เหตุการณ์ซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4513 ขณะออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านแฮ บ้านย่อยของบ้านบองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ก.พ.64 ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งที่เกิดเหตุรุนแรงในเขตเทือกเขาตะเว
เพราะหมู่บ้านที่ทหารพรานกำลังปฏิบัติการลาดตระเวนจรยุทธ์ด้วยการเดินเท้า เป็นหมู่บ้านเชิงเขาตะเว ซึ่งเทือกเขาแห่งนี้เป็นสถานที่หลบซ่อนตัวและตั้งฐานสนับสนุนของกลุ่มก่อความไม่สงบ หรือที่เรียกว่า support site ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
รูปแบบการซุ่มโจมตีของคนร้ายนับว่าน่าพิจารณา เพราะเป็นการดักทำร้ายกำลังพลที่ใช้การลาดตระเวนเดินเท้า ไม่ได้ใช้ยานพาหนะบนท้องถนน ขณะเดียวกันยังใช้ระเบิดขว้าง ซึ่งยังไม่ชัดว่าเป็นวัตถุระเบิดทางทหาร หรือเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบ "ไปป์บอมบ์" ขว้างใส่เพื่อทำให้เกิดเสียงดัง คล้ายเป็นสัญญาณหรือเปิดทางก่อนระดมยิงโจมตีด้วย
เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า แต่เดิม "ระเบิดขว้าง" คนร้ายมักใช้ในเวลากลางคืน เพื่อก่อเหตุโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ หรือโยนใส่บ้านเรือนราษฎรไทยพุทธ แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดฉากการก่อเหตุด้วย "ระเบิดขว้าง" จึงน่าเชื่อว่ากลุ่มก่อความไม่สงบมีความพยายามเปลี่ยนรูปแบบหรือวิธีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปิดจุดอ่อนของฝ่ายเจ้าหน้าที่ ฉะนั้นกำลังพลจะประมาทไม่ได้อย่างเด็ดขาด
การก่อเหตุรุนแรงที่ทำให้กำลังพลเสียชีวิตคราวเดียวถึง 2 นาย เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ในทางยุทธวิธี โดยเฉพาะกับสถานการณ์ชายแดนใต้ ณ พ.ศ.นี้ ซึ่งนับเป็นปีที่ 18 ของไฟใต้ระลอกปัจจุบัน
เหตุนี้เอง พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงต้องเดินทางลงพื้นที่หลังเกิดเหตุแทบจะทันที โดยไปที่กองร้อยทหารพรานที่ 4904 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหรพรานที่ 49 บ้านบือจ๊ะ ต.ผดุงมาตร อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และเรียกประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ทันควัน
ในที่ประชุม แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยจัดตั้งศูนย์บังคับการทางยุทธวิธี หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ที่บ้านบือจ๊ะ เพื่อควบคุมและอำนวยการติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ตลอดจนปฏิบัติการในการลาดตระเวนค้นหาแะควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ โดยสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมทางยุทธวิธีค้นหาเป้าหมาย เร่งตรวจสอบรวบรวมวัตถุพยานต่างๆ กดดันทั้งพื้นที่ป่า ขอบเขา และเฝ้าตรวจทางอากาศ ตรวจสอบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว
นอกจากนี้ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่เพิ่มมาตรการคุ้มครองเส้นทาง ประสานกำลังทุกภาคส่วนรักษาความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว สามารถแจ้งได้ที่เบอร์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-1732999 และเบอร์สายด่วน 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เวลา 10.00 น.วันศุกร์ที่ 26 ก.พ.64 ที่วัดบางนรา อำเภอเมือง จ.นราธิวาส พล.ท.เกรียงไกร ได้เป็นประธานในพิธีวางหรีดเคารพศพและรดน้ำศพ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ศรราม ราชรักษ์ สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4501 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ที่เสียชีวิตจากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิด และใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ขณะทำการลาดตระเวนจรยุทธ์ในพื้นที่ป่าภูเขาและหมู่บ้านเชิงเขาตะเว บริเวณบ้านแฮ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตจำนวน 2 นาย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 นาย
พล.ท.เกรียงไกร ได้วางหรีดเคารพศพของนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการทหารบก และแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมมอบเหรียญบางระจันเพื่อเชิดชูเกียรติแก่วีรชนผู้กล้าที่เสียสละเพื่อความสงบเรียบร้อยของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นจากผู้บัญชาการทหารบก และจากแม่ทัพภาคที่ 4 แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต
ต่อมา ได้มีพิธีส่งศพ อส.ทพ.ศรราม ที่สนามบินบ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนา จ.นครศรีธรรมราช โดยมีแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานในพิธี เพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารกล้า นักรบแห่งชายแดนใต้
จากนั้น พล.ท.เกรียงไกร ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ อส.ทพ.ทิวากร บุญแสน สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4501 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เดียวกัน และเดินทางต่อไปยังหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อพบกับครอบครัวของ อส.ทพ.บาฮาวี มะรือสะ สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4508 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ซุ่มโจมตี เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้แก่ครอบครัว ตลอดจนวางแนวทางดูแลด้านสิทธิและสวัสดิการอื่นๆ รวมทั้งพิจารณาบรรจุทายาทเป็นทหารพราน เพื่อทดแทน อส.ทพ.บาฮาวี อีกด้วย