ป่วยโควิดปัตตานี 1 ใน 3 โยงผับดังย่านถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ มีผู้สัมผัสเสี่ยงรอผลตรวจ 110 ราย ด้านผู้ว่าฯสงขลา เผยโรงพยาบาล 3 แห่งยังรองรับผู้ป่วยได้ ส่วน สสจ.ยะลา แจ้งคนร่วมชม "ศึกมวยจะนะ" รายงานตัวด่วน ยันยะลาติดเชื้อยังเป็นศูนย์ ขณะที่เทศบาลนครบริการตรวจคนเดินทางจาก 11 จังหวัดเสี่ยงเข้าพื้นที่ฟรี รู้ผลใน 30 นาที
วันที่ 12 เม.ย.64 มีรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ระบุว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ จำนวน 3 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจถึง 110 ราย
สำหรับผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นผู้ติดเชื้อชายไทย อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมืองปัตตานี เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ มีประวัติไปสถานบันเทิง "บริค บาร์" ผับดังย่านถนนข้าวสาร เดินทางกลับถึงปัตตานี วันที่ 6 เม.ย. เริ่มมีอาการป่วยวันที่ 7 เม.ย. มีอาการไอ และเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลปัตตานีเมื่อวันที่ 9 เม.ย. เนื่องจากมีประวัติเสี่ยง แพทย์ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และให้นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ผลตรวจติดเชื้อโควิด
จากนั้นวันที่ 11 เม.ย. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้จัดทำประวัติและสอบสวนโรค (ไทม์ไลน์) ซึ่งผลการสอบสวน พบมีผู้สัมผัสจำนวน 110 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จำนวน 74 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 36 ราย จึงได้เก็บสารคัดหลั่งบริเวณหลังโพรงจมูก (swab) ของผู้สัมผัสเสี่ยงทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
โดยผู้ป่วยมีไทม์ไลน์ดังนี้
- วันที่ 6 เม.ย. เดินทางด้วยเครื่องบินเวียดเจ็ท เที่ยวบิน วี 362 สุวรรณภูมิ-หาดใหญ่ เวลา 13.30-14.45 น.
- วันที่ 7 เม.ย.ไปทำงานที่ อบจ.และไปร้านอาหาร
- วันที่ 8 เม.ย.เดินทางไปในงานโอท็อป ช่วงเวลา 20.00- 21.00 น. และไปที่บูทร้านเสื้อมัดย้อม By bayan และร้านวิสาหกิจชุมชน by แบปี ซึ่งอยู่ในงานโอทอป
ส่วนรายที่ 2 และรายที่ 3 มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยสูงอายุ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ซึ่งได้ไปตรวจและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร (โรงพยาบาล ม.อ. โดยขึ้นทะเบียนเป็นผู้ป่วย จ.สงขลา) มีรายละเอียดดังนี้
รายที่ 2 ผู้ติดเชื้อหญิงไทย เป็นผู้สูงอายุ 74 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 1 ต.ไม้แก้น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลยะรัง มีอาการไอเล็กน้อย ผลการสอบสวนมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากกิจกรรมทางศาสนา (บังสุกุล) ที่ผู้ป่วยไปร่วม มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 15 ราย ได้ทำการเก็บสารคัดหลั่งบริเวณหลังโพรงจมูก (swab) อยู่ระหว่างรอผล
รายที่ 3 ผู้ติดเชื้อหญิงไทย เป็นผู้สูงอายุ 72 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 3 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ โดยพักอาศัยร่วมบ้านกับผู้ป่วยรายที่ 2 ได้ไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลหนองจิก ผลตรวจพบติดเชื้อโควิด และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 12 ราย ได้เก็บสารคัดหลั่งบริเวณหลังโพรงจมูก (swab) อยู่ระหว่างรอผลตรวจ
