-3 ราย ขณะนี้ผลอย่างเป็นทางการยังไม่ออก ต้องรอพรุ่งนี้ (23 พ.ค.) จึงยังไม่มีการยืนยันสายพันธุ์ว่าเป็นสายพันธุ์ใด แต่มีข้อมูลว่าน่าจะติดเชื้อโควิด
@@ ย้อนรอยคลัสเตอร์เกาะสะท้อน ปิดตำบลยังเอาไม่อยู่
สำหรับ คลัสเตอร์เกาะสะท้อน เป็นตำบลหนึ่งของ อ.ตากใบ เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่ทำให้ทางการต้องสั่ง “ปิดตำบล” ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา และน่าจะเป็นการสั่งปิดแบบ ”ล็อกดาวน์ตำบล” เป็นตำบลแรกของประเทศในการระบาดระลอก 3
เบื้องต้นคำสั่งปิดตำบลจะสิ้นสุดในวันเสาร์ที่ 22 พ.ค. แต่ปรากฏว่ายังมีผู้สัมผัสเสี่ยงจากคลัสเตอร์ย่อยในเกาะสะท้อน เป็นกลุ่มเยาวชนที่มีพฤติกรรมรวมตัวสังสรรค์ พบผู้ติดเชื้อ 4 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 40 ราย ทางนายอำเภอตากใบจึงทำเรื่องเสนอปิดตำบลต่ออีกอย่างน้อย 14 วัน
ตำบลเกาะสะท้อนมี 9 หมู่บ้าน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมีทั้งสิ้น 1,832 ครัวเรือน ทางจังหวัดได้ดูแลด้วยการแจกจ่ายถุงยังชีพและแจกอาหาร โดยไม่อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออกตำบล เพื่อหวังหยุดการแพร่ระบาดให้ได้
@@ ยังแรงไม่หยุด! ยะลาติดเชื้อพุ่ง 44 ราย
วันเสาร์ที่ 22 พ.ค.64 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สงขลา
เริ่มที่ จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 44 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 236 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 114 ราย รักษาหายแล้ว 118 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 2,685 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 79 ราย, อ.กรงปินัง 41 ราย, อ.เบตง 17 ราย, อ.รามัน 61 ราย, อ.บันนังสตา 12 ราย, อ.กาบัง 4 ราย และ อ.ธารโต 22 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 115 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 41 ราย โรงพยาบาลเบตง 3 ราย โรงพยาบาลกรงปินัง 1 ราย โรงพยาบาลสนาม 49 ราย และศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ 21 ราย
จ.ปัตตานี ในวันนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่เท่าเดิมที่ 290 ราย รักษาหายแล้ว 235 ราย และเป็นจังหวัดเดียวในสามจังหวัดแดนใต้ที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 7 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 22 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 18 ราย โรงพยาบาลสนามสาม 4 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 2 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 140 ราย, อ.หนองจิก 80 ราย, อ.โคกโพธิ์ 4 ราย, อ.ยะหริ่ง 24 ราย, อ.สายบุรี 9 ราย, อ.ไม้แก่น 1 ราย, อ.แม่ลาน 1 ราย, อ.ยะรัง 10 ราย, อ.ปะนาเระ 12 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 3 ราย และ อ.มายอ 5 ราย ส่วน อ.กะพ้อ เป็นอำเภอเดียวที่ยังไม่พบผู้ป่วย
จ.นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ในพื้นที่ อ.ตากใบ รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 685 ราย รักษาหายแล้ว 592 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 433 ราย, อ.ระแงะ 17 ราย, อ.รือเสาะ 26 ราย, อ.บาเจาะ 21 ราย, อ.จะแนะ 13 ราย, อ.ยี่งอ 5 ราย, อ.ตากใบ 117 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 7 ราย, อ.สุไหงปาดี 21 ราย, อ.ศรีสาคร 7 ราย อ.แว้ง 14 ราย, อ.สุคิริน 2 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย แยกเป็นกลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 17 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 1 ราย และกลุ่มสัมผัสจากพื้นที่เสี่ยงอื่น 2 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,183 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 1,171 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 352 ราย รักษาหายแล้ว 826 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มจำนวน 1 ราย เป็นชาย อายุ 83 ปี ชาว อ.หาดใหญ่ เสียชีวิตสะสม 6 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 1,085 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 774 ราย, อ.เมืองสงขลา 162 ราย, อ.บางกล่ำ 36 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 97 ราย, อ.รัตภูมิ 15 ราย, อ.สะเดา 8 ราย, อ.สิงหนคร 10 ราย, อ.เทพา 5 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 6 ราย, อ.นาทวี 6 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 10 ราย, อ.สทิงพระ 2 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 3 ราย, อ.ควนเนียง 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 13 ราย และจากต่างประเทศ 12 ราย
@@ เจาะพื้นที่ยะลา พบ 2 คลัสเตอร์ใหม่ สั่งปิด 2 พื้นที่เสี่ยง
ขยายความยอดผู้ติดเชื้อที่ จ.ยะลา วันเดียว 44 ราย มาจากคลัสเตอร์ใหม่ 2 คลัสเตอร์ แยกเป็น
กลุ่มแรก มีผู้ติดเชื้อรวม 21 ราย เป็นผู้สัมผัสเชื่อมโยงกับผู้ป่วยโควิด-19 ภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่และเยาวชนภายในศูนย์ฯ จากทั้งหมดจำนวน 188 คนที่ได้รับการตรวจหาเชื้อครบทุกคนแล้ว
กลุ่มที่ 2 มีผู้ติดเชื้อ 21 ราย เช่นกัน เป็นผู้สัมผัสเชื่อมโยงกับผู้ป่วยโควิด-19 ที่ติดเชื้อก่อนหน้า เป็นนักศึกษามาจากกรุงเทพฯ เยี่ยมญาติช่วงเทศกาลฮารีรายอ ในพื้นที่หมู่ 8 ต.บ้านแหร อ.ธารโต
กลุ่มที่ 3 มีผู้ติดเชื้อ 2 ราย มาจากประเทศมาเลเซีย 1 ราย ตรวจพบเชื้อและให้กักตัวอยู่ใน Local Quarantine อ.เบตง และอีกราย เป็นผู้สัมผัสเชื่อมโยงกับผู้ป่วยติดโควิด-19 ก่อนหน้าในชุมชนเดียวกัน คือ ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา
จากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ได้มีคำสั่งที่ 71/2564 ให้ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว ในเขตท้องที่ อ.ธารโต และ อ.บันนังสตา
1. สถานที่เสี่ยงในเขตท้องที่ อ.ธารโต ประกอบด้วย ให้ปิดตลาดนัดในเขตท้องที่ อ.ธารโต ทุกแห่ง, ห้ามนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านน้ำชากาแฟ แต่สามารถซื้อและนำไปบริโภคที่อื่นได้ , ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ ให้ซื้อขายได้ แต่ห้ามเข้าไปในบริเวณร้าน
2.สถานที่เสี่ยงในเขตท้องที่ อ.บันนังสตา ประกอบด้วย ให้ปิดตลาดนัดในเขตท้องที่ อ.บันนังสตาทุกแห่ง
คำสั่งมีผลตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.64 จนถึงวันที่ 4 มิ.ย.64
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งศูนย์บริการสถานการณ์โควิด-19 จ.ยะลา ที่ 72/2564 เรื่องกำหนดให้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 จังหวัดยะลา เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากล่าสุดมีการพบผู้ติดเชื้อรวมทั้งหมด 23 ราย ซึ่งมีข้อกำหนดดังนี้
1.ห้ามมิให้ผู้ใดเข้า-ออก พื้นที่ดังกล่าว หากผู้ใดมีความจำเป็นจะต้องเข้า-ออก ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ
2.งดรับและเคลื่อนย้ายเด็กและเยาวชนจากจังหวัดอื่นเข้ารับการฝึกอบรม เป็นการชั่วคราว
3.หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ
โดยคำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 64 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย