นายอำเภอกรงปินัง จ.ยะลา เผยหลังปิดหมู่บ้านกีเยาะ ส่งผู้สัมผัสเสี่ยง 50 คนตรวจหาเชื้อ ขณะที่ชาวบ้านรอภาครัฐเข้าช่วยเหลือเยียวยา ด้านชาวปัตตานีดีใจ หลังมีมติให้มัสยิดกลางเปิดให้ละหมาดได้ เริ่มศุกร์ที่ 23 เม.ย.นี้ ขณะที่เบตงเตรียม "รพ.สนาม" หลังป่วยยะลารวม 10 ราย ขณะที่สงขลา-นราธิวาส ติดเชื้อใหม่ยังโผล่รายวัน
จากกรณีที่มีการพบชาวบ้านในพื้นที่บ้านกีเยาะ ต.กรงปินัง อ.กรงปินัง จ.ยะลา มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่ "ล็อกดาวน์หมู่บ้าน" โดยนำรั้วปิดกั้นทางเข้า-ออก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสในวงกว้างนั้น
วันพุธที่ 21 เม.ย.64 นายอมร ชุมช่วย นายอำเภอกรงปินัง กล่าวว่า ในเบื้องต้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปคัดกรองบ้านเป้าหมายจำนวน 3 หลัง และในพื้นที่ใกล้เคียงประมาณ 50 คน โดยมาตรการขั้นแรกได้ทำความเข้าใจกับคนในบ้านแล้วว่ายังไม่ให้ออกไปไหน เพราะต้องรอผลตรวจเชื้อออกมาก่อน
"ตอนนี้ได้ปิดหมู่บ้านกีเยาะ ส่วนมาตรการหรือการปฏิบัติหลังจากนี้กำลังประเมินอยู่ เนื่องจากปลัดอำเภอได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ส่วนจะปิดถึงเมื่อไหร่ยังไม่ชัดเจน เนื่องจากต้องมีการสำรวจกลุ่มเสี่ยงและทำการตรวจหาเชื้อ หากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม อาจจะใช้เวลาในการปิดหมู่บ้านอย่างน้อย 14 วัน แต่หากมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม ระยะเวลาการปิดก็อาจจะเพิ่มขึ้น โดยระยะเวลาของมาตรการจะเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม"
นายอำเภอกรงปินัง กล่าวอีกว่า ได้ดำเนินการตรวจเชื้อไปแล้วประมาณ 50 คน ต้องดูว่าเจอกี่คน ถ้าเจอทั้งหมดก็กักตัวไว้ ถ้าเจอเฉพาะสมาชิกในบ้าน 3 หลังนี้ ก็กักที่บ้านได้เลย แล้วให้หมอเข้าไปตรวจเยี่ยมทุกวันเพื่อรักษา ยังไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลสนาม เพราะยังมีที่อยู่ แต่ถ้าป่วยและมีอาการต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างเดียว ตอนนี้ที่โรงพยาบาลกรงปินังมีผู้สัมผัสเสี่ยงสงสัยติดเชื้อ 1 ราย ก็ยังสามารถรับรองได้ ให้ทาง อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) ส่งข้าวส่งน้ำก่อน และหากมีการกักตัวที่บ้าน อบต.จะดูแลทั้งกระบวนการ
นางนานิง ระสูมิง อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หมู่ 4 บ้านกีเยาะ กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ปิดหมู่บ้าน โดยเฉพาะครอบครัวผู้สัมผัสเสี่ยง ทำให้สมาชิกในหมู่บ้านลำบากต่อการออกไปหาอาหารละศิลอด เพราะโดนจำกัดบริเวณห้ามเข้า-ออก ตนจึงใช้โทรศัพท์สอบถามเพื่อช่วยเป็นภาระในการจัดซื้ออาหารเพื่อแก้บวชให้คนครอบครัว ซึ่งทั้งหมดมีอยู่ 8 ครอบครัว กว่า 20 คนที่ขอความช่วยเหลือเข้ามา ฉะนั้นตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยียวยาทุกครอบครัวโดยเร็ว
นายมะสาและ กาโด ผู้ช่วยผู้บ้านบ้านหมู่ 4 กล่าวว่า หากผลการตรวจผู้ใกล้ชิดพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องปิดทั้งหมู่บ้านเพื่อตรวจคัดกรองให้ทั่ว และจะต้องปิดสถานที่ละหมาดเพื่อทำความสะอาดด้วย เพราะผู้ติดเชื้อได้ไปละหมาดตะราเวียะห์ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. และหลังจากนี้กำลังรอมาตรการเยียวยาจากเจ้าหน้าที่ พร้อมความช่วยเหลือด้านอื่นๆ อย่างเร่งด่วน
