เจ้าหน้าที่ชุดป้องกันชายแดนออกลาดตระเวนพบแรงงานเมียนมา 45 คน ลักลอบเข้าไทยด้วยการข้ามแม่น้ำโก-ลก นราธิวาส หลบซ่อนในป่ารอคนมารับ เผยเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์ เจอพิษโควิด ตกงาน อยากกลับบ้าน จ่ายค่านายหน้า 3,100 ริงกิต พาข้ามแดน
เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ก.พ.64 ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ของ ร้อย ปชด.ที่ 3 ได้ทำการการลาดตระเวนตามแนวชายแดนริมแม่น้ำสุไหงโกลก บริเวณพื้นที่บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ได้พบรอบเท้าเป็นจำนวนมากเดินเข้าไปในป่าบริเวณดังกล่าว จึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ ทำให้พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 45 คน เป็นชาย 41 คน และเป็นหญิง 4 คน
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาทั้ง 45 คน ไปดำเนินการกักตัว เพื่อรอตรวจสอบโรคที่สนามกีฬามูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อรอให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสุไหงโกลกมาทำการตรวจคัดกรองโรคก่อนนำตัวส่งให้ทาง สภ.สุไหงโกลก ควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดี
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า แรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพแรงงานลูกจ้างในร้านอาหาร ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และทำงานก่อสร้าง ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซีย แต่ได้ตกงานมากกว่า2 เดือนแล้ว จึงอยากกลับบ้าน จึงเดินทางด้วยรถทัวร์จากกรุงกัวลาลัมเปอร์ มายัง อำเภอปาเสมัส รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นเมืองชายแดน โดยเสียค่ารถทัวร์ 30 ริงกิตต่อคน
หลังจากนั้นจึงได้นั่งรถส่วนตัวของนายหน้าชาวมาเลเซียมาบริเวณชายแดน ซึ่งจะมีคนนำทางมาส่งยังแนวริมแม่น้ำสุไหงโกลก เพื่อข้ามแม่น้ำมายังฝั่งประเทศไทย และให้รอหลบอยู่ในป่าเพื่อรอนายหน้าฝั่งไทยมารับตัว แต่ก็มาถูกทางเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน ซึ่งแรงงานต่างด้าวต้องเสียเงินค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้า เป็นเงิน 3,100 ริงกิต หรือประมาณ 23,250 บาท
ในช่วงเช้าของวันที่ 3 มี.ค.64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสุไหงโกลก ได้ทำการคัดแยกและจัดเก็บตัวอย่างเพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด ก่อนที่จะนำตัวแรงงานเมียนมาทั้งหมด กระจายกันฝากขังตามโรงพักในพื้นที่บริเวณชายแดน เพื่อรอดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การเฝ้าระวังตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ช่วงนี้มีความจำเป็นมากที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดขึ้น เพราะคาดการณ์๋ว่าในอนาคตอันใกล้จะมีแรงงานต่างชาติลอบข้ามแดนเข้าไทยอีกมาก เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และผลกระทบด้านเศรษฐกิจของมาเลเซียหนักกว่าไทย
ขณะเดียวกันมีรายงานด้วยว่า ทางการมาเลย์เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่เข้าไปทำงานในมาเลเซีย เพราะถือว่าเป็นการแย่งงานคนมาเลย์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโควิด-19 จึงมีแรงงานบางส่วนต้องหลบหนีออกนอกประเทศ และทะลักเข้ามาตามแนวชายแดนมาเลเซีย-ไทย