@@ ผู้ว่าสงขลา เผยโรงพยาบาล 3 แห่งยังรองรับผู้ป่วยโควิดไหว
ที่ จ.สงขลา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา (สสจ.สงขลา) ได้ตรวจหาเชื้อกลุ่มเป้าหมายประจำวัน 100 ราย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 4 ราย และยังมีผู้ป่วยรอยืนยันจาก ศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19) อีก 7 ราย
โดยผลการดำเนินการรวม ( 20 ธ.ค.63 - ปัจจุบัน ) ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 จำนวน 14,277 ราย ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เป็นการติดเชื้อในประเทศ จำนวน 31 ราย (รักษาหายกลับบ้านแล้ว 3 ราย) ติดเชื้อจากต่างประเทศ (State Quarantion) 12 ราย (รักษาหายกลับบ้านแล้วจำนวน 12 ราย) โดยมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา จำนวน 28 ราย
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า พบผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ยังอยู่ในระดับที่ไม่มาก และจากการสอบสวนโรคพบว่า ส่วนมากได้รับเชื้อมาจากญาติและเพื่อนที่เดินทางลงมาจากกรุงเทพฯ และติดเชื้อโควิดมาโดยไม่รู้ตัว
โดยภาพรวมโรงพยาบาลรัฐทั้ง 3 แห่ง ใน จ.สงขลา ยังคงสามารถใช้รองรับและดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดได้ราว 100 คน และในจำนวนนี้ยังมีห้องความดันลบอยู่ด้วยกว่า 30 ห้อง ซึ่งเพียงพอกับสถานการณ์ภายในจังหวัด แต่ก็มีการหารือร่วมกันกับทางสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการตั้งโรงพยาบาลสนามด้วย หากมีความจำเป็น
ในช่วงเดือน เม.ย.ปีที่ผ่านมา จ.สงขลา เคยมียอดผู้ป่วยโควิดมากกว่า 100 คน ก็ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ สาขา 2 ( Songkhla COVID – 19 Recovery Camp) ขึ้นที่อาคารติณสูลานนท์ ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ สวนประวัติศาสตร์พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิดมาแล้วเช่นกัน ซึ่งสามารถรองรับได้อีกหลายสิบคน
นอกจากนี้ทาง จ.สงขลา ยังได้ออกกฎระเบียบต่างๆ เพื่อดูแลและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด ทั้งการสั่งปิดสถานบันเทิง สถานบริการ รวมทั้งยกเลิกการจัดกิจกรรมที่เป็นการรวมตัวกันของคนหมู่มาก
@@ สสจ.ยะลาแจ้ง "แฟนมวยจะนะ" รายงานตัวด่วน
ด้านสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ที่ไปร่วมงาน "มหกรรมมวยรวมพลคนจะนะ" วันที่ 8-9 เม.ย.ที่ผ่านมา ให้เข้ารายงานตัวกับสายด่วนโควิด-19 หมายเลขโทรศัพท์ 093-3591300, 098-5633488, 098-5633498 โดยเบื้องต้นเป็นการขอความร่วมมือ เนื่องจากการจัดการแข่งชกมวย มีผู้เข้าร่วมชมเป็นจำนวนมาก และอาจมีประชาชนชาวยะลาเข้าร่วมชมด้วย ซึ่งขณะนี้พื้นที่ จ.ยะลา ยังไม่พบผู้ติดเชื้อแต่อย่างใด
ขณะที่ทางเทศบาลนครยะลา ได้ร่วมกับทางจังหวัดยะลา จัดบริการตรวจเชื้อโควิด-19 ให้แก่บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ รวมไปถึงบุคคลกลุ่มเสี่ยงอื่นๆ ซึ่งจะใช้การตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีการตรวจเชื้อ (Rapid Antigen Test) และตรวจภูมิคุ้มกัน (Rapid Antibody Test) ซึ่งเป็นการตรวจแบบรวดเร็ว สามารถรู้ผลได้ภายใน 30 นาที โดยเปิดให้บริการเวลา 08.30-12.00 น.ตั้งแต่วันที่ 10-16 เม.ย. สามารถให้บริการประชาชนได้วันละ 70 ราย และเป็นการตรวจให้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด