คนร้ายปล้นชิงรถกระบะส่งของเคอร์รี่ที่เมืองยะลา จับตัวคนขับมัดไว้ในบ้าน แล้วนำรถมาประกอบระเบิดเป็นคาร์บอมบ์ขับไปจอดหลัง สภ.รามัน เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้ายิงทำลายเก็บกู้พบเป็นระเบิดบรรจุถังแก๊ส 2 ลูกซุกในรถ เชื่อหวังก่อเหตุรุนแรง ผู้การยะลาสั่งปูพรมไล่ล่ากลุ่มคนร้าย ส่วนที่ปัตตานี คนร้ายประกอบยิง อส.สายบุรี เสียชีวิต ขณะกำลังไปละหมาด
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รังแจ้งจากนายบัยฮากี หลงลูวา ซึ่งเป็นพนักงานขับรถส่งของเคอรี่ ว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ขณะที่นายบัยฮากี กำลังขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แบบตอนเดียว สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน บฉ 3897 ยะลา ช่วงกระบะหลังมีตู้ปิดทึบ เพื่อไปส่งของบริเวณแยกปารามิแต บ้านรั้วตะวัน ม.7 ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา เมื่อถือของเข้าไปส่งในบ้าน ได้ถูกคนร้ายซึ่งมีจำนวน 5 คน ทำการผลักตัวนายบัยฮากีฯ เข้าไปในบ้านพัก จากนั้นคนร้ายจึงได้ใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะและมัดตัวนายบัยฮากีฯ เอาไว้ หลังจากนั้นจึงได้ทำการปล้นรถยนต์กระบะของนายบัยฮากีฯ แล้วหลบหนีไป ภายหลังนายบัยฮากีฯ ได้พยายามดิ้นจนหลุดจากเชือกที่มัดตัวไว้ จึงได้รีบเดินทางเข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา เพื่อให้ติดตามรถและที่ถูกคนร้ายปล้นขโมยรถไป
ในเวลา 12.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่า รถยนต์กระบะส่งของเคอรี่ของนายบัยฮากีฯ ที่ถูกคนร้ายปล้นมา ได้ถุกนำมาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณด้านหลัง สภ.รามัน ในพื้นที่ ม.1 ต.กายูบอเกาะ อ.รามัน จ.ยะลา ใกล้กับแฟลตของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองติดกับที่ว่าการอำเภอรามัน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปิดล้อมบริเวณพื้นที่โดยรอบเอาไว้ เพื่อรอทางเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ
ต่อมาทาง พล.ต.ต.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ ผบก.สส.จชต. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ได้เดินทางลงพื้นเข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน พร้อมปิดกั้นพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยก่อนเข้าตรวจสอบโดยรอบอย่างละเอียด ซึ่งเกรงว่า จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ได้ใช้หุ่นยนต์กู้ระเบิดเข้าไปตรวจสอบ ภายในรถกระบะที่ถูกปล้นมา พบว่า ภายในรถมีวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิด จึงได้เข้าทำการยิงทำลายวงจรระเบิด จนปลอดภัยแล้วได้เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าคนร้ายได้ทำรถคันดังกล่าวเป็นคาร์บอมบ์ โดยได้ประกอบระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊สปิคนิคจำนวน 2 ถัง น้ำหนักถังละ 15 กก. แล้วนำมาใส่ไว้ภายในห้องคนขับ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายที่ได้นำรถยนต์กระบะคาร์บอมคันดังกล่าวมาจอดเอาไว้ที่หลัง สภ.รามัน สวมเสื้อสีขาวแขนยาว สวมหน้ากากอนามัยใส่หมวกแก๊ปสีส้ม และมีคนร้ายอีกคนสวมเสื้อสีขาวแขนยาว สวมหน้ากากอนามัยใส่หมวกกันน๊อคสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียน มารับแล้วได้หลบหนีไปทางด้านหลัง สภ.รามัน อย่างรวดเร็ว ขณะนี้ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา ได้สั่งการผ่านวิทยุกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปูพรมค้นหากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นการด่วน
@@คนร้ายกระหน่ำยิงเจ้าหน้าที่ อส.สายบุรี ดับขณะกำลังจะไปละหมาด
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 12 มี.ค. 64 พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศ ผกก.สภ.สายบุรี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิง เหตุเกิดบนถนนสาย 42 หน้าปั๊มน้ำมันบีพี พื้นที่ ม.10 บ.ลูโบ๊ะซูหลง ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมประสานชุดพิสูจน์หลักฐานและชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้างบรรทุกสิ่งของเต็มคัน ไหล่ลงข้างถนน และใกล้กันพบศพผู้เสียชีวิตนอนคว่ำหน้าอยู่ ทราบชื่อ อส.มูฮำมัดคอยาฟี วาเด็ง อายุ 29 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ อส.ชุดคุ้มครองตำบลบางเก่า อ.สายบุรี สภาศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาดเข้าที่บริเวณด้านหลัง 2 นัด และศีรษะ 4 นัด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่พบปลอกกระสุนแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทราบว่า อส.มูฮำมัดคอยาฟีฯ ได้มาช่วยภรรยาขายของที่ตลาดนัด เนื่องจากเป็นวันพัก ก่อนเกิดเหตุ อส.มูฮำมัดคอยาฟีฯ ได้นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้างคันดังกล่าว ขับออกจากตลาดนัด เพื่อจะไปละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายไม่ จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบแล้วใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่เข้ากลางหลัง 2 นัดได้รับบาดเจ็บ จนทำให้รถเสียหลักเข้าข้างทาง ก่อนที่ อส.มูฮำมัดคอยาฟี พยายามที่จะหนี คนร้ายได้ลงจากรถและกระหน่ำยิงซ้ำที่ศีรษะอีก 4 นัด จนเสียชีวิตทันที หลังก่อเหตุคนร้ายจึงได้ขับรถหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุเร่งติดตามและสกัดกั้นคนร้ายที่ก่อเหตุ พร้อมทั้งเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามหาตัวคนร้าย ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นสาเหตุใดกันแน่