รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย ลงพื้นที่ อ.บันนังสตา เยี่ยมชาวบ้านประสับภัยน้ำท่วมพร้อมมอบถุงยังชีพ ตัวเลขผู้เดือดร้อน 12,139 ครัวเรือน ขณะที่ระดับน้ำยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ถนนหลายสายรถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่ ฐาน ตชด.ชุดพิทักษ์ป่าฮาลา บาลา น้ำท่วมสูงถึงหลังคา ปัตตานีเจอมวลน้ำเขื่อนบางลางจมหลายตำบล ชาวบ้านร้องขอความช่วยเหลือ
วันที่ 8 ม.ค.64 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งจุดแรก นายนิพนธ์ และคณะได้เดินทางไปยังกองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน จ.ยะลา ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อทำการมอบถุงยังชีพจำนวน 300 ชุด ซึ่งมีนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมต้อนรับและรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังบ้านหัวสะพาน ม.2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เพื่อไปมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอีกจำนวน 300 ชุด
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นหน่วยงานขับเคลื่อนการป้องกันและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยผ่านจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดยะลาได้ดำเนินการแจ้งเตือนภัยให้ความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนเป็นอย่างดี รวมทั้งสามารถรองรับผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วยมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างเต็มที่ โดยหลังจากนี้ก็จะเข้าสู่การช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยที่อยู่ในแผนที่จะดำเนินการแล้ว
จากข้อมูลรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ยะลา พบว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 8 อำเภอ 52 ตำบล 265 หมู่บ้าน 7 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 12,139 ครัวเรือน 47,909 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายที่ อ.รามัน สิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย เป็นถนน 51 สาย เป็นสะพาน 11 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตร 1,528 ไร่ ปศุสัตว์ 1,501 ตัว ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 4 อำเภอ คือ อ.เบตง อ.ธารโต อ.ยะหา และ อ.กาบัง ยังคงมีอำเภอที่มีสถานการณ์น้ำท่วมอยู่อีก 4 อำเภอ คือ อ.เมืองยะลา อ.รามัน อ.บันนังสตา และ อ.กรงปินัง
@@ถนนเข้าเมืองยะลา-บ้านเนียง รถเล็กผ่านไม่ได้
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา เริ่มขยายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปัตตานี ต.ท่าสาป ต.ยุโป ต.ตาเซะ อ.เมืองยะลา น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ส่วนเส้นทางที่จะเข้าสู่ตัวเมืองยะลา บริเวณถนนสายยะลา-บ้านเนียง เนื่องจากน้ำมีระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ต้องเบี่ยงใช้เส้นทางลัด ยะลา-ลำใหม่
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ท่าสาป หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6 ได้รับความเดือดร้อน ต้องอพยพมาอยู่ริมถนนสาย 418 ชั่วคราว โดยมีหน่วยงานภาครัฐและสำนักงานสรรพากรจังหวัดยะลา ทำครัวปรุงอาหาร ข้าวกล่อง ไข่เจียว แจกชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น จำนวน 200 กล่อง
@@มอบเงินผู้เสียชีวิต เหตุดินสไลด์ อ.เบตง
สถานการณ์ในพื้นที่ อ.เบตง บริเวณจุดเกิดเหตุดินสไลด์ทับเส้นทางเข้า-ออก หมู่บ้านราโมง ม.5 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ทางนายพรชัย ซาแลง ผู้ช่วยนายช่างโยธา อบต.ยะรม ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ดินสไลด์ พบว่า เส้นทางดังกล่าวยังยานพาหนะสามารถสัญจรได้ปกติ แต่ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากหน้าดินยังไม่แห้ง อาจจะมีการสไลด์ลงมาอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำแผงกั้นเหล็ก ให้ระมัดระวังเส้นทางในการเดินทางผ่านจุดดังกล่าว และในส่วนของสะพานทางเข้าหมู่บ้านในพื้นที่ ม. 4 ต.ยะรม เกิดชำรุดได้รับความเสียหายจากท่อนไม้และเศษไม้ที่มากับมวลน้ำที่ไหลทะลักเข้ามา
ด้านนายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้เดินทางไป อ.เบตง เพื่อเป็นประธานมอบเงินสงเคราะห์ จำนวน 10,000 บาท ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้กับสนามชิกในครอบครัวของ นางบีเดาะ ฮาบิน อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119 ม.1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดินสไลด์ถล่มทับบ้านในขณะที่นายบีเดาะฯ กำลังนอนหลับอยู่ภายในห้องนอน เหตุเกิดเมื่อ 03.00 น.ของวันที่ 20 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบเงินสงเคราะห์ช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยพิบัติ
@@ฐาน ตชด.พิทักษ์ป่าฮาลาบาลา น้ำท่วมสูงถึงหลังคา
จากสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนตกสะสมในเขตพื้นที่ป่าฮาลาบาลา ทำให้มีมวลน้ำไหลลงมาสู่เขื่อนบางลางเป็นจำนวนมาก จนทำให้ฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ชุดพิทักษ์ป่าพระนามาภิไธย ส่วนที่ 2 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา ได้เกิดน้ำท่วมที่ตั้งฐาน โดยส่วนแรกฐานนางนวล ซึ่งเป็นฐานทางเข้าป่าฮาลาบาลา น้ำได้ท่วมเต็นท์ที่นอน ห้องครัว และบก. ควบคุม แต่เจ้าหน้าที่ยังพอที่จะสามารถผูกเปลนอนได้ แต่อุปกรณ์สื่อสาร ทั้งวิทยุ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้ ทางผู้บังคับบัญชาได้นำแพ ไปให้ใช้สำหรับพักอาศัยหลับนอนชั่วคราว
ส่วนฐานที่ 2 คือฐานฮาลา น้ำได้ท่วมสูง 2-3 เมตร เต็นท์นอนน้ำท่วมถึงหลังคา เต็นท์บางหลังได้จมมิด โรงครัว ห้องน้ำ บก.ควบคุม ถูกน้ำท่วมหมด วิทยุสื่อสาร ไฟฟ้า ก็ไม่สามารถใช้การได้เช่นกัน ส่วนข้าวของเครื่องใช้ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องรวมกันไปพักที่ ชั้น2 อาคารนกเงือก ซึ่งเป็นสถานที่เดียวที่น้ำยังท่วมไม่ถึง แต่ถ้ายังมีฝนตกหนักลงมาอีกหรือมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปริมาณน้ำที่ทางเขื่อนบางลางปล่อยน้ำก็คงท่วมสูงอีก เจ้าหน้าที่ ตชด. ก็คงต้องนอน บนเรือหางยาว
ก่อนนี้ทาง พ.ต.ท.อรรถพล จินตาคม ผบ.ร้อย ตชด.445 พร้อมกำลังพลชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้นั่งเรือท้องแบนของหน่วยเข้าพื้นที่ฐานปฏิบัติการ ชุดพิทักษ์ป่าพระนามาภิไธย เพื่อนำข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไปมอบให้ กำลังพลตำรวจตระเวนชายแดน ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาป่าพระนามาภิไธยหรือป่าฮาลาบาลา ซึ่งประสบปัญหาน้ำท่วมฐาน เนื่องจากฝนตกหนักตั้งแต่คืนวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและให้กำลังใจ ซึ่งกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ทุกนายยังมีกำลังใจที่ดี ยังยิ้มแย้ม พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาอย่างเป็นกันเอง พร้อมทั้งขับเรือเวียนสำรวจโดยรอบฐานและตามเต็นท์ที่พักที่โดนน้ำท่วม ซึ่งน้ำท่วมฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ ตชด. ครั้งนี้ น้ำได้ท่วมมากกว่าเมื่อปี พ.ศ.2558 คาดว่าระดับน้ำจะลดในเร็ววัน เนื่องจากฝนเริ่มตกน้อยลดและทางเขื่อนบางลางก็ได้ทำการปล่อยน้ำแล้ว อีกไม่นานคงเข้าสู่สภาวะปกติ
@@น้ำเขื่อนท่วมปัตตานีหลายตำบล - ชาวบ้านร้องขอถุงยังชีพ
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลังจากที่ จ.ยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นทางของมวลน้ำที่ถูกปล่อยออกมาจากเขื่อนบางลาง ได้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1- 2 วันที่ผ่านมา ขณนี้ะมวลน้ำจาก จ.ยะลา ได้ไหลมาถึงเขต อ.เมือง จ.ปัตตานี ทำให้เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ ต.สะบารัง ต.บาราเฮาะ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ถนนหลายสายในหมู่บ้านก็เกิดน้ำท่วม ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถผ่านเข้า-ออกพื้นที่ได้
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ นับเป็นน้ำท่วมรอบที่ 2 จากรอบแรกเมื่อช่วงปลายปี 2563 ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนใน เขต อ.เมืองปัตตานี ต้องการให้ทางหน่วยงานทางภาครับเข้ามาช่วยเหลือ มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือนร้อนในเบื้องต้นให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม