คนร้ายลอบวางเพลิงเผาป้อม ชรบ.บ้านท่าล้อ อ.จะนะ พร้อมเผากล้องวงจรปิดอีกหลายสิบตัวในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา และ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี คาดเชื่อมโยงเหตุป่วนวานนี้ "ไม้แก่น" พื้นที่เลิก พ.ร.ก.โดนด้วย ด้าน ฉก.นราธิวาส รวบผู้ต้องสงสัยเอี่ยวเหตุดักระเบิดรถตำรวจศรีสาครสอบเครียด ขณะที่อีโอดีตรวจพบระเบิดอีก 2 ลูก บริเวณเสามือถือ เชื่อหวังทำร้าย จนท.ตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 01.20 น.วันที่ 1 ก.พ.64 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาประดู่ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าบริเวณ 3 แยกทางเข้าวัดโมลีนิมิต (วัดบ้านหรั่ง) ในพื้นที่ บ้านชะเมา ม.2 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจริงเข้าตรวจสอบพร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของ อบต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ เข้าฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิง เบื้องต้นพบกล้องวงจรปิด ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 ตัว
ขณะที่ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา เวลาประมาณ 06.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เทพา ได้รับแจ้ง จากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ บ้านคลองขุด ม.6 ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา หลังจากตรวจสอบพบกล้องวงจรปิดเสียหายจำนวน 10 ตัว
นอกจากนี้ในช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาป้อมยามชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ของหมู่ 3 บ้านท่าล้อ ต.สะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา รวมทั้งกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าป้อมยามได้รับความเสียหาย ซึ่งป้อมยามแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน
ต่อมาในเช้าของวันนี้ (1 ก.พ.) ทาง พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ นำกำลังตำรวจ สภ.จะนะ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดหรืออีโอดี ตชด.43 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในที่เกิดเหตุพบว่า คนร้ายได้นำยางรถยนต์ไปวางไว้ที่ประตูป้อมยามรวมทั้งนำยางในรถจักรยานยนต์ไปแขวนไว้ที่กล้องวงจรปิด ซึ่งอยู่บนเสาหน้าป้อมยามและจุดไฟเผาทำให้บริเวณหน้าป้อมยามได้รับความเสียหายทั้งประตูและหลังคา รวมทั้งกล้องวงจรปิดถูกเผาเสียหายไป 3 ตัว ทั้งที่ติดอยู่ที่เสาและหน้าป้อมยาม และยังพบคบเพลิง 1 อันที่ใช้จุดไฟเผาตกอยู่บริเวณเสากล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ชรบ.ที่เข้าเวรอยู่ในคืนเกิดเหตุบอกว่า ช่วงที่คนร้ายลงมือก่อเหตุ เกิดขึ้นราวเที่ยงคืน หลังจากที่ ชรบ.ชุดนี้ได้ออกเวรไปแล้ว แต่ในช่วงค่ำมีรถเก๋งต้องสงสัยคันหนึ่งขับเวียนหลายรอบแต่ยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องหรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์เชื่อมโยงกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการลอบวางระเบิดและก่อนกวนหลายจุดใน 1-2 วันที่ผ่านมา และกำลังตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย
ส่วนเมื่อค่ำของวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทวีวงศ์ สุนทรพงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ไม้แก่น ได้รับแจ้งเกิดเหตุ คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายดอนยา มามะ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/2 หมู่ 2 ต.ดอนทราย อไม้แก่น จ.ปัตตานี ถูกยิงเข้าที่ศรีรษะด้าวขวา 1 นัด และโหนกแก้มขวา 1 นัด เสียชีวิตขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไม้แก่น เหตุเกิดที่บริเวณถนนในหมู่บ้านรังมดแดง ม.2 ต.ดอนทราย อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเกตุขณะที่นายดอนยา ผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างเดินทางจะกลับบ้านพัก ห่างจากบ้าน100 เมตร ได้มีคน ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงใส่จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุคนร้ายจึงได้หลบหนีไป ซึ่งประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวน
สำหรับพื้นที่ อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เป็นอำเภอที่ก่อนหน้านี้ ได้รับการประกาศยกเลิกการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปเมื่อวันที่ 20 ก.ย.63 ที่ผ่านมา
