เจ้าหน้าที่ด่านพรมแดนเบตง สวมชุด PPE ป้องกันเชื้อโควิดอย่างเข้มงวด ในภารกิจตรวจคัดกรองรับคนไทยเดินทางกลับมาจากมาเลเซีย หลังพบชายไทยติดเชื้อข้ามแดนกลับแผ่นดินเกิด 2 ราย เคราะห์ดีส่งรักษาตัวทันท่วงที ขณะที่มาเลย์ยอดติดเชื้อยังพุ่ง แม้เริ่มฉีดวัคซีนเฟสแรกแล้ว
วันที่ 15 มี.ค.64 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการร่วมประสานงาน ประจำด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ได้สวมชุดป้องกันร่างกายส่วนบุคคล (PPE) เข้ารับตัวคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย ที่ด่านเปิงกาลันฮูลู รัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้ารับการตรวจคัดกรองตามมาตรการควบคุมโรค ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จ.ยะลา เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด รวมไปถึงการเข้มงวดในการตรวจคัดกรองพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าจากประเทศมาเลเซียที่เข้า-ออกด่านพรมแดนเบตงอีกด้วย
สาเหตุของการเพิ่มความเข้มงวด สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีชายไทย 2 คนเดินเข้ามาทางด่านพรมแดนเบตงอย่างถูกต้อง และตรวจพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 มี.ค. และเข้ารักษาตัวอยู่อยู่ที่โรงพยาบาลเบตงจนถึงปัจจุบัน
นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง กล่าวว่า สำหรับคนไทยทุกคนที่เดินทางมาจากมาเลเซีย ต้องผ่านการคัดกรองตั้งแต่ย่างก้าวเข้าสู่ประเทศไทย โดยต้องผ่านการฉีดยาฆ่าเชื้อ ตรวจสัมภาระ ซักประวัติ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย พร้อมกักตัว 14 วัน ที่ศูนย์ Local Quarantine ประจำอำเภอเบตง พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและสกัดการป้องกันเเรงงานข้ามชาติไม่ให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และขอความร่วมมือจากประชาชนตามแนวชายแดน หากพบเห็นผู้คนแปลกหน้าหรือแรงงานที่หลบหนีมาจากประเทศมาเลเซีย ให้แจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดในประเทศมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,470 คน ทำให้ผู้ติดเชื้อสะสมรวม 322,409 คน และเสียชีวิตแล้ว 1,206 คน ขณะนี้รัฐบาลมาเลเซียได้สั่งซื้อวัคซีน 66.7 ล้านโดส ซึ่งมากเกินพอสำหรับประชากรในประเทศ การฉีดวัคซีนแบ่งออกเป็น 3 เฟส โดยเฟสแรกจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงเดือน เม.ย.64 โดยจะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ 300,000 คน และบุคลากรแนวหน้าที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ 200,000 คน รวมถึงนักการเมือง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่สวัสดิการ
ส่วนผู้มีความเสี่ยงสูงประมาณ 9.4 ล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีนในเฟสสองระหว่างเดือน เม.ย.-ส.ค. ส่วนผู้ใหญ่อายุ 18 ปีขึ้นไปกว่า 16 ล้านคน จะได้รับการฉีดวัคซีนในเฟส 3 ตั้งแต่เดือนพ.ค. 64 จนถึง ก.พ.65 ซึ่งรัฐบาลมาเลเซียได้ตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างน้อย 80% ของประชากรทั้งหมด 32 ล้านคนภายในเดือน ก.พ.65