ในหลวง พระราชินี พระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษตรวจโควิดให้ จ.นราธิวาส ด้าน ศบค.เร่งวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมจัดทีมแพทย์ลงโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ ขณะที่คุกยะลา งดญาติเยี่ยมวันแรกตามคำสั่งกรมราชทัณฑ์
เมื่อเวลา 09.45 น.วันที่ 5 เม.ย.64 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานรถวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ จำนวน 1 คัน เพื่อให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ จ.นราธิวาส โดยได้มีการจัดพิธีมอบรถพระราชทานฯ ที่เรือนจำนราธิวาส (หลังใหม่) อ.เมือง จ.นราธิวาส มี นายแพทย์อภิชาติ วชิระพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค, นายแพทย์ สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12, นายแพทย์ วิชัย วิเชียรวัฒนชัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีฯ
จากนั้นได้เคลื่อนรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้บริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และให้การฉีดวัคซีนแก่เจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้าภายในโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
@@ ศบค.นราธิวาส จัดทีมแพทย์ รพ.สนามในเรือนจำ
ส่วนที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดนราธิวาส โดยมี นายก้องสกุล จันทราช ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม
นายไพโรจน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส จึงต้องมีการประสานการปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ เพื่อร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทันท่วงที โดยมีคณะทำงานศูนย์บริหารการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 จ.นราธิวาส 8 คณะ ร่วมกันปฏิบัติงานในด้านต่างๆ
นายวิเศษ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า สถานการณ์ด้านสาธารณสุขของโรคโควิด-19 ในภาพรวมแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
- ในส่วนแรก เป็นภาพรวมของ ศบค. มียอดผู้ป่วยสะสม 70 ราย กำลังรักษาตัว 4 ราย รักษาหายแล้ว 64 ราย เสียชีวิต 2 ราย
- ในส่วนที่สอง คือการพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดนราธิวาสที่ยังไม่ได้เข้าสู่ระบบ ศบค. ซึ่งเรือนจำจังหวัดนราธิวาสมีผู้ต้องขัง 2,334 คน เก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว 124 คน ติดเชื้อ 92 คน ในส่วนของเจ้าหน้าที่เรือนจำมี จำนวน 97 คน เก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว 83 คน ติดเชื้อ 24 คน และอีก 14 คนจะต้องมีการเก็บสิ่งส่งตรวจเพิ่ม ด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในกลุ่มผู้สัมผัส จำนวน 185 คน เก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว 128 คนยังไม่พบการติดเชื้อ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสิ้น 116 คน
หลังจากนี้จะจัดทีมเข้าไปทำโรงพยาบาลสนาม โดยจะจัดเวรแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 12 ชั่วโมง ดูแลต่อเนื่องให้ได้ 28 วัน แล้วจะให้เจ้าหน้าที่เรือนจำที่ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั้งหมด นอกจากนั้นจะส่งทีมสาธารณสุขเข้าไปดำเนินการแยกกลุ่มเปราะบาง และกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อสังเกตอาการ
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มอบนโยบายในการปฏิบัติงานโดยใช้มาตรการ BUBBLE AND SEAL คนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า แยกกลุ่มเปราะบาง โดยมีการดูแลต่อเนื่องเมื่อครบ 28 วัน เรือนจำจังหวัดนราธิวาสจะมีความปลอดภัยมากขึ้น
ด้าน นายเชาวลิต สิทธิฤทธิ์ ป้องกันจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดนราธิวาสมีสถานที่ Local Quarantine จำนวน 26 แห่ง ใช้ไป 13 แห่ง จำนวน 275 เตียง เหลือประมาณ 200 กว่าเตียง โดยขอให้อำเภอต่างๆ เร่งของบดำเนินการสถานที่ Local Quarantine ซึ่งในช่วงเดือนรอมฎอนจะต้องจัดอาหารในมื้อเช้าและมื้อค่ำ และในช่วงปิดภาคเรียนจะใช้โรงเรียนเป็นสถานที่ Local Quarantine เพิ่มเติม ด่านชายแดนจะเพิ่มความเข้มข้นในการดูแลพื้นที่มากขึ้น
ในส่วนของคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการประชาสัมพันธ์การสื่อสารและเทคโนโลยี จะมีการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนยกระดับการดูแลตนเองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ เทศบาลเมืองนราธิวาสได้แจ้งงดการจัดงานสงกรานต์แล้ว ด้านท่าอากาศยานนราธิวาสยังคงใช้มาตรการด้านสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดนราธิวาสจะต้องรายงานตัว ณ อำเภอปลายทาง และผ่านการพิจารณาว่า จะมีการกักตัวหรือไม่
@@ เริ่มฉีดวัคซีนโควิดให้บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยง
ส่วนที่อาคารอเนกประสงค์ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้มีการเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเป้าหมายกลุ่มแรกโรงพยาบาล 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส หลังจากได้รับการจัดสรรวัคซีน "ซิโนแวค" ล็อตแรก จำนวน 5,000 โดส จากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนจัดการวัคซีนของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยมีกลุ่มป้าหมายมาลงทะเบียน ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต คัดกรอง ซักประวัติ ประเมินความเสี่ยง ลงนามในใบยินยอมรับวัคซีน รอฉีดวัคซีน ฉีดวัคซีน พักสังเกตอาการ 30 นาที สแกนไลน์แอป "หมอพร้อม" และตรวจสอบ ก่อนกลับรับเอกสารการปฏิบัติตัวหลังฉีดวัคซีน
โดยเข็มแรกฉีดให้แก่ นายแพทย์ สุเทพ หะยีสาและ หัวหน้ากลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลนราธิวาสฯ เพื่อสร้างความมั่นใจ และติดตามขั้นตอนการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างใกล้ชิด โดยในช่วงเช้าที่ผ่นามา การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
นายแพทย์ สุเทพ กล่าวว่า เป็นวันแรก ที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯ เปิดให้ฉีดวัคซีน "ซิโนแวค" หลังจากเมื่อวานได้ทำการตรวจสอบแล้วผลเป็น Negative วันนี้เลยมารับวัคซีน สถานการณ์ใน จ.นราธิวาส เกิดปัญหาคนไข้ติดโควิดในเรือนจำเป็นปริมาณมาก บุคลากรทางการแพทย์ติดต่อกับผู้ป่วย การฉีดวัคซีนสร้างภูมิต้านทานให้เจ้าหน้าที่ ก็หวังว่าบุคคลทั่วไปประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่จะมีสุขภาพที่แข็งแรงเพื่อที่จะดูแลผู้ป่วยได้ต่อไป
แพทย์หญิงขนิษฐา ยอมเต็ม แพทย์โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า สำหรับครั้งนี้เป็นการฉีดวัคซีนเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่ปฏิบัติหน้าที่ด่านหน้า จำนวนทั้งสิ้น 460 ราย ฉีดวันที่ 5 จำนวน 120 ราย วันที่ 7 จำนวน 180 ราย และวันที่ 8 จำนวน 160 ราย
โดยในวันแรกจะเป็นการฉีดให้บุคลากรที่ดูแลคนไข้โควิด-19 รวมถึงคนที่คัดกรองโควิด-19 อย่างเช่น แพทย์และพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยจะมีการคัดกรอง ซักประวัติ ลงทะเบียนไลน์ "หมอพร้อม" เพื่อติดตามผลข้างเคียง ซึ่งผลข้างเคียง 90 เปอร์เซ็นต์ จะเกิดในครึ่งชั่วโมงแรกหลังจากฉีดวัคซีน
สำหรับวัคซีน "ซิโนแวค" ล็อตแรก เพื่อฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องสัมผัสกับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงที่จะสัมผัสเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและแพร่กระจายเชื้อ เพื่อการควบคุมการระบาดเป็นลำดับแรก ทางจังหวัดนราธิวาสได้รับการจัดสรรวัคซีนระยะที่ 1 วันที่ 5-9 เม.ย.64 จำนวน 5,000 โดส สำหรับกลุ่มเป้าหมาย 2,500 ราย จำนวน 125 กล่อง กล่องละ 40 โดส แบ่งเป็นอำเภอเมืองนราธิวาส 23 กล่อง 920 โดส 460 ราย อ.สุไหงโก-ลก 32 กล่อง 128 โดส
@@ เรือนจำยะลา เริ่มงดญาติเยี่ยมวันแรก
วันที่ 5 เม.ย.64 หลังกรมราชทัณฑ์ได้มีคำสั่งออกประกาศงดเยี่ยมผู้ต้องขังเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากพบการระบาดของโควิด 19 ในเรือนจำจังหวัดนราธิวาส บรรยากาศที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางยะลาเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงประชาชนบางคนที่ยังไม่ทราบข่าวได้เดินทางมาเพื่อต้องการเยี่ยมญาติ โดยทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำได้มีการอธิบายและแจ้งให้ประชาชนทราบ
นายรื่นเริง นุ่นสง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา กล่าวว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการป้องกันไม่ให้โรคโควิด-19 ติดต่อมายังเรือนจำ จึงต้องมีการเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันเฝ้าระวังโควิด-19 โดยงดการเยี่ยมญาติช่องทางปกติชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 5-18 เม.ย.64 แต่จะเปิดให้เยี่ยมญาติได้ทางไลน์ สั่งซื้อของออนไลน์ และฝากเงินทางธนาณัติ
ขณะนี้ทางเรือนจำยะลาได้เร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจให้ผู้ต้องขังในเรือนจำที่มีจำนวนกว่า 2,000 คนได้รับทราบข่าว เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนก พร้อมได้ทำความเข้าใจกับญาติของผู้ต้องขังให้เข้าใจถึงมาตรการดังกล่าวด้วย และขอให้เขาได้ติดตามข้อมูลข่าวสารเป็นระยะๆ
ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 มา เรายังสามารถป้องกันได้ เนื่องจากไม่มีการพบเชื้อแม้แต่รายเดียว ส่วนระลอกใหม่ในครั้งนี้จังหวัดยะลาก็ยังไม่พบการระบาด และทางเรือนจำยะลาเองก็จะดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัดที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องขังและญาติพี่น้องทุกคน