สสจ.ยะลา พบ 2 เยาวชนในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 ติดโควิด สั่งปิดพื้นที่พร้อมตั้งโรงพยาบาลสนาม เร่งตรวจหาเชื้อเจ้าหน้าที่และเด็กกลุ่มเสี่ยง 188 ราย ส่วนที่มัสยิดกลางเบตง อ่านคุตบะห์ รณรงค์มุสลิมรับวัคซีน ขณะที่แม่ทัพภาค 4 ตรวจแผน รปภ.และการป้องกันโควิดบนรถไฟสายชายแดนใต้
วันศุกร์ที่ 21 พ.ค.64 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และ จ.สงขลา
เริ่มที่ จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 192 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 76 ราย รักษาหายแล้ว 112 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 4 ราย รอผลตรวจยืนยันอีก 2,158 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 57 ราย, อ.กรงปินัง 41 ราย, อ.เบตง 16 ราย, อ.รามัน 61 ราย, อ.บันนังสตา 12 ราย, อ.กาบัง 4 ราย และ อ.ธารโต 1 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้งสิ้น 76 ราย อยู่ที่โรงพยาบาลยะลา 42 ราย โรงพยาบาลเบตง 2 ราย และโรงพยาบาลสนาม 32 ราย
จ.ปัตตานี ณ เวลา 15.00 น. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมขยับเพิ่มเป็น 290 ราย รักษาหายแล้ว 232 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต มีผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 8 ราย โรงพยาบาลสนามหนึ่ง 19 ราย โรงพยาบาลสนามสอง 22 ราย โรงพยาบาลสนามสาม 4 ราย โรงพยาบาลโคกโพธิ์ 2 ราย โรงพยาบาลหนองจิก 1 ราย อยู่ระหว่างการพิจารณาแอดมิท 1 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยแยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 140 ราย, อ.หนองจิก 80 ราย, อ.โคกโพธิ์ 4 ราย, อ.ยะหริ่ง 24 ราย, อ.สายบุรี 9 ราย, อ.ไม้แก่น 1 ราย, อ.แม่ลาน 1 ราย, อ.ยะรัง 10 ราย, อ.ปะนาเระ 12 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 3 ราย และ อ.มายอ 5 ราย ส่วน อ.กะพ้อ เป็นอำเภอเดียวที่ยังไม่พบผู้ป่วย
จ.นราธิวาส พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 12 ราย ในพื้นที่ อ.ตากใบ 6 ราย, อ.บาเจาะ 3 ราย, อ.เมือง 2 ราย และ อ.สุไหงปาดี 1 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 681 ราย รักษาหายแล้ว 565 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 433 ราย, อ.ระแงะ 17 ราย, อ.รือเสาะ 26 ราย, อ.บาเจาะ 21 ราย, อ.จะแนะ 13 ราย, อ.ยี่งอ 5 ราย, อ.ตากใบ 113 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 7 ราย, อ.สุไหงปาดี 21 ราย, อ.ศรีสาคร 7 ราย อ.แว้ง 14 ราย, อ.สุคิริน 2 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 36 ราย แยกเป็นกลุ่มสถานบันเทิง 6 ราย กลุ่มสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ 20 ราย กลุ่มรอสอบสวนโรค 1 ราย และกลุ่มค้นหาเชิงรุกในโรงงาน 9 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 1,163 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 1,151 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 371 ราย รักษาหายแล้ว 787 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยัน 693 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 768 ราย, อ.เมืองสงขลา 160 ราย, อ.บางกล่ำ 26 ราย, อ.นาหม่อม 15 ราย, อ.จะนะ 96 ราย, อ.รัตภูมิ 15 ราย, อ.สะเดา 8 ราย, อ.สิงหนคร 10 ราย, อ.เทพา 5 ราย, อ.ระโนด 8 ราย, อ.สะบ้าย้อย 6 ราย, อ.นาทวี 5 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 10 ราย, อ.สทิงพระ 2 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 3 ราย, อ.ควนเนียง 1 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 13 ราย และจากต่างประเทศ 12 ราย
@@ วุ่นแล้ว! ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กฯ มีเด็กติดโควิด
สถานการณ์โควิดที่ จ.ยะลา ต้องจับตาเป็นพิเศษ เพราะอาจมีคลัสเตอร์ระบาดใหม่ โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา รับแจ้งพบมีผู้ติดเชื้อ 2 ราย เป็นเด็กและเยาวชนภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งคัดกรองตรวจเชื้อเชิงรุกด้วยการ Swab เด็กและเยาวชนภายในศูนย์ฯ ตลอดจนบุคลากรเจ้าหน้าที่ทั้งหมด พร้อมทั้งปิดพื้นที่ป้องกันการแพร่ระบาด
นพ.สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าวว่า มีเด็กในสถานพินิจ (ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9) มีอาการป่วย และเข้าข่ายโรคติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลยะลา ผลจากการตรวจเป็นบวกทั้ง 2 ราย
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 มีเยาวชนและเจ้าหน้าที่ จำนวน 188 ราย ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ดำเนินการตรวจหาเชื้อ Swab บุคลากรเจ้าหน้าที่ทั้งหมด โดยภาวะเสี่ยงสูงจะเป็นเยาวชนทั้งหมดที่อยู่ภายในอาคารเดียวกัน ซึ่งอาคารที่พบเด็กติดเชื้อ มีเยาวชนอยู่ร่วมกันประมาณ 70 คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจหาเชื้อทั้งหมดแล้ว
ส่วนสาเหตุการนำเชื้อเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้วิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ว่าน่าจะเกิดจากการรับเด็กเข้ามาใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนโรคต่อไป
@@ สั่งตั้ง รพ.สนาม - กักแยกบุคลากรศูนย์ฝึกฯ
ในส่วนของกระบวนการดูแล ได้กำหนดให้ทางโรงพยาบาลยะลาเข้ามาดำเนินการ จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม โดยใช้อาคารที่พบเด็กติดเชื้อทั้ง 2 คนเป็นโรงพยาบาลสนาม โดยใช้มาตรฐานที่ทางกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนด มีแพทย์ มีเจ้าหน้าที่พยาบาล ประจำ พร้อมทั้งการติดตั้งระบบเชื่อมต่อกับโรงพยาบาลยะลา ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อและสัมผัสเสี่ยงส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเสียชีวิต
ส่วนบุคลากรเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฝึกฯ ประมาณ 70 กว่าคน ได้ให้กักตัวอยู่ในบ้านพักภายในศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 ไม่อนุญาตให้ออกจากศูนย์ฯ ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้รับการตรวจหาเชื้อ Swab จำนวน 3 ครั้ง
“ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า การพบผู้ติดเชื้อภายในศูนย์ฝึกฯ ซึ่งเป็นสถานที่ปิด โอกาสที่จะไปแพร่เชื้อสัมผัสกับบุคคลภายนอกเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นการบริหารจัดการจะเป็นไปตามมาตรฐานของเรือนจำทั้งหมด ขอให้ประชาชนสบายใจได้ ทางเจ้าหน้าที่จำกัดวงในการควบคุมพื้นที่ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยงดเยี่ยมเด็ดขาด” นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา กล่าว
@@ มัสยิดกลางเบตง อ่านคุตบะห์ รณรงค์มุสลิมรับวัคซีน
บรรยากาศที่มัสยิดกลาง อ.เบตง ซึ่งมีพี่น้องชาวไทยมุสลิมร่วมเดินทางไปละหมาดญุมอะห์ หรือละหมาดวันศุกร์ โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเบตง อสม. คัดกรองเข้ม เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นายอิสมาแอ หะยีมะนุส กรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา สาขาเบตง กล่าวว่า ได้ประสานไปยังอิหม่ามทุกมัสยิดในพื้นที่ ให้บรรจุเนื้อหาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคลงในคุตบะห์ (ปาฐกถา) ในการละหมาดวันศุกร์ เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ชาวมุสลิมร่วมกันลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามช่องทางต่างๆ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และสังคม
ส่วนที่อาคารหอพักสถาบันราชภัฏยะลา สาขาเบตง ซึ่งเป็นศูนย์ Local Quarantine อ.เบตง ได้มีการส่งตัวคนไทย จำนวน 16 คน ที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซียและเข้ารับการกักตัวเฝ้าระวังสังเกตอาการจนครบกำหนด 14 วัน เดินทางกลับบ้าน โดยผลจากการสังเกตอาการ ไม่มีผู้ใดติดเชื้อ
@@ สงขลาสั่งห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว
นายจารุวัฒน์ เกลี่ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ออกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ เรื่อง มาตรการห้ามเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เนื่องจากในพื้นที่สงขลามีจำนวนแรงงานต่างด้าวทำงานในสถานประกอบการเป็นจำนวนมากที่เสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อโคโรนา 2019 จึงออกมาตรการห้ามเดินทางและเคลื่อนแรงงานต่างด้าว ดังต่อไปนี้
1.ห้ามผู้ประกอบการโรงงานที่มีแรงงานต่างด้าวเกิน 20 คน เคลื่อนย้ายแรงงานออกจากที่ตั้งสถานประกอบการหรือที่พัก
2.ให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างควบคุมไม่ให้แรงงานต่างด้าวเดินทางไปในพื้นที่สาธารณะ สถานที่แออัด และควบคุมไม่ให้มีการรวมตัวกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรค
3.ให้ผู้ประกอบการควบคุมแรงงานต่างด้าวให้ปฏิบัติตามมาตรการ "DMHTTAW" อย่างเคร่งครัด
หากผู้ใดฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามประกาศ มีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อฯ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 19 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548
@@ แม่ทัพ 4 ตรวจแผน รปภ.-สกัดโควิดบนรถไฟ
วันเดียวกัน พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ตลอดจนผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ขึ้นขบวนรถไฟสายกรุงเทพ- สุไหงโก-ลก เพื่อร่วมแถลงแผนรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟสายจังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นอุ่นใจให้แก่พี่น้องประชาชนในการโดยสารรถไฟ จึงมีการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนในการรักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟในทุกขบวนที่ผ่านในพื้นที่ รวมไปถึงการใช้มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังรับมือกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ต้องขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของการรถไฟและ ศบค.อย่างเคร่งครัด
สำหรับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา มีสถานีรถไฟจำนวน 26 สถานี ซึ่งมีความยาวรางรถไฟรวม 197.5 กิโลเมตร แต่เดิมนั้นมีขบวนเดินรถขึ้นล่องกว่า 20 ขบวน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ปัจจุบันตัดเหลือขบวนรถไฟเพียง 10 ขบวนต่อวันเท่านั้น
-------
ขอบคุณ ข่าว - ภาพ จากเฟซบุ๊กสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยะลา