เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่ในเรือนจำนราธิวาสทั้งหมด เตรียมตั้งโรงพยาบาลสนามรับมือหากพบผู้ป่วยเพิ่ม หลังจากเบื้องต้นพบผู้ป่วย 2 รายในห้องขัง รวมถึงอีก 6 รายที่ไปร่วมกิจกรรมที่สุราษฎร์ธานี
ก่อนหน้านี้ เรือนจำจังหวัดนราธิวาสตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเป็นการพบผู้ป่วยในเรือนจำ 2 ราย จึงแจ้งไปยังเรือนจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าพบผู้ติดเชื้อภายเรือนจำ และมีผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเป็นผู้ต้องขังและผู้คุมรวม 8 รายที่ไปร่วมงานกิจกรรมประกวดผลงานด้านการต่อต้านยาเสพติดในส่วนของกรมราชทัณฑ์ ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า จ.สุราษฎร์ธานี ด้วย
ต่อมาจึงมีการนำบุคคลทั้ง 8 รายเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบติดเชื้อจำนวน 6 ราย เป็นผู้ต้องขัง 5 ราย และผู้คุม 1 ราย จึงเร่งนำตัวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ส่วนอีก 2 ราย อยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 และได้รับการกักตัวที่อยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเช่นเดียวกัน
ล่าสุดวันเสาร์ที่ 3 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 สงขลา และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ร่วมกันกันเข้าทำการตรวจหาเชื้อโดยวิธีการ "สวอป" กับผู้ต้องขังกลุ่มเสี่ยงในแดน 5 (แดนที่พบผู้ต้องขังป่วย) และแดน 6
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เป็นภารกิจต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ 2 เม.ย. ที่ได้เข้าตรวจหาเชื้อโดยวิธีการ "สวอป" กับผู้ต้องขังจำนวน 119 คน และเจ้าหน้าที่เรือนจำ 65 คน รวมเป็นจำนวน 184 คน ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจ
ทั้งนี้ ทางสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้ประชุมหารือกันเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ หากผลการตรวจออกมา พบผู้ต้องขังและเจ้าหน้าที่เรือนจำติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ก็จะจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้น โดยใช้พื้นที่แดน 2 (สถานพยาบาล) ภายในเรือนจำ เป็นโรงพยาบาลสนาม คาดว่าสามารถรองรับผู้ต้องขังได้ประมาณ 200 คน และหากกรณีมีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 เกิน 200 คน เกินกว่าเเดน 2 (สถานพยาบาล) จะรองรับได้ ทางเรือนจำได้กำหนดใช้แดน 6 (แรกรับ) เป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่ม ซึ่งจะรองรับผู้ต้องขังป่วยทั้งหมดได้ประมาณ 691 คน
ส่วนผู้ต้องขังและผู้คุมที่ไปร่วมกิจกรรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี เฉพาะคนที่ผลตรวจไม่พบติดเชื้อโควิด-19 หากเดินทางกลับมาถึงเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ได้กำหนดแนวปฏิบัติไว้ โดยในส่วนของผู้ต้องขัง ให้ดำเนินการกักตัวห้องแยกโรคแดน 6 (แรกรับ) ส่วนผู้คุมแม้จะตรวจไม่พบเชื้อโควิด ก็ยังถือว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยง ให้ดำเนินการกักตัว 14 วัน ตามมาตรการที่กรมราชทัณฑ์และที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด
@@ สุไหงโก-ลก เตรียมฉีดวัคซีนแพทย์-กลุ่มเสี่ยง
นายมะยุรี เจะโซะ สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ทางอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เตรียมแผนการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค" เพื่อป้องกันโควิด-19 ให้แก่บุคลากรกลุ่มเสี่ยง ประกอบด้วย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข กลุ่มบุคลากรด่านหน้า ทั้งอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตลอดจนผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว อาทิ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็งทุกชนิด โรคเบาหวาน โรคอ้วน และประชาชนทั่วไป โดยจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.64 เป็นต้นไป
สำหรับการวัคซีนนั้น มีรายงานว่า นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก จะเข้ารับการฉีดเป็นคนแรก ซึ่งเบื้องต้นโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้จัดเตรียมผู้รับผิดชอบการฉีดวัคซีน สถานที่ให้บริการ และแผนในการเฝ้าสังเกตอาการ 30 วันเอาไว้พร้อมแล้วสำหรับบุคลากรที่ลงทะเบียนกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาสทั้งหมด
หากบางรายมีอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน คือ มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ ปากเบี้ยว กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีจุดเลือดออกจำนวนมาก ผื่นขึ้นทั้งตัว อาเจียนมากกว่า 5 ครั้ง ชัก และหมดสติ หากมีอาการหลังฉีด 30 นาที ขอให้รีบแจ้งแพทย์และพยาบาลทันที หรือหากมีอาการหลังกลับบ้าน ให้รีบไปพบแพทย์ หรือโทรสายด่วน 1669 เพื่อแจ้งให้รถพยาบาลไปรับโดยเร็วที่สุด