ในประเด็นขอให้ภาครัฐเยียวยา ชาวบ้านกีเยาะหลายคนบอกตรงกันว่า หากเดินทางเข้า-ออกหมู่บ้านไม่ได้ ต้องมีมาตรการเยียวยาชาวบ้านด้วย ยิ่งเป็นช่วงชาวบ้านถือศีลอด ก็ต้องออกจากบ้านไปจับจ่ายซื้ออาหารทุกเย็น หน้าที่การงานต่างๆ ก็ต้องหยุด ทำให้ไม่มีรายได้ จึงขอให้รัฐช่วยเหลือ อย่าให้บกพร่อง
@@ ชาวปัตตานีดีใจ มัสยิดกลางเตรียมเปิดละหมาดตะระเวียะห์
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในจังหวัดปัตานี ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อวางมาตรการให้มัสยิดกลางสามารถกลับมาเปิดละหมาดวันศุกร์และละหมาดตะรอเวียะห์ได้ตามปกติ โดยมติที่ประชุมมีความเห็นว่า ทุกคนเห็นด้วยให้มีการละหมาดวันศุกร์และละหมาดตะรอเวียะห์ แต่ต้องดำเนินการภายใต้เงื่อนไขอย่างเคร่งครัง คือ ต้องมีการตรวจวัดอุณหภูมิทุกคน และต้องสวมหน้าการอนามัยทุกคน ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร ต้องนำผ้าปูละหมาดหรือสายาเดาะห์มาเอง ขณะที่ทางมัสยิดจะต้องเตรียมเจลและสถานที่ล้างมือ โดยที่ประชุมเห็นว่า ควรเริ่มให้มีการละหมาดวันศุกร์และละหมาดตะรอเวียะห์ได้ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย.เป็นต้นไป
ด้านนายมารูดิง กาซอ ชาวบ้านปัตตานี กล่าวว่า ดีใจมากถ้าเปิดให้ละหมาดได้ตามปกติ ทุกคนพร้อมที่จะดำเนินการตามมาตรการอยู่แล้ว ขอให้ได้มีการละหมาดตารอเวียะห์ และละหมาดวันศุกร์เหมือนเดิมก็พอ ที่ผ่านมาทุกคนก็ปฏิบัติตามที่อิหม่ามมัสยิดกลางได้ประกาศมาตลอด คือ นำผ้าปูละหมาดมาเองจากบ้าน แล้วให้ใช้ของใครของคนนั้น โดยให้เว้นช่องว่าง เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือก่อนเข้ามัสยิด
"การที่มัสยิดต้องถูกปิดมันเหมือนขัดหลายอย่าง ตลาดเปิดได้ คนในตลาดแน่นกว่าในมัสยิด แต่มัสยิดกลับปิด พวกเราก็ถือว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือบททดสอบที่อัลลอฮ์จะทดสอบพวกเรา ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยมากที่อนุญาตให้มีการเปิดละหมาดเป็นปกติได้ และขอให้พวกเราทุกคนร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการที่เจ้าหน้าที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อรับผิดชอบต่อสังคมร่วมกัน" นายมารูดิง กล่าว
เช่นเดียวกับ น.ส.ฮาลีเมาะ จินตรา ชาวบ้านปัตตานีอีกราย ที่บอกว่า ดีใจมาก จะทำตามมาตรการที่กำหนดทุกอย่าง ขอให้ได้ละหมาด เพราะบรรยากาศของการละหมาดตารอเวียะห์ในค่ำคืนของเดือนรอมฎอน มันซึมซับเข้าในเลือดเนื้อคนอิสลามทุกคน เสียงคนอาซานเพื่อเรียกทุกคนไปละหมาดที่มัสยิด เสียงการอ่านอัลกุรอานผ่านไมโครโฟนในมัสยิด ดังก้องพื้นที่ บรรยากาศจะมีความคึกคักตลอดทั้งคืน คนจะขายของได้ ทุกอย่างได้ประโยชน์ร่วมกัน แถมได้บุญ ทุกคนจึงมีความสุขในเดือนนี้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนถ้าเปิดให้มีการละหมาด
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ของจังหวัดปัตตานี ณ วันพุธที่ 21 เม.ย. หลังจากที่ได้มีการตรวจกลุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อไปทั้งหมด ปรากฏว่าไม่มีผู้ใดติดเชื้อ ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมภายในประเทศคงเดิมคือ 7 ราย
@@เตรียม รพ.สนามเบตง หลังป่วยโควิดยะลาสะสม 10 ราย
นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วย นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง นายวิโรจน์ อินทโมนี ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองเบตง พญ.ปัทมพันธ์ อนันตาพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเบตง (ศปก.อ.เบตง) ได้เยี่ยมชมภายในอาคารสถานีขนส่งอำเภอเบตง เตรียมความพร้อมการจัดตั้งศูนย์สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หรือ "โรงพยาบาลสนาม" ในพื้นที่ อ.เบตง ที่จะสามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ 50-70 เตียง
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง กล่าวว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับผู้ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แล้ว แต่ไม่มีอาการ จะได้มาดูแลรักษาและติดตามอาการที่โรงพยาบาลสนาม มีการดำเนินการตามเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และมีบุคลากรทางการแพทย์ ประกอบด้วยแพทย์และพยาบาลอยู่ประจำทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง รวมไปถึงรักษาความปลอดภัย มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลตลอดเวลา อีกทั้งมีอาหาร 3 มื้อ บริการสัญญาณ WiFi ให้อีกด้วย ส่วนผู้ที่มีอาการป่วยรุนแรง ก็จะส่งต่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเบตง หรือโรงพยาบาลที่มีความพร้อมในการรักษาต่อไป
ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ของ จ.ยะลา พบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ในพื้นที่ อ.เบตง 2 ราย และ อ.กรงปีนัง 1 ราย ทำให้ จ.ยะลา รวมมีผู้ป่วยสะสม 10 ราย อยู่ในพื้นที่ อ.เบตง 5 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเบตง, อ.เมือง 4 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา และ อ.กรงปีนัง 1 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลกรงปีนัง ไม่มีผู้เสียชีวิต
@@สงขลาติดเชื้อเพิ่ม 41 ราย นราฯป่วยใหม่ 21 สะสมจ่อครึ่งพัน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่รายงานโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.สงขลา) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ ณ วันที่ 21 เม.ย. จำนวน 41 ราย เป็นผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศทั้งหมด แยกได้ 3 กลุ่ม คือ ผู้สัมผัสกลุ่มสถานบันเทิง 17 ราย, ผู้สัมผัสผู้ป่วย 12 ราย และผู้ที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง 12 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยสะสมพุ่งไปที่ 310 ราย ติดเชื้อในประเทศ 306 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 4 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 310 ราย
ส่วนรายงานสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ (1-21 เม.ย.64) จากศูนย์ EOC COVID-19 จังหวัดนราธิวาส ณ วันที่ 21 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 21 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 424 ราย รักษาหายแล้ว 275 ราย และเสียชีวิต 1 ราย โดยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 424 ราย ของจังหวัด แยกตามพื้นที่อำเภอได้ดังนี้ อำเภอเมือง 384 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 249 ราย และนอกเรือนจำ 135 ราย, อ.รือเสาะ 13 ราย, อ.บาเจาะ 5 ราย, อ.ยี่งอ 3 ราย, อ.ระแงะ 13 ราย, อ.จะแนะ 4 ราย, อ.ตากใบ 1 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย