ผบ.ทบ.ตรวจเยี่ยมหน่วยกำลังใน จ.นราธิวาส สั่งปรับแผนเชิงรุก เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติงานควบคุมพื้นที่ ชมกำลังพลทุ่มเททำสถานการณ์ใต้ดีขึ้น เห็นใจต้องรับมือทั้งโควิดและความไม่สงบ
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 มี.ค.64 ที่ทำการทางยุทธวิธีหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและคณะเดินทางตรวจเยี่ยมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยพร้อมด้วย พล.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก , พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ เสนาธิการกองทัพบกร่วมคณะ โดยมี พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 คณะผู้บังคับบัญชาและส่วนที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับและร่วมคณะเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ เหตุการณ์และคดีสำคัญต่างๆ ตลอดจนการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมาเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วย รวมไปถึงการปฏิบัติงานด้านยุทธการในการควบคุมพื้นที่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชน
หลังรับฟังบรรยาสรุป พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้ปรับแผนการปฏิบัติเชิงรุกในการดูแลพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายอย่างเข้มงวด เพิ่มประสิทธิภาพให้เกิดความพร้อม ทั้งด้านกำลังพลและยุทโธปกรณ์ในการปฏิบัติงาน ตลอดจนการยึดหลักยุทธศาสตร์การเป็นคนดี ไม่สร้างเงื่อนไขในพื้นที่ มีความระมัดระวังในการปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำให้ดำรงความมุ่งหมายของการปฏิบัติงานไว้อย่างต่อเนื่อง ในกรอบการทำงานไปในทิศทางเดียวกันให้ภารกิจทั้งหมดสำเร็จลุล่วง ก่อนพบปะให้โอวาทสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพล
ต่อจากนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ เดินทางไปยังกรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อเข้าสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระสยามเทวาธิราช เยี่ยมชมห้องประวัติศาสตร์ ก่อนร่วมปลูกต้นไม้เพื่อเป็นที่ระลึกแก่หน่วย
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ตั้งใจมาเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ผ่านทางแม่ทัพภาคที่ 4 ที่ได้รายงานสถานการณ์และความเคลื่อนไหวในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ต้องยอมรับว่า ในปัจจุบันปัญหาภัยคุกคามมีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ covid-19 ซึ่งพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะต้องรับมือและแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์แบบคู่ขนาน ทั้งเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 และแก้ปัญหาเรื่องความขัดแย้งในพื้นที่ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะต้องทำงาน เป็น 2 เท่า จึงต้องมาให้กำลังใจ มารับทราบปัญหาข้อขัดข้อง สิ่งไหนพร้อมปรับเปลี่ยน ก็หาแนวทางในการช่วยเหลือ และสนับสนุนในทุกภารกิจ
"จากการรับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานจากแม่ทัพภาคที่ 4 ต้องขอชื่นชมกำลังพลที่ได้อุทิศตน ทุ่มเททำงานให้กับประเทศชาติให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงดำรงความมุ่งหมายที่จะให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุขอย่างสมบูรณ์ตลอด 17 ปี ที่ผ่านมา อะไรที่ผิดพลาดก็กลับนำเอามาทบทวน เพื่อเป็นบทเรียนและปรับแผนการปฏิบัติงานให้สอดคล้อง เข้าถึงได้ทุกพื้นที่ เข้าถึงในทุกมวลชน เพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุขอย่างยั่งยืนต่อไป" ผบ.ทบ. กล่าว