@@ทหารรวบผู้ต้องสงสัยวางบึ้ม ตร.ศรีสาคร นำตัวไปสอบเครียด
ความคืบหน้าเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย บนถนนในหมู่บ้านไอร์กาแซ ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ขณะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุลอบวางเพลิงเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือ แขวนป้ายผ้า
วันที่ 1 ก.พ.64 ทาง พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายจำนวน 1 คน ซึ่งกำลังกรีดยางอยู่ในละแวกใกล้จุดเกิดเหตุ ไปทำการสอบปากคำเพื่อขยายผลที่ศูนย์ซักถามภายในหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 อ.เมืองนราธิวาส
โดยแหล่งข่าวความมั่นคงได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกเชิญตัวไปสอบปากคำรายนี้ เป็นน้องชายของนายมะรอพี บาเหม ซึ่งก่อเหตุลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ในปี 2553 ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากพบว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จะจัดทำประวัติไว้ก่อนที่จะปล่อยตัวไป
สำหรับพื้นที่ อ.ศรีสาคร เป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของนายอับดุลการรี อาแว ผู้ต้องหาตามหมายจับ คดีอาญาหลายคดี ซึ่งเป็นระดับแกนนำสั่งการ เป็นคน อ.รือเสาะ แต่มีภรรยาเป็นคนใน ต.ศรีสาคร ส่วนสมาชิกแนวร่วมที่ลอบก่อเหตุในพื้นที่ อ.ศรีสาคร ทั้งลอบวางระเบิด เผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือและพ่นสีไล่เจ้าหน้าที่ทหาร คาดว่า มีจำนวนประมาณ 12 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม 3 ฝ่ายในพื้นที่ อ.ศรีสาคร กำลังวางแผนเพื่อหาเป้าหมายที่ชัดเจน ก่อนนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นในช่วงบ่ายของวันนี้
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร ที่ด้รับบาดเจ็บทั้ง 5 นาย ล่าสุดทาง ร.ต.อ.พนมกร แซ่ฮ่อน รองสารวัตรสืบสวน สภ.ศรีสาคร ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ส่วนอีก 3 ราย คือ ส.ต.อ.นเรศ สัญกูล , ส.ต.ท.ปิยพงษ์ เพ็ชรจำรัส , ส.ต.อ.ธีรศักดิ์ พรภักดี ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสิริรัตนรักษ์ จ.ยะลา ส่วนอีกรายคือ ด.ต.ยุทธกร เรืองเพ็ง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์
@@เก็บกู้ระเบิดอีก 2 ลูกบริเวณเสามือถือ เชื่อหวังทำร้าย จนท.ตรวจที่เกิดเหตุ
สำหรับเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีสาคร ขณะกำลังนำทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่และเหตุแขวนป้ายผ้าก่อกวนในพื้นที่ บ้านไอกาแซร์ ม.6 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ ( 31 ม.ค.64) หลังจากทางชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด กก.ปพ.ภ.จว.นราธิวาส ได้ทำการเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ 3 จุด ดังนี้
จุดแรกที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าเป็นวัตถุระเบิดแบบแสวงเครื่อง ภาชนะบรรจุวัตถุระเบิดเป็นถังแก๊ส ขนาดบรรจุแก๊ส 15 กก. ฝังไว้ใต้ถนนบนท่อลอด น้ำหนักวัตถุระเบิดประมาณ 60-80 กก. จุดชนวนระเบิดด้วยวิธีการลากสาย วัตถุพยานที่พบ ชิ้นส่วนถังแก็ส, สะเก็ดระเบิดเหล็กเส้นตัดท่อนคละขนาด, สายไฟ ขนาด 2x0.5 sq.mm, ชุดวงจรขยายกระแสไฟฟ้า
ส่วนจุดที่ 2 ห่างจากจุดแรกประมาณ 1 กม. บริเวณเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ พบว่าเป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง ถูกขว้างออกมาแล้วแต่ไม่เกิดการระเบิด ภาชนะบรรจุเป็นท่อเหล็กทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.5 นิ้ว น้ำหนักวัตถุระเบิดประมาณ 700 – 800 กรัม วัตถุพยานที่พบ ท่อเหล็ก, ชิ้นส่วนจุกปิดท้าย PVC
ส่วนจุดที่ 3 ห่างจากจุดที่ 2 ประมาณ 50 เมตร บริเวณเสาไฟฟ้า พบว่า เป็นวัตถุระเบิดแสวงเครื่องวางไว้ข้างเสาไฟฟ้า ภาชนะบรรจุเป็นท่อเหล็กทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ้ว น้ำหนักวัตถุระเบิด 10 กก. วัตถุพยานที่พบ ท่อเหล็ก, เหล็กเส้น, ปลั๊กตัวผู้, สายไฟสีแดง, สายไฟสีดำ, ชิ้นส่วนหลอดดินขยายการระเบิด, ชุดขยายวงจรกระแสไฟฟ้า
ซึ่งระเบิดอีก 2 จุดที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้นั้น เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ตั้งใจหมายที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เช่นเดียวกับจุดแรกที่มีการลอบวางระเบิดบนถนน แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบและเก็บกู้ระเบิดไว้ได้เสียก